Life /โอกาสที่คอหนังชาวไทยจะได้ดูหนังรวมไปถึงซีรีส์จากจีนยุคนี้มีมากกว่าในอดีตอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ก็มาจากบรรดาวิดีโอสตรีมมิ่งที่ให้บริการในไทย ต่างแข่งนำคอนเทนต์จีนฮิต ๆ ลงในแพลตฟอร์ม

สำหรับ Netflix ก็ไม่ตกเทรนด์ดังกล่าว โดยช่วงครึ่งหลังของปี 2024  ได้นำกลุ่มหนังทำเงินของจีนปี 2024 มาลงสตรีม เช่น YOLO ที่ทำเงินสูงสุด กับ A Place Called Silence ที่ทำเงินตามมาเป็นอันดับ 6   

นอกจากนี้ Netflix ยังนำ Upstream ที่แม้ไม่ทำเงินมากจนติด 10 อันดับสูงสุดของจีนในปีเดียวกัน แต่ช่วงเข้าฉายเมื่อสิงหาคมก็ครองอันดับ 1 อยู่หลายสัปดาห์ และสร้างกระแสได้พอสมควรมาสตรีมด้วย

Upstream เล่าถึง เกา จี้เล่ย โปรแกรมเมอร์เบอร์ต้น ๆ ของบริษัทแอปในจีน ซึ่งมีฐานะดีที่ถูกปลดกะทันหัน ทำให้เขาต้องรีบหางานให้ได้โดยเร็ว เพราะคือเสาหลักของครอบครัว อันประกอบไปด้วยภรรยาที่เป็นแม่บ้านเต็มเวลากับลูกสาววัยประถม กับแม่และพ่อวัยชราของฝ่าย เกา จี้เล่ย  

สถานการณ์เลวร้ายไปอีก เมื่อพ่อที่พอมีรายได้จากร้านของชำดันมาล้มเพราะเส้นเลือดในสมองแตกต้องผ่าตัดและบำบัดต่อเนื่อง ขณะที่ลูกก็เรียนโรงเรียนนานาชาติค่าเทอมแพง และรายได้ที่หายไปอาจทำให้ต้องเสียห้องใหญ่ในคอนโดหรูที่ทั้งครอบครัวอยู่มากันหลายปี

เรื่องราวน่าติดตามยิ่งขึ้นเมื่อ เกา จี้เล่ย ถูกปฏิเสธจากหลายบริษัทเพราะอายุที่มากเกินไป จนตัดสินใจไปเป็นไรเดอร์ส่งอาหารและข้าวของสารพัด อาชีพที่เขาเองเคยดูถูกมาก่อน

นอกจากจะได้เอาใจช่วยว่า เกา จี้เล่ย จะฝ่าอุปสรรคกลับขึ้นไปอยู่ต้นน้ำตามความหมายแปลไทยของชื่อเรื่องได้หรือไม่ พร้อมเผยให้เห็นดราม่าและเรื่องวงในของเหล่าไรเดอร์ที่ไม่เคยรู้มาก่อน Upstream ยังมีข้อคิดที่ผู้ชมนำไปปรับใช้ในชีวิตและการทำงานได้อีกด้วย

ฝันร้ายเรื่องงานเกิดได้กับทุกคน: ข้อคิดแรกจากหนังเรื่องนี้ที่กำกับและนำแสดงโดย สวี เจิ้ง นักแสดงที่สร้างชื่อจากหนังตลกผจญภัย Lost in Hong Kong (ที่มีออกมาอีก 3 เรื่องรวมถึง Lost in Thailand) คือ ฝันร้ายเรื่องงานเกิดได้กับทุกคน

ข้อคิดนี้ปรากฏให้เห็นในช่วงแรก ๆ ของหนัง ในฉากที่ เกา จี้เล่ย ถูกผู้บริหารระดับสูงเรียกไปคุย ขณะที่เขากำลังคุยกับเหล่าลูกน้องในแผนกเรื่องงาน โดยปรากฏว่า เรื่องที่ผู้บริหารจะแจ้งกับเขา ไม่ใช่มอบหมายงานใหม่หรือเตือนให้เร่งทำงาน แต่เป็นการปลดออกจากงาน

เกา จี้เล่ย รับไม่ได้จนระเบิดอารมณ์อย่างรุนแรง และต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ในการตระเวนหางาน จนที่สุดหมดหนทางต้องไปเป็นไรเดอร์

แม้เป็นแค่ฉากในหนัง แต่ใครที่ได้ดูโดยเฉพาะหัวหน้าแผนกและรุ่นใหญ่ในองค์กร คงต้องหันกลับมามองตัวเองว่า การถูกปลดกลางอากาศแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และควรมีการออมหรืองานที่ 2 สำรองเอาไว้เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน

ข้อคิดเรื่อง ฝันร้ายเรื่องงานเกิดได้กับทุกคนยังใกล้ตัวคนทำงานยุคนี้อย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นวัยเพิ่งเริ่มทำงานหรือรุ่นใหญ่ที่ทำงานมาหลายปีแล้ว ก็มีเปอร์เซ็นต์ตกงานมากกว่าในอดีต หลังเอไอถูกนำมาใช้มากขึ้น

วันที่ทุกข์ทนให้จับมือกันไว้: ข้อคิดถัดมาจาก Upstream คือ การจับมือช่วยเหลือและให้กำลังใจของคนในครอบครัว โดยสะท้อนออกมาจากการที่ภรรยา ลูกสาว และพ่อกับแม่ต่างก็พากันให้กำลังใจ เกา จี้เล่ย

นอกจากนี้ ทุกคนยังช่วยกันฝ่าวิกฤตตามกำลังของตัวเอง เช่น ภรรยาก็ทยอยขายกระเป๋าหรูออกไป และไปทำงานที่เขาคาดไม่ถึง ส่วนพ่อก็กลับไปเปิดร้านชำหลังอาการดีขึ้น

ไม่ว่าอาชีพไหนก็มีศักดิ์ศรี: ข้อคิดอีกข้อจากหนังเรื่องนี้คือ ไม่ว่าอาชีพไหนก็มีศักดิ์ศรี ไม่ว่าอาชีพนั้นถูกมองเป็นงานระดับล่าง ซึ่งมีรายได้ไม่มาก และอาจไม่ได้ใช้วุฒิการศึกษาสูง ๆ เพราะวันหนึ่งอาจเป็นตัวเราเองที่ต้องไปทำงานนั้นเสียเอง

ข้อคิดนี้สะท้อนออกมาในฉากที่ เกา จี้เล่ย ไปเป็นไรเดอร์ และต้องไปขอเคล็ดลับวิ่งให้ได้หลาย ๆ รอบจาก ไรเดอร์เบอร์ต้น ๆ ของบริษัทซึ่งตนเคยดูถูกไว้ รวมไปถึงการใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าที่จะยอมรับและภูมิใจอาชีพนี้

แต่หลังยอมรับได้ งานของเขาก็ดีขึ้นตามลำดับ ขณะเดียวกันความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานก็ดีขึ้น ช่วยเหลือเผื่อแผ่กันมากขึ้นอีกด้วย

ฉากที่ประทับใจคนดูอย่างมากพร้อมสะท้อนข้อนี้ได้เป็นอย่างดี คือฉากที่ เกา จี้เล่ย มีเหตุให้ต้องไปส่งไรเดอร์เบอร์ต้น ๆ ของบริษัทถึงที่พัก ซึ่งแม้พูดได้ไม่เต็มปากว่าบ้านและครอบครัวของไรเดอร์รายนี้ก็อบอุ่น และลงเอยด้วยการที่เขากับไรเดอร์รายนี้ปรับทุกข์และยิ้ม-หัวเราะร่วมกัน จนไรเดอร์มีกำลังใจกลับมาฮึดสู้พร้อมพูดกับใคร ๆ อย่างภาคภูมิใจว่า ตนทำงานเป็นไรเดอร์

ฟ้าย่อมชี้ทางให้คนที่มุ่งมั่นตั้งใจ: ข้อคิดสุดท้ายจาก Upstream คือ  ฟ้าย่อมชี้ทางให้คนที่มุ่งมั่นตั้งใจ หรือโอกาสและทางออกจากปัญหาให้กับคนที่ไม่ละความพยายาม

ข้อคิดนี้ปรากฏออกมาเมื่อผ่านไปครึ่งเรื่องแล้ว หลังเกา จี้เล่ย กลายเป็นไรเดอร์เต็มตัว ด้วยการใช้ความรู้จากงานเก่ามาสร้างแอปแชร์ให้เพื่อนร่วมงานทำงานง่ายขึ้น โดยที่ตัวเขาเองก็ส่งออเดอร์ได้มากขึ้น ๆ จนเลื่อนจากล่างสุดไปอยู่แถวบน ๆ ของไรเดอร์ทำผลงานดี

อีกฉากที่ย้ำข้อคิดนี้คือฉากท้าย ๆ ของเรื่อง ซึ่งเกา จี้เล่ย แข่งกับไรเดอร์คนสนิทรุ่นลูก ที่เขาใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อส่งออเดอร์สำคัญ โดยแม้ต้องเผชิญอุปสรรคสารพัด เกือบแลกมาด้วยชีวิต และไปส่งอาหารในที่แสนลำบาก แต่ที่สุดเขาก็เห็นทางไปสู่เป้าหมายและส่งออเดอร์นี้ได้สำเร็จ


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer