Chipotle ทำความรู้จักร้านอาหารสไตล์เม็กซิกันที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ทำน้อย ทำที่ถนัด แต่ประสบความสำเร็จมาก

Chipotle (ชิโพทเล) ถือได้ว่าเป็นอาณาจักรเบอร์ริโตที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะ Chipotle เป็นร้านอาหารฟาสต์แคชชวลสไตล์เม็กซิกันในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี 1993 โดย Steve Ells (สตีฟ เอลส์)

แม้ว่าเริ่มแรก Steve จะต้องการเปิดร้านอาหารชั้นเลิศของเขา แต่เพื่อหาเงินทุนเขาเลยเปิดร้านเบอร์ริโตเล็ก ๆ ในโคโลราโด เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและสามารถจัดหาเงินทุนให้กับร้านอาหารชั้นเลิศของเขา

แต่ธุรกิจของChipotleเติบโตอย่างรวดเร็วจนในปี 2023 สามารถทำรายได้ได้มากถึง 9.87 พันล้านดอลลาร์ โดยในปัจจุบันChipotleเป็นเครือร้านอาหารฟาสต์แคชชวลที่เชี่ยวชาญอาหารสไตล์เม็กซิกันที่มีสาขามากกว่า 3,500 แห่งทั่วโลก

อาณาจักรเบอร์ริโตของ Steve Ells

Steve Ells เกิดวันที่ 12 กันยายน 1965 เขาเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันและผู้ก่อตั้งChipotle ตั้งแต่ยังเด็กเขาชื่นชอบการทำอาหารจนได้เข้าทำงานเป็น sous chef เป็นเวลาสองปีภายใต้ Jeremiah Tower ที่ร้านอาหาร Stars ในซานฟรานซิสโก

หลังจากเก็บสะสมประสบการณ์ได้สักพักเขาก็พร้อมเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง แต่เนื่องจากในขณะนั้นเขายังมีเงินทุนไม่มากพอ เขาเลยตัดสินใจเปิดร้านทาโก้ที่มีชื่อว่าChipotleในรัฐโคโลราโด ใกล้วิทยาเขตมหาวิทยาลัยเดนเวอร์ โดยใช้เงิน 85,000 ดอลลาร์ที่ยืมมาจากครอบครัวและเพื่อนของเขา

เนื่องจากเขามีความคิดว่าหากเปิดร้านอาหารหรูขนาดใหญ่เลยในครั้งแรกอาจมีความเสี่ยงสูงในการสร้างกําไรและประสบความสำเร็จได้

Steve Ells

ซึ่งร้านChipotleของเขาในเริ่มแรกสามารถเติบโตไปได้ด้วยดี ภายในสองสามเดือนแรกของการเปิดให้บริการ ร้านอาหารของเขาก็สามารถทำกําไรและสามารถคืนเงินที่ยืมมาจากครอบครัวและเพื่อนของเขาได้

ถึงแม้ว่าร้านจะดำเนินไปได้ด้วยดีแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ลืมฝันของเขา เขายังมีความกระตือรือร้นที่จะเปิดร้านอาหารหรู full-service ของเขาอยู่เสมอ แต่ในเวลานั้นความต้องการของร้านChipotleยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เขาตัดสินใจเปิดร้านแห่งที่สองในเดนเวอร์ภายในหนึ่งปีครึ่งหลังจากเปิดร้านอาหารแห่งแรกของเขา

หลังจากนั้นไม่นาน สาขาสามก็เปิดตามมา จนภายในปี 2017 ร้านChipotleมีสาขาเกือบ 2,300 แห่ง ด้วยอัตราการเติบโตที่รวดเร็วนี้ ทำให้ McDonald’s (แมคโดนัลด์) สนใจเป็นนักลงทุนในChipotle

ทว่าในปี 2006 ในตอนที่Chipotleเตรียมพร้อมสำหรับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก McDonald’s ก็เลิกเป็นนักลงทุนให้กับChipotle ซึ่งภายในการลงทุนของ McDonald’s สามารถทำให้ร้านอาหารChipotleเติบโตได้เพิ่มขึ้นถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์

เรียกได้ว่าChipotleเป็นธุรกิจที่เติบโตไปได้ด้วยดีและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วแม้ในตอนแรกจะไม่ได้ตั้งใจเปิดร้านอาหารนี้ก็ตาม นอกจากนี้ ไม่ใช่กิจการChipotleในอเมริกาเท่านั้นที่ดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ในต่างประเทศ อย่างในแคนาดา อังกฤษ หรือฝรั่งเศส ก็ดำเนินไปได้ด้วยดีเช่นกัน

อาหารในอาณาจักรChipotle

แน่นอนว่าChipotleเป็นร้านอาหารสไตล์เม็กซิกันที่เรารู้จักกันดี แต่ก็ได้พยายามขายอาหารประเภทอื่น ด้วยการเข้าซื้อกิจการบริษัทย่อยหลายแห่ง อย่างอาหารเอเชีย พิซซ่า หรือเบอร์เกอร์

จนในที่สุดในปี 2011 ร้านอาหารChipotleได้เปิดร้านอาหารแนวฟาสต์แคชชวลสไตล์เอเชีย ชื่อ ShopHouse Southeast Asian Kitchen ในวอชิงตัน ดี.ซี. และในปี 2016 บริษัทได้ประกาศเปิดร้านเบอร์เกอร์ Tasty Made แห่งแรกในฤดูใบไม้ร่วง ทว่าร้านอาหารเหล่านี้ไม่ได้ดำเนินกิจการไปได้ด้วยดี ทำให้ต้องปิดตัวลงในปี 2017 และ 2018 ตามลำดับ

ส่งผลให้Chipotleเน้นเมนูอาหารอย่างเบอร์ริโต ทาโก้ เคซาดิยา และสลัด มากกว่าอาหารประเภทอื่นนั่นเอง โดย Steve Ells ให้ความเห็นว่าเราต้องมั่นใจว่าเราทำอาหารประเภทนี้ได้ดีกว่าคนอื่น เราถึงเน้นผลิตอาหารน้อยชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ของChipotle

ในเริ่มแรกจะโฆษณาผ่านป้ายโฆษณา โฆษณาทางวิทยุ และปากต่อปากเป็นหลักในการโฆษณา ก่อนที่จะเริ่มโฆษณาผ่านทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในปี 2012 ในช่วงระหว่างพิธีมอบรางวัลแกรมมี่ประจำปีครั้งที่ 54

นอกจากนี้ Chipotleยังได้จัดโปรโมชันมากมายและแจกเบอร์ริโตฟรีในวันหยุดพิเศษอย่างเช่นในวันฮาโลวีน เพื่อดึงดูดลูกค้าอีกด้วย และมีแคมเปญพิเศษเพื่อฉลองวันครบรอบต่าง ๆ อีกด้วย อย่างเช่น วันครบรอบ 18 ปีที่บริษัทได้เริ่มห่อเบอร์ริโตด้วยฟอยล์สีทอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรโมชันขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดความสนใจและเป็นการเพิ่มยอดขายด้วยความพิเศษที่หาได้แค่ช่วงนี้เท่านั้น

โดยในแต่ละครั้งChipotleได้ทำการสำรวจตลาดทุกครั้ง เพื่อจะได้ทำการตลาดถูกกลุ่มเป้าหมาย และสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

ทำไมถึงประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยม

Chipotle เป็นร้านอาหารที่เน้นให้บริการอย่างมีจริยธรรมและเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะเน้นส่วนผสมที่มีคุณภาพ เพื่อให้เนื้อสัตว์มีรสชาติที่อร่อยกว่าร้านอาหารอื่น ๆ นอกจากนี้ ในปี 2013 ยังได้กําหนดนโยบาย no-GMO สำหรับส่วนผสมอีกด้วย

ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ยอดขายและผลกําไรของChipotleเพิ่มขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน

นอกจากนี้ หนึ่งในกุญแจสู่ความสำเร็จของChipotleคือเมนูอาหารมีจำนวนไม่มาก แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นข้อเสียเปรียบ แต่จุดนี้ทำให้สามารถจัดเก็บเฉพาะวัตถุดิบสดใหม่เท่านั้นและลดโอกาสในการเน่าเสีย รวมไปถึงการให้บริการด้วยความรวดเร็วและเน้นความถูกต้อง จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก

ที่มา:

https://en.wikipedia.org/wiki/Chipotle_Mexican_Grill

https://www.cnbc.com/2017/11/29/how-steve-ells-built-chipotle-mexican-grill-into-a-burrito-empire.html

https://www.investopedia.com/articles/active-trading/041315/why-chipotle-so-successful-popular.asp