“ถ้าเราบอกตัวเองว่าเราต้องทำได้ แต่เราไม่ทำอะไรเลยมันก็ไม่ได้
เพราะฉะนั้นบอกตัวเองว่า เราต้องทำได้ แล้วลงมือทำซะ”
หากคำว่า “พิการ” วัดกันที่หัวใจไม่ใช่กายภาพ เธอคนนี้สมบูรณ์พร้อม 100%
“สายสุนีย์ จ๊ะนะ” ราชินีฟันดาบทีมชาติไทย ผู้ลิขิตชะตาชีวิตด้วยหัวใจตัวเอง

การแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 เพลงชาติไทยดังกระหึ่มกรุงปารีสอีกครั้งต่อจากโอลิมปิกเกมส์ “สายสุนีย์” ชื่อที่เป็นตัวเต็งเหรียญทองกีฬาฟันดาบก็ไม่พลาดเหรียญอีกเช่นเคย เธอคว้าเหรียญทองมาได้อีกครั้งในวัย 50 ปี ไม่มีอะไรสายสำหรับชีวิตของเธอคนนี้
แวว สายสุนีย์ จ๊ะนะ เกิดและเติบโตที่เชียงใหม่ เธอไม่ต่างจากเด็กสาวสดใสทั่วไป จนกระทั่งความมืดมนมาเยือนในวัย 17 ปี อันเป็นช่วงชีวิตที่เหมือนของขวัญจากพระเจ้า เพราะเป็นวัยที่มนุษย์จะได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ล้มก็ลุกได้ไว เปล่งประกายกว่าวัยไหน ๆ แต่เพียงชั่วพริบตาเดียว ที่เธอลืมตาขึ้นมาร่างกายช่วงล่างก็ไร้การตอบสนอง เนื่องมาจากอุบัติเหตุรถชน
ความรู้สึกที่เหมือนฟ้าถล่มลงมา และกังวลว่าตนเองจะกลายเป็นภาระของครอบครัว ทำให้เธอตัดพ้อในโชคชะตา และคิดจะจบชีวิตลง แต่คนรอบข้างได้ให้กำลังใจ จนเธอกลับมาฮึดสู้ เผชิญหน้ากับชะตาชีวิตแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
ด้วยความกลัวว่าตนจะเป็นภาระครอบครัว จึงขอไปเรียนรู้ชีวิตอยู่ในศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการหยาดฝน สังกัดชมรมล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ ชมรมที่เป็นแหล่งรวมตัวของผู้พิการที่มีจิตใจไม่ย่อท้อ ฝึกฝนอาชีพเพื่อไม่ให้เป็นภาระทางสังคม
ระหว่างนั้นเธอมีโอกาสได้ฝึกบาสเกตบอลที่ชมรม และรู้มาว่าถ้าเธอได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ จะเป็นทางที่ช่วยครอบครัวได้ เมื่อสมาคมการกีฬาแห่งประเทศไทยเฟ้นหานักกีฬาคนพิการ เป็นเวลาเดียวกับที่สังกัดชมรมล้านนาส่งเธอไปอบรม ช่วงนั้นปี 2000 กีฬาฟันดาบเข้ามาที่ไทยพอดี คุณแววใช้เวลาอบรมทักษะกีฬาวีลแชร์ฟันดาบอยู่ประมาณ 7 วัน ก็ได้รับเลือกให้เป็นนักกีฬาทีมชาติทั้งสองประเภท คือบาสเกตบอลและวีลแชร์ฟันดาบ

และชะตาชีวิตใหม่ก็ถูกเขียนขึ้นในหน้าถัดไปของสมุดเล่มนี้
การเริ่มต้นนับหนึ่งในสถานะของบุคคลที่มีคำว่าพิการตามหลัง ไม่ได้ทำให้ความเข้มแข็งของเธอลดน้อยลงไปเลย สายสุนีย์เคยกล่าวไว้ว่าความฝันอันสูงสุดในชีวิตนักกีฬาคือไปแข่งรายการพาราลิมปิกเกมส์ และเธอก็ทำได้
ในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทย สายสุนีย์แม้จะใช้เวลาเข้ามาอยู่ในทีมชาติอย่างรวดเร็ว และไม่เคยมีประสบการณ์แข่งขันมาก่อน แต่ครั้งแรกที่เธอลงสนามในนามตัวแทนชาติไทยก็สามารถคว้าเหรียญติดมือได้ตั้งแต่ครั้งแรก
และในปี 2004 เธอก็คว้าเหรียญทองพาราลิมปิกที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ มาได้สำเร็จ และนับจากปีนี้ สายสุนีย์ก็คว้าเหรียญกลับประเทศได้ทุกรอบ พาราลิมปิกปี 2008 คว้าเหรียญทองแดง พาราลิมปิก 2012 กรุงลอนดอน
นอกจากนั้น ยังคว้าเหรียญแทบจะทุกรายการ อาทิ เหรียญทอง การแข่งขันเวิลด์คัพ 2003, 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน รายการ “วีลแชร์ เฟนซิ่ง เวิลด์ คัพ” 2011, 2 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง รายการ “ไอวาส วีลแชร์ เวิลด์ คัพ” ประเทศโปแลนด์ 2012, 2 เหรียญทอง รายการ “วีลแชร์ เฟนซิ่ง เวิลด์ คัพ” ประเทศสหราชอาณาจักร 2024, 1 เหรียญเงิน “พาราลิมปิกฤดูร้อน 2016”, 1 เหรียญทองแดง “พาราลิมปิกฤดูร้อน 2020”
และล่าสุดก็เช่นกันสายสุนีย์ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้อีกครั้ง และผลปรากฏว่าเธอคว้า 1 เหรียญทอง “พาราลิมปิกฤดูร้อน 2024” ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส ให้คนไทยได้ชื่นใจ
และยังได้รับรางวัลส่วนบุคคล คือ รางวัลนักกีฬาคนพิการยอดเยี่ยม ประจำปี 2008, รางวัลนักกีฬาคนพิการดีเด่นหญิง เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ 2010

เพราะเธอเดิมพันด้วยหัวใจที่ใหญ่กว่าตัว
ในวันที่เธอรับสภาพร่างกายของตัวเองไม่ไหว แต่หัวใจกลับตะโกนสวนทาง เสียงที่บอกว่า
“ถ้าเราบอกตัวเองว่าเราต้องทำได้ แต่เราไม่ทำอะไรเลยมันก็ไม่ได้
เพราะฉะนั้นบอกตัวเองว่า เราต้องทำได้ แล้วลงมือทำซะ”
ความพิการจึงไม่มีผลต่อชีวิตใหม่นี้ของเธอเลย เพราะหัวใจยังสมบูรณ์พร้อม
สายสุนีย์ฝึกซ้อม 6 วันต่อสัปดาห์ วินัยเป็นเลิศ ไม่เคยขาด อาจเพราะแรงผลักดันจากครอบครัวอย่างหนึ่ง เพราะเธอคิดว่าอยากจะคว้าเหรียญและนำเงินรางวัลกลับมาจุนเจือครอบครัว และทำให้เธอยังภูมิใจในการมีชีวิตอยู่ของตนว่า ได้ทำประโยชน์เพื่อใครบ้าง
ปลาเป็นว่ายทวนน้ำเสมอ
แม้วันนี้เรื่องราวบนสมุดหน้านี้จะไม่เหมือนที่เธอคิดไว้ในตอนยังสาว ที่มีความฝันอยากรับราชการเป็นคุณครู แต่เธอไม่ก้มหน้ายอมรับชะตาง่าย ๆ หากชะตาลิขิตมาไม่เป็นดั่งที่หวัง เธอก็ขอร่างเส้นทางชีวิตใหม่ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งของเธอเอง
วันนี้ “แวว สายสุนีย์ จ๊ะนะ” แสดงให้เห็นแล้วว่า ความงดงามที่แท้จริงของมนุษย์ คือ หัวใจที่ยิ่งใหญ่ แม้อายุจะล่วงเข้าเลขห้า แต่ไม่มีอะไรสายไปสำหรับเธอ คุณแววยืนยันว่าจะยังเล่นกีฬาไปเรื่อย ๆ ไม่มีกำหนดเกษียณตายตัว จนกว่าร่างกายเธอจะไม่ไหวไปเอง
เรื่องราวชีวิตของผู้หญิงที่สวยงามคนนี้ เป็นกำลังใจให้เราย้อนกลับมาดูตัวเองว่า วันที่เรายังครบ 32 ประการ มือยังขีดเขียน ขายังออกแรงวิ่งได้ แต่พอเจอปัญหาทำไมหัวใจถึงอยากยอมแพ้อย่างเดียว ถ้าหัวใจยังทำงานอยู่ ก็อย่ายอมจำนนต่อโชคชะตาง่าย ๆ เลย ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่กว่าหัวใจที่ไม่ยอมแพ้แล้วล่ะ
–
