Trends / หนึ่งในวงการที่คักคักอย่างมากในปี 2025 คือ คอนเสิร์ต โดยมีการประเมินกันว่า เฉพาะไทยประเทศเดียว มูลค่าตลาดคอนเสิร์ตจะสูงถึง 5,000 ล้านบาท ส่วนในระดับโลกไปไกลกว่านั้น เพราะทั้งคอนเสิร์ตเล็กใหญ่ไปจนถึงเทศกาลดนตรีมีให้ชมกันตลอดปี
ท่ามกลางคอนเสิร์ตมากมายในปี 2025 มีคอนเสิร์ตกลับมารวมวง (Reunion) ของวงรุ่นใหญ่ โดยบรรทัดจากนี้คือ โชว์ที่แม้จะมีแต่เพลงเก่า แต่เชื่อได้เลยว่า ผู้ชมจะเนืองแน่นและบัตรขายดี เพราะแต่ละวงยังมีชื่อเสียงอยู่ และถือเป็นวงที่ทำให้แนวเพลงที่เล่นโด่งดังไปทั่วโลก

Black Sabbath
Heavy Metal ยังถือเป็นหนึ่งในแนวเพลงหลักของวงการเพลง โดยเสาหลักและวงที่คิดค้นเพลงแนวนี้ขึ้นมาคือ Black Sabbath ที่ประกอบไปด้วย ออสซี่ ออสบอร์น, โทนี่ ไอโอมี่, กีเซอร์ บัตเลอร์ และบิลล์ วาร์ด
ทั้ง 4 ก่อตั้งวงขึ้นที่เมืองเบอร์มิงแฮมของอังกฤษ โดยหลังจากทั้ง 4 ออกผลงานร่วมกันได้ 8 ชุด ตั้งแต่ปี 1970-1978 โดยมีเพลงดัง ๆ อย่าง War Pigs, Paranoid, Iron Man, N.I.B และ Never Say Die ออสซี่ ออสบอร์น นักร้องนำก็แยกตัวออกไปทำงานเดี่ยวโดยมีนักดนตรีฝีมือระดับพระกาฬมาสนับสนุนและไปได้สวย
ขณะที่สมาชิกที่เหลือทั้ง 3 ก็เดินหน้าต่อด้วยนักร้อง Heavy Metal เช่น เอียน กิลเลียน และ รอนนี่ เจมส์ ดิโอ โดยจากนั้นทั้ง 4 ก็มีการกลับมารวมตัว ทั้งแบบครบวงเพื่อทำอัลบัม และเพื่อทัวร์คอนเสิร์ต แต่ก็เริ่มไม่ครบวง จนงานสุดท้ายที่ทั้ง 4 ร่วมเวทีคือทัวร์คอนเสิร์ต Ozzfest ปี 2005

อย่างไรก็ตาม การที่สมาชิกยุคก่อตั้งยังอยู่กันครบ แฟน ๆ Black Sabbath จึงยังหวังว่าทั้ง 4 น่าจะกลับมาขึ้นร่วมเวทีกันอีกสักครั้ง โดยที่สุดความฝันนั้นก็เป็นจริงในแบบที่เกินคาด
5 กุมภาพันธ์ มีการแถลงข่าวจัด Back to the Beginning ขึ้นที่เมืองเบอร์มิ่งแฮม บ้านเกิดของวง ในวันที่ 5 กรกฎาคม โดยนอกจากการร่วมเวทีกันของสมาชิกทั้ง 4 แล้ว คอนเสิร์ตครั้งนี้ยังมีการโชว์งานเดี่ยวของ ออสซี่ ออสบอร์น กับวงของเขา และวงรุ่นหลังที่ยก Black Sabbath เป็นต้นแบบ ซึ่งล้วนเป็นวงดังทั้งสิ้น
เช่น Lamb of God, Anthrax Alice in Chain และ Mastodon รวมไปถึงสมาชิกดัง ๆ อีกหลายวง เช่น สแลช จาก Gun ‘N Roses โจนาธาน เดวิด จาก Korn และ เฟรด เดิร์ส จาก Limb Bizkit เป็นต้น
เบื้องต้นทีมผู้จัดเผยว่าจะเริ่มขายบัตร 14 กุมภาพันธ์นี้ แม้ยังไม่มีการระบุราคาบัตร แต่จากการรวมตัวเบอร์ใหญ่ของเพลงสายหนัก บัตรคอนเสิร์ตงานนี้น่าจะขายหมดอย่างรวดเร็ว
Oasis
ย้อนไปยุค 90 Oasis วงจากกลุ่มคนรากหญ้าเมืองแมนเชสเตอร์ของอังกฤษ คือวงที่ผลักดันให้เพลงแนว Brit Pop ดังไปทั่วโลก คู่ขนานไปกับเพลงแนว Grunge ของสหรัฐฯ โดย Don’t Look Back in Anger เพลงดังของวงจากชุด What’s Story Morning Glory คือหนึ่งในเพลง Brit Pop ที่คนทั่วโลกรู้จักมากสุด

Oasis มีผลงานออกมา 7 ชุด โดยจากการแตกคอกันของ เลียม กับ โนล กาเลเกอร์ นักร้องและมือกีตาร์ คู่พี่น้องแกนนำ วงก็ต้องแยกกันไปในปี 2009 จากนั้นแม้แยกทำวงของตัวเอง แต่เพลงของ Oasis ก็ยังเป็นเพลงที่ทั้งคู่นำมาร้องมาเล่นเป็นประจำ
27 สิงหาคม 2024 มีประกาศจัดทัวร์คอนเสิร์ตของ Oasis ในชื่อ Oasis Live ’25 Tour รอบโลก ซึ่ง เลียม กับ โนล ยอมรับมาร่วมขึ้นเวทีเดียวกันอีกครั้ง โดยช่วงทัวร์จะกินเวลาตั้งแต่กรกฎาคมไปจนถึงพฤศจิกายน 2025
นี่ถือเป็นข่าวใหญ่ เพราะแม้ราคาบัตรแพงกว่ายุค 90 ที่ Oasis ยังรุ่งเรือง แต่ก็ขายหมดอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางการวิเคราะห์ว่า ปี 2025 จะเป็นปีที่เพลงยุค 90 โดยเฉพาะ Brit Pop รวมไปถึงแฟชั่น และหนังภาคต่อของยุคเดียวกันกลับมา ซึ่งหลักฐานก็คือความนิยมเพลงยุค 90 ของ Gen Z และการที่หนัง Bridges Jones ภาค 4 เข้าฉาย
Creed
วงรุ่นใหญ่อีกวงที่กลับมารวมตัวกันคือ Creed โดยแม้วงก่อตั้งช่วงยุค 90 แต่กลับมาดังจริง ๆ ในช่วงต้นยุค 2000 กับเพลง แนว Post Grunge และเป็นที่จดจำได้จากเพลง My Sacrifice, Higher, What If และ With Arm Wide Open

หลังออกผลงานมาได้ 3 ชุด Creed ก็แยกวงกันไป โดยกลับมารวมวงกันครั้งแรกปี 2009 เพื่อเพลงชุด Full Circle แล้วแยกกันไป
แต่ในปี 2023 สมาชิกรุ่นก่อตั้งทั้ง 4 คือ สก็อตต์ สแตป, มาร์ค ทรีมอนติ, สก็อต ฟิลลิปส์ และ ไบรอัน มาเชลล์ ก็กลับมารวมกันอีกครั้ง และในปี 2025 มีแผนจัดทัวร์คอนเสิร์ตรวม 24 โชว์ทั่วสหรัฐฯ ในชื่อ Return of the Summer ’99 Tour โดยประเดิมโชว์แรก 9 กรกฎาคมนี้ / nme, theguardain, wikipedia, billboard
–
