เอสซีจี เป็นเบอร์ 1 ในตลาดสมาร์ทบอร์ดและกระเบื้องหลังคา เพราะรับฟังเสียงลูกค้าและให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
เป็นอีกครั้งที่ “เอสซีจี” ตอกย้ำความเป็นผู้นำที่สร้างความประทับใจและความไว้วางใจให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศเลือกให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจ Marketeer No.1 Brand Thailand 2024 ถึง 2 รางวัล ทั้งสินค้าในหมวด “ไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด” และหมวด “กระเบื้องหลังคา” ต่อเนื่องอีกหนึ่งสมัย
ภายใต้การนำทัพโดย คุณอัญชลี ชวนะลิขิกร Head of Housing Product Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี/กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไฟเบอร์ซีเมนต์กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท เอสซีจี รูฟฟิ่ง จำกัด ที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์โดยยึดหลัก “Customer Centric” มีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง พร้อมสร้างสรรค์โซลูชันเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น
“Customer Centric” แกนหลักพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของเอสซีจี
คุณอัญชลีกล่าวว่า Key Success ที่ทําให้เอสซีจีประสบความสำเร็จในวันนี้ คือ การ ‘รับฟังเสียงของลูกค้า’ มาโดยตลอด แล้วใช้ปัจจัยดังกล่าวมาต่อยอดสู่การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการอยู่อาศัยที่สบายของทุกคนด้วยสินค้าและบริการที่ดีที่สุด
“เสียงจากผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เรารับฟังและเก็บข้อมูลมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่นํามาสู่การค้นคิดนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาต่อยอดเป็นสินค้าที่มีประสิทธิภาพตอบโจทย์ และพัฒนาระบบที่สมบูรณ์ เพื่อให้บ้านอยู่สบายด้วยวัสดุศาสตร์ที่สามารถตอบโจทย์ได้หลากหลาย
ยิ่งไปกว่านั้น เอสซีจีได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิต สุขภาพของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเร่งพัฒนาสินค้าวัสดุก่อสร้าง อาทิ หลังคา สมาร์ทบอร์ด ไม้สังเคราะห์ ฉนวน ฯลฯ และบริการที่ช่วยลดผลกระทบด้านสุขภาพต่อผู้ใช้งานทั้งผู้อยู่อาศัยตลอดจนผู้ติดตั้งสินค้า
นอกจากนี้ ในฐานะผู้นำตลาด เราได้ขยายตลาดสินค้ากลุ่มเพื่อที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้สัญลักษณ์ SCG Green Choice ที่ไม่เพียงมุ่งลดการปล่อยคาร์บอนจากตัววัสดุ แต่ยังมองไปถึงวัสดุที่ช่วยดูดซับคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศได้อีก (Carbon Negative Product)
รวมไปถึงแนวทางการพัฒนานวัตกรรมและการตลาดของหลังคา สมาร์ทบอร์ด ไม้สังเคราะห์ ฉนวน เป็นต้น ด้วยนิยาม ‘Greenomy Innovation’ โดยเริ่มจาก Green ผนวกเข้ากับ Economy ที่นอกจากการพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของห่วงโซ่ที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังผลักดันนวัตกรรม Green ให้สามารถใกล้ชิดกับผู้บริโภคได้มากขึ้น เข้าถึงง่ายและกว้างขึ้น
ซึ่งทั้งหมดก็ล้วนมาจากการดำเนินการตามหลัก “Customer Centric” โดยมีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ขับเคลื่อนจากการฟังเสียงของลูกค้าทั้งสิ้น”

สินค้าที่ดีต้องตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและโลกของเรา เพื่อผ่อนคลายวิกฤตโลกร้อน
สำหรับภาพรวมตลาดในปัจจุบันนั้น คุณอัญชลีมองว่า ยังคงมีโอกาสใหม่ ๆ อยู่ในกลุ่มตลาดสร้างบ้านระดับบน ภายใต้โจทย์คือ เจ้าของบ้านที่อยากได้บ้านที่ดีขึ้น ที่เหมาะสมกับสภาวะแวดล้อม แต่ในกลุ่มตลาดทั่วไปมีปัจจัยเรื่องของสภาพอากาศและความแล้ง ทำให้ตลาดยังคงทรงตัว แต่ต้องรอดูไตรมาส 4 ว่าจะไปในทิศทางใด ส่วนตลาดงานโครงการต่าง ๆ เช่น คอนโดมิเนียม โรงงานอุตสาหกรรม ยังคงเติบโต
ทั้งนี้ ในฐานะผู้นํา คุณอัญชลีมองว่าเทรนด์ของตลาดควรแข่งขันกันเรื่องคุณภาพ และการนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด รวมไปถึงการผลิตสินค้าที่ดีต่อทั้งคนและโลก เพื่อตอบโจทย์สิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืน บรรเทา “วิกฤตโลกร้อน” ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก
“ต้องบอกว่าพวกเราเผชิญสิ่งที่เรียกว่าความร้อนอย่างรุนแรง วันนี้เราได้เจอกันแล้วใน Heat Wave เมื่อต้นปี 2567 ที่ผ่านไป เอสซีจีตระหนักถึงวิกฤตนี้และพยายามที่จะใช้นวัตกรรมหรืองานวิจัยเสริมเข้ามาในการพัฒนาสินค้าที่ทั้งตอบโจทย์เรื่องสภาวะแวดล้อม และตอบโจทย์ชีวิตความเป็นอยู่ในสมัยนี้
มองว่าวันนี้เราควรจะแข่งขันเรื่องการตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด โดยนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ดีกว่า เราอยากช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าอย่างจริงจัง ซึ่งเราคิดว่านวัตกรรมของเราสามารถสร้าง Marketing Experience ที่ดีให้กับลูกค้า
รวมไปถึงลูกค้ามีทางเลือกที่ดี ด้วยสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืน เรามองมุมนี้เป็นสิ่งสําคัญที่สุด
ที่ผ่านมา เอสซีจีถือเป็นหนึ่งในแกนหลักขับเคลื่อนเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมตามหลัก ESG ครอบคลุมทั้งกระบวนการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ‘SCG Green Choice’ เป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค เราอยากให้คนนําไปใช้จริงร่วมกันสร้างโลกให้ดีขึ้น”

ไม่หยุดพัฒนานวัตกรรมวัสดุศาสตร์ เพื่อรองรับทุกการเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมีผลต่อแนวทางการพัฒนาสินค้าของเอสซีจีหรือไม่อย่างไร คุณอัญชลีกล่าวว่า นี่ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เอสซีจีไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้าและนวัตกรรม เพื่อตอบการอยู่อาศัยให้ทุกคนอยู่สบายมากยิ่งขึ้น
“อย่างที่ทราบคือสภาวะแวดล้อมวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงรุนแรงมากขึ้นจริง ๆ นอกจากนั้น วัสดุศาสตร์ 50-100 ปีที่ผ่านมานั้น ไม่ตอบโจทย์แล้ว ดังนั้น เอสซีจีจึงไม่หยุดที่จะพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น
สมาร์ทบอร์ด เอสซีจีวันนี้เราได้ปรับเป็นสูตรซูเปอร์โมเลกุล เพื่อให้รองรับกับการใช้งาน เราปรับสมาร์ทบอร์ดให้มีความเหนียวยืดหยุ่นมากขึ้นแต่ยังมีความแข็งแรงทนทาน เราจึงออกสินค้าใหม่คือ ‘ฝ้าสมาร์ทบอร์ดเอสซีจี แมกซ์’ (Max) ที่เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีสูตรซูเปอร์โมเลกุล เทคโนโลยีเฉพาะของเอสซีจี ทำให้โมเลกุลยึดอัดแน่นเต็มแผ่นสมาร์ทบอร์ดมากยิ่งขึ้น เนื้อเหนียวมากยิ่งขึ้น ยิงง่าย สบายมือ เจาะไม่แตก อีกทั้งยังมีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศ

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ถือเป็นขั้นสุด คือ กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่น EXCELLA CRESTA ซึ่งชื่อรุ่นนี้มาจากภาษาอิตาลี แปลว่า ‘สุดยอด’ หรือ ‘ยอดพีระมิด’ เป็นการรวมเอาคุณภาพสูงสุดมาคู่กับงานดีไซน์ ที่ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพสูตรพิเศษ ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย มีระบบการควบคุมคุณภาพอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อให้พร้อมรับกับทุกสภาวะสิ่งแวดล้อมของวันนี้ที่มีทั้งพายุฝน แดด ลม ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างฉับพลัน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตระบบ Dry Press Fast Firing ระดับความชื้นในตัวสินค้าต่ำ ทำให้เผาขึ้นรูปได้มาตรฐาน ไม่เกิดการบิดตัวของสินค้า
![]()
นอกจากความทนทานแล้ว ยังพร้อมถ่ายทอดความเป็นตัวตนของคุณผ่านความสวยหรูบนผืนหลังคา ให้จินตนาการได้ไม่สิ้นสุด สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการพิมพ์ลวดลายบนผืนหลังคา ด้วย Digital Printing Technology สร้างสรรค์ลวดลายธรรมชาติเสมือนจริงลงไปในเนื้อกระเบื้อง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสีให้เลือกหลากหลายเฉด และทนทานสูงสุดด้วยสูตรการเคลือบสีพิเศษ Advance Glazing Technique ลิขสิทธิ์เฉพาะของเอสซีจี เพื่อให้สีสวยทนทานพร้อมรับสภาวะแวดล้อมที่หลากหลายของบ้านเรา”
คุณอัญชลีเสริมว่า ในปีนี้ได้มีแคมเปญ ชีวิตดีเต็มแม็กซ์ของ ‘ฝ้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี แมกซ์’ (Max) และ กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่น EXCELLA CRESTA นำเสนอให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผ่านทั้งช่องทางสื่อออนไลน์และออฟไลน์ของเอสซีจี
นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญใหญ่แห่งปีฉลอง “111 ปี เอสซีจี” ที่ขนทัพมหกรรมสินค้าวัสดุก่อสร้างเอสซีจี โดยมุ่งเน้นไปยังกลุ่มเจ้าของบ้าน ช่างและผู้รับเหมาทั่วประเทศ สอดรับกับความต้องการของลูกค้า
“แคมเปญใหญ่พิเศษฉลอง 111 ปี เอสซีจีเป็นแคมเปญคืนกําไรให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัย โดยสามารถร่วมแคมเปญได้ที่ ณ จุดขายและช่องทางออนไลน์ของเอสซีจี ไม่ว่าจะเป็น SCG HOME Experience, SCG HOME บุญถาวร และ SCG Authorized Dealer ทั่วประเทศ รวมถึง SCG HOME Online โดยสามารถดูรายละเอียดแคมเปญเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.scgsmartliving.com หรือ Facebook: SCG Brand หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ SCG Contact Center โทร 0-2586-2222

นอกจากนี้ เรายังมีแคมเปญหลัก ๆ อีก 2-3 แคมเปญ โดยจะออกนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนของ Product and System ที่จะตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกันร้อน-กันเสียง รวมไปถึงการสร้างประสบการณ์การบริการที่เหนือระดับผ่าน SCG Home Smile หรือ SCG Housing Expert ที่เรามีช็อปต่าง ๆ ทั่วประเทศแล้วมากกว่า 20 สาขา”
พร้อมเคียงข้างลูกค้า ในทุกสภาวการณ์
สุดท้ายนี้แบรนด์ เอสซีจี ทั้งในกลุ่มสินค้าสมาร์ทบอร์ดและกระเบื้องหลังคา คุณอัญชลีฝากคำขอบคุณไปยังผู้บริโภคทุกท่านที่ยังคงมั่นใจเลือกให้เอสซีจีเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจ
“ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกให้เอสซีจีได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้อีกครั้ง เรายืนยันว่าจะพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ยกระดับนวัตกรรมต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด ยกระดับคุณภาพสินค้าให้สูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป และไม่ว่าลูกค้าจะเผชิญสภาวะแวดล้อมที่รุนแรงหรือเผชิญสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก เอสซีจีก็พร้อมยืนเคียงข้างและเติบโตไปพร้อม ๆ กับลูกค้าทุกคน”
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /

