“สงกรานต์” ซีอีโอ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศนำองค์กรก้าวข้ามยุคดิจิตอล สู่โลกการสื่อสารไร้ขอบเขตด้วยโซลูชั่นใหม่ ผู้ให้บริการทางความคิดสู่นักแก้ปัญหาตัวยพลิกวิกฤตสู่โอกาสที่ดีกว่าแก่ภาคธุรกิจ
ชนะความเปลี่ยนแปลง
ด้วยความคิดสร้างสรรค์
สงกรานต์ เศรษฐสมภพ ประธานกรรมการบริหาร เดอะ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป ประเทศไทย พูดถึงโลกในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ด้วยการสื่อสารที่รวดเร็ว ฉับไวและเปิดกว้างล้วนส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคให้เปลี่ยนไปตามปัจจัยเหล่านี้ ผู้คนมีอิสระทางความคิดในการเลือกรับข้อมูลข่าวสารจากหลากหลายช่องทาง เราจึงมองว่าสิ่งเดียวที่จะเอาชนะความเปลี่ยนแปลงนั่นคือ “ความคิดสร้างสรรค์”
“เรามองว่าวันนี้เอเจนซี่โฆษณาไม่ได้เป็นเพียงผู้คิดและผลิตชิ้นงานโฆษณาออกสู่สื่อต่างๆเท่านั้น อีกทั้งการสื่อสารบนโลกดิจิตอลก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ถูกหยิบยกมากล่าวถึง เพราะภาคธุรกิจล้วนนำเครื่องมือดังกล่าวมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ นั่นทำให้ไม่ใช่ความท้าทายของเราอีกต่อไป จึงเป็นที่มาที่เราชาวลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมที่จะเปลี่ยนจุดยืนตัวเองจาก “นักโฆษณา” สู่ “นักแก้ปัญหาทางธุรกิจ” ด้วย “ความคิดสร้างสรรค์” ที่ไม่มีรูปแบบตายตัว ไม่จำกัดกรอบความคิด นำเสนอรูปแบบงานที่แปลกใหม่โดยมองปัญหาของลูกค้าเป็นจุดมุ่งหมายสู่ความสำเร็จ” สงกรานต์กล่าว
สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับบริการจากเราในมิติใหม่ คือ การแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ซึ่งสิ่งนี้คือหัวใจสำคัญของเอเจนซี่ยุคใหม่ มุ่งเฟ้นหาสื่อที่เหมาะสมกับตัวสินค้าและแบรนด์โดยตรง เพื่อลดการสิ้นเปลืองงบประมาณทางการตลาดทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุด
“เรามองเรื่องการวางคนให้เหมาะสมกับงานเป็นสิ่งสำคัญ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป ประเทศไทย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านความคิดสร้างสรรค์ แต่นั่นคงไม่เพียงพอที่จะรองรับปัญหาจากธุรกิจหลากหลายประเภทได้ เราจึงจัดทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาเป็นที่ปรึกษา อาทิเช่น นักสังคมศาสตร์ นักประดิษฐ์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ และแฟชั่นกูรู เป็นต้น เพราะทันทีที่ลูกค้าเกิดปัญหา เราสามารถเข้าไปวางแผนแก้ไขวิกฤตการสื่อสารต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที”
ด้าน สมพัฒน์ ทฤษฎิคุณ ประธานบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ เดอะ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่าแนวโน้มของงานประกวดความคิดสร้างสรรค์นานาชาติ คานส์ ไลอ้อนส์ 2015 ในปีนี้ เราจะได้เห็นงานที่เป็น Solution มากขึ้น โดยรูปแบบจะไม่เป็นเหมือนโฆษณาที่เราคุ้นเคยกัน หรือเรียกได้ว่าไม่ได้อยู่ในรูปแบบของโฆษณาเลยก็ว่าได้ ตัวอย่างเช่น
งาน Samsung “The Safety Truck”ของ ลีโอเบอร์เน็ต บัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ที่เป็นการใช้เทคโนโลยีง่ายๆ มาช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนน ใช้กล้องแบบไร้สายติดตั้งด้านหน้ารถ แล้วแสดงผลผ่านจอแอลอีดีขนาดใหญ่ด้านหลังรถ เพื่อให้คนที่ขับรถตามหลังรถบรรทุกของซัมซุง ได้มองเห็นทางข้างหน้าเพื่อที่จะแซงรถบรรทุกได้อย่างปลอดภัย นับเป็นความพยายามที่ดี ในการแสดงจุดยืนของแบรนด์ซัมซุงที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี
อีกตัวอย่างหนึ่ง เป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยของการขี่จักรยาน โดยบริษัทผู้สร้างแอพพลิเคชั่นนำทางสำหรับรถจักรยาน Hammerhead ในประเทศสหรัฐอเมริกา ผลงาน “Hammerhead” โดยเอเจนซี่ R/GA เมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา เปลี่ยนระบบการนำทางด้วยการแสดงผลผ่านจอโทรศัพท์หรือสมาร์ทดีไวซ์ มาเป็นอุปกรณ์พิเศษที่ใช้ไฟแอลอีดีนำทาง เพื่อให้ผู้ขับขี่จักรยาน สามารถพุ่งความสนใจไปที่ท้องถนนได้ดีกว่า ช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ เป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และสร้าง Brand love ให้กับแบรนด์ในเวลาเดียวกัน
ตัวอย่างต่อมา คือ แคมเปญ “Nazis Against Nazis – Germany’s Most Involuntary Charity Walk” ขององค์กร ZDK – Center for Democratic Culture โดยเอเจนซี่ GGH Lowe, Grabarz & Partner ฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมัน ที่ใช้วิธีการที่เจ็บแสบ ในการใช้การเดินขบวนของกลุ่มนีโอ นาซี เพื่อหาเงินสนับสนุนที่จะมาช่วยให้สมาชิกกลุ่มนีโอ นาซี สามารถปลีกตัวออกมาจากกลุ่มได้อย่างปลอดภัย เหมือนกับว่ากลุ่มนีโอ นาซีกลุ่มนั้น ได้จัดการเดินขบวนประจำปีขึ้นมาเพื่อต่อต้านตัวเอง
ตัวอย่างสุดท้ายคือ งาน “#LikeAGirl” โดย Always ของ Procter & Gamble จากการร่วมมือกันของ ลีโอเบอร์เน็ต สามประเทศคือ แคนาดา สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ เพื่อสร้างผลงานที่จะช่วยจุดประกายเรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางเพศให้แก่สังคม ความพยายามที่จะเปลี่ยนการกระทำแบบ #LikeAGirl จากการถูกมองแบบดูถูกดูแคลน เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจของผู้หญิงแทน เพื่อให้เด็กสาววัยรุ่นในช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย กลับมามีความมั่นใจในความเป็นผู้หญิงของพวกเธอ ทำให้แบรนด์ Always มีบทบาทในการลดอคติทางเพศ และเป็นแบรนด์ที่เข้าใจผู้หญิงอย่างแท้จริง
จะเห็นได้ว่าแบรนด์ต่างๆ ในปัจจุบัน มุ่งสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่นอกเหนือไปจากการออกโฆษณาเพื่อโปรโมตสินค้าและบริการ เพื่อช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีเกี่ยวกัยแบรนด์ ช่วยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และพัฒนาชีวิตของผู้คน และทำให้แบรนด์กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้คนอย่างแท้จริง งานโฆษณาในยุคใหม่ จึงเป็นการหา Solutions ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าในรูปแบบที่ไม่จำกัด และไม่ยึดติดกับสื่อต่างๆ เรียกได้ว่า เป็น Creativity for Business Solution อย่างแท้จริง.
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ