Trend / แม้ยอดขายตกลงไปบ้าง ท่ามกลางการแข่งขันกับแบรนด์คู่แข่งจากแบรนด์เกาหลีใต้และจีน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า iPhone ยังคงเป็นสมาร์ตโฟนที่ใครต่างก็อยากได้มาใช้

ทว่าก็มีเหตุให้ผู้คนในประเทศพี่ใหญ่ของ ASEAN ต้องลุ้นว่าสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดของ Apple จะได้ขายในประเทศหรือไม่

ปลายตุลาคมที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย สั่งห้ามขาย iPhone 16 ที่นำเข้ามาในประเทศแล้ว โดยให้เหตุผลว่า Apple บริษัทเจ้าของอุปกรณ์ดังกล่าว ไม่ปฏิบัติตามกฎ มีชิ้นส่วน 40% ของอุปกรณ์ต้องผลิตหรือประกอบในอินโดนีเซีย

นี่ทำให้ iPhone 16 ซึ่งเป็น iPhone รุ่นล่าสุด ที่นำเข้ามาแล้วจำนวน 9,000 เครื่องไม่สามารถจำหน่ายได้ ดังนั้น หากมีการซื้อขายขึ้นมาจะกลายเป็นสินค้าผิดกฎหมายในทันที  

มาตรการดังกล่าวทำให้ผู้สั่งจอง iPhone 16 และ Apple ต่างก็ได้รับผลกระทบ โดยทั้งหมดมีที่มาน่าสนใจ ท่ามกลางรายงานข่าวว่า Apple ก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย

แผนสั่งแบน iPhone 16 เป็นมาตรการกดดัน Apple ของรัฐบาลใหม่อินโดนีเซียที่นำโดย ประธานาธิบดี ปราโบโว ซูบิอันโต ซึ่งเพิ่งชนะเลือกตั้งมาไม่นาน หลังเห็นว่า ทั้งที่เป็นประเทศใหญ่สุดและประชากรมากสุดใน ASEAN แต่ Apple กลับไม่มาเปิด Apple Store เพื่อให้มีศูนย์จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังถือเป็นตลาดใหญ่ มีประชากรรุ่นใหม่อายุ 30 ปีลงมาซึ่งทันเทคโนโลยีมากถึงกว่า 100 ล้านคน ขณะเดียวกัน Apple ก็ยังไม่มาลงทุนมากเท่าที่ประกาศไว้อีกด้วย

ดังนั้น จึงสามารถมองได้ว่า Apple ยังมองข้ามอินโดนีเซีย ต่างจากประเทศอื่น ๆ ใน ASEAN อย่างมาเลเซีย ไทย และสิงคโปร์ ซึ่งก็มี Apple Store แล้วทั้งสิ้น โดยเฉพาะประเทศหลังสุด ที่แม้เป็นประเทศเล็กแต่ก็มีถึงเกือบ 20 สาขา

สาเหตุต่อมาที่ทำให้อินโดนีเซียกล้าใช้ไม้แข็งกับ Apple เพราะต้องการบีบให้มาลงทุน และมั่นใจว่าประเทศอินโดนีเซียมีศักยภาพในการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ที่กำลังเร่งผลักดัน ซึ่งต่อยอดมาจากแร่ในประเทศนั่นเอง

สาเหตุสุดท้ายที่อินโดนีเซียถึงกับสั่งแบน iPhone คือ รัฐบาลชุดใหม่มั่นใจว่า Apple จะต้องตอบสนองด้วยข้อเสนอใดข้อเสนอหนึ่ง เหมือนที่การใช้ไม้แข็งกับ Bytedance บริษัทแม่ TikTok เมื่อปี 2023 ด้วยการสั่งแบน TikTok ของรัฐบาลชุดก่อนของประธานาธิบดี โจโก วิโดโด้ ได้รับการตอบสนอง

จุดประสงค์เบื้องต้นของมาตรการดังกล่าวคือกันไม่ให้สินค้าราคาถูกทะลักเข้าในประเทศ เพื่อปกป้องภาคค้าปลีกและเอสเอ็มอี โดยนอกจาก Bytedance อ่อนข้อทำกฎแล้ว ยังทุ่มเงินลงทุน 1,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 51,200 ล้านบาท) ผ่านการร่วมทุนกับ Tokopedia บริษัทอี-คอมเมิร์ซ อินโดนีเซียอีกด้วย

ด้าน Apple ยอมอ่อนข้อแล้ว โดยจะมาลงทุนเป็นเงิน 10 ล้านดอลลาร์ (ราว 340 ล้านบาท) กับโรงงานผลิตชิ้นส่วน iPhone และอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple ที่เมืองบันดุง

ฝ่ายรัฐบาลอินโดนีเซียเผยว่าได้รับข้อเสนอแล้วแต่ขอพิจารณาว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือขออะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่

จากนี้มีแนวโน้มว่า iPhone 16 อาจได้ไฟเขียวให้ขายในอินโดนีเซีย โดยยังต้องติดตามต่อไปว่าจะขยับขยายสู่การลงทุนเพิ่มเติมอีกหรือประเดิมเปิดสาขาแรกของ Apple Store ในอินโดนีเซียด้วยหรือไม่ / theguardian, wikipedia, scmp

 

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer