เครื่องซักผ้า LG ทำไมจึงครองใจผู้ใช้จนเป็นเบอร์ 1 ในทุกเซกเมนต์
ถ้าพูดถึงเครื่องซักผ้าเชื่อว่าแบรนด์แรกที่หลายคนนึกถึงคือ LG แบรนด์ที่มีสินค้าให้เลือกมากที่สุด และเป็นเบอร์ 1 ในตลาดเครื่องซักผ้าติดต่อกันมานานหลายปี
ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นและมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาชิงส่วนแบ่งอย่างต่อเนื่อง เชื่อหรือไม่ว่าปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เครื่องซักผ้า LG มียอดขายน้อยลงแต่อย่างใด ในทางกลับกันยังคงสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้มากถึง 35% เป็นเบอร์ 1 ในทุกเซกเมนต์ และล่าสุดกับการคว้ารางวัล No.1 Brand Thailand แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ประจำปี 2567 ในกลุ่มเครื่องซักผ้าได้สำเร็จอีกครั้ง
ทั้งหมดนี้สะท้อนความแข็งแกร่งทั้งในมิติการสร้างแบรนด์และยอดขายของ LG ที่เพิ่มขึ้นทุกปี
ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ (Innovation for a Better Life) คือหัวใจหลักสำคัญที่ทำให้ LG มุ่งมั่นที่จะส่งมอบชีวิตที่ดีให้แก่ผู้บริโภคตามสโลแกน Life’s Good

อำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกถึง Key Success ที่ทำให้เครื่องซักผ้า LG ครองใจผู้บริโภคมาตลอดระยะเวลาหลายปี ให้ฟังว่า
“Key Success ของ LG คือ การใส่ใจผู้บริโภค เราพัฒนาผลิตภัณฑ์และใส่เทคโนโลยีตามโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละยุคสมัยและก้าวนำความต้องการของตลาดอยู่เสมอ เราปรับและเพิ่มฟังก์ชันใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มตัวเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค”
ยกตัวอย่างฟังก์ชันหรือเทคโนโลยีที่กล่าวถึงในข้างต้น ได้แก่
LG ThinQ™ แอปพลิเคชันเพื่อสั่งงาน ควบคุม และตรวจสอบการทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้า LG ผ่านสมาร์ตโฟนได้ทุกที่ทุกเวลา
AI DD™ นวัตกรรมซักผ้าอัจฉริยะ ช่วยตรวจจับน้ำหนักและความอ่อนนุ่มของเนื้อผ้า เพื่อเลือกการตั้งค่าการซักที่เหมาะสม ซึ่งช่วยถนอมผ้ามากขึ้นถึง 18%
ฟังก์ชัน Steam+™ ใช้ไอน้ำร้อนเพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ฝุ่นขนาดเล็กในใยผ้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้หรือปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจได้ถึง 99.9% และยังสามารถลดรอยยับของเสื้อผ้าได้ถึง 30% ช่วยประหยัดเวลาในการรีดผ้ามากขึ้น
ฟังก์ชัน TurboWash™ 360° ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องทำให้ซักสะอาดอย่างรวดเร็ว ภายใน 39 นาที ช่วยประหยัดเวลา ประหยัดน้ำ และพลังงาน
“สิ่งที่เราจะไม่ทำคือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีต้นทุนด้านราคาที่ต่ำเพื่อจะได้แข่งขันด้านราคา เพราะสุดท้ายสินค้าจะไม่มีคุณภาพ ผู้บริโภคใช้แล้วมีปัญหาไม่เกิดการซื้อซ้ำ แต่สิ่งที่เราจะทำ คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุด ในวันหนึ่งที่ถึงเวลา Replacement Cycle เขาจะกลับมาซื้อแบรนด์เดิม และอาจจะเป็นเวอร์ชันพรีเมียมขึ้นตามรายได้ที่มากขึ้น” อำนาจกล่าวย้ำ
เครื่องซักผ้า LG เบอร์ 1 ในทุกเซกเมนต์
อย่างที่เกริ่นในข้างต้นว่า LG คือแบรนด์เครื่องซักผ้าที่ครองตำแหน่งผู้นำในทุกเซกเมนต์ ทั้งเครื่องซักผ้า 2 ถัง, เครื่องซักผ้าถังเดียวซึ่งเป็นพอร์ตที่ใหญ่ที่สุด และเครื่องซักผ้าฝาหน้า หรือกลุ่มพรีเมียม
LG เองเน้นทำตลาดที่ “กลุ่มพรีเมียม” หรือกลุ่มเครื่องซักผ้าที่มีมูลค่า 20,000 บาทขึ้นไปมากขึ้น โดยให้เหตุผลว่าเป็นเซกเมนต์ที่เติบโตที่สุด และผู้บริโภคเองมีกำลังซื้อ รวมถึงมองหานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบัน

ยกตัวอย่างเครื่องซักผ้า LG WashTower™ เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าในเครื่องเดียว ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย แถมดีไซน์แบบทาวเวอร์ทรงสูงไม่กินพื้นที่ภายในบ้าน มาพร้อมราคา 109,000 บาท ถือเป็นเครื่องซักผ้าที่แพงที่สุดในตอนนี้
แต่ LG สามารถขายได้เดือนละเกือบ 500 ตัว สะท้อนกำลังซื้อและความต้องการของลูกค้ากลุ่มพรีเมียมเป็นอย่างดี และปัจจุบัน LG สามารถครองส่วนแบ่งเครื่องซักผ้ากลุ่มพรีเมียมได้มากถึง 40%
เมื่อถามว่า LG จะสามารถรักษาตำแหน่งแชมป์ไว้ได้อย่างไร ในวันที่ตลาดเป็น Red Ocean แบบนี้ อำนาจให้คำตอบไว้อย่างน่าสนใจ
“เรามุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่อง หลายคนบอกว่าเทคโนโลยีมันตามกันทัน แต่ผมคิดว่าไม่ได้ตามกันง่าย ๆ
LG เรามีเทคโนโลยีที่โดดเด่นและแตกต่าง ตั้งแต่มอเตอร์ Inverter Direct Drive ที่เพิ่มประสิทธิภาพการซัก เครื่องทำงานเงียบ นิ่ง ทนทานมากขึ้น กระจายพลังงานน้อยกว่า ช่วยลดการใช้พลังงานมากขึ้น
LG เป็นแบรนด์แรกที่นำนวัตกรรมนี้มาใช้ หรือหลายแบรนด์นำเครื่องซักผ้ามาซ้อนกัน แต่สำหรับ LG WashTower™ เราดีไซน์ให้ปุ่มควบคุมอยู่ตรงกลางเพื่อตอบโจทย์การใช้งานจริง ๆ เหล่านี้มันแสดงถึงความใส่ใจในการพัฒนาและการเป็นผู้นำของเรา”

ขณะเดียวกัน ในมุมการสร้างแบรนด์ ในช่วงที่ผ่านมาแอลจี อีเลคทรอนิคส์ ทำ Branding มากขึ้น เพื่อสะท้อนคุณค่าตามสโลแกน “Life’s Good” ที่ครอบคลุมความตั้งใจของแอลจีในการยกระดับคุณภาพชีวิต และช่วยให้ลูกค้ามีความสุขกับช่วงเวลาที่มีค่า ผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ บริการ และการสื่อสารจากแอลจี
“จะเห็นว่า Brand Image ที่ดูมีชีวิตชีวาและเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากกว่าเดิม ในทุกทัชพอยต์ เราตั้งเป้าสร้าง Engagement กับลูกค้าให้มากขึ้นผ่านภาพลักษณ์ใหม่นี้ที่ดูมีชีวิตชีวาและเข้าถึงได้ง่าย ในขณะเดียวกันก็เสริมลูกเล่นใหม่เข้าไปในภาพลักษณ์เดิมของแบรนด์ด้วย” อำนาจ กล่าวทิ้งท้าย

–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
