กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ประกาศกำหนดภาษีศุลกากรใหม่ โดยเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จาก 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นจำนวนสูงถึง 3,521% มุ่งเป้าไปที่บริษัทในกัมพูชา ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม

เป็นผลสืบเนื่องจากข้อกล่าวหาที่ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของสหรัฐริษัทจีนที่มีฐานการผลิตในมาเลเซีย กัมพูชา ไทย และเวียดนาม จัดส่งแผงโซลาร์เซลล์ที่มีราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิตเข้าสู่ตลาด เนื่องจากรัฐให้เงินอุดหนุนอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งบริษัทจีนกำลังหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรที่มีอยู่โดยส่งสินค้าผ่านประเทศเหล่านี้

สินค้าจากกัมพูชาจะได้รับผลกระทบสูงสุดจากทั้งสี่ประเทศ ต้องเผชิญภาษีนำเข้าสูงที่สุดที่ 3,521% เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ในประเทศไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนของสหรัฐฯ ตามมาด้วยสินค้าจากไทยของ Trina Solar จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 375% ขณะที่สินค้าที่ผลิตในมาเลเซียโดยผู้ผลิตจากจีนอย่าง Jinko Solar จะต้องเผชิญภาษีนำเข้า 41% ซึ่งจะมีการประกาศภาษีศุลกากรดังกล่าวในเดือนมิถุนายน

คาดว่าในการประชุมสุดยอด 60 ประเทศที่จะจัดขึ้นในกรุงลอนดอนวันศุกร์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับความปลอดภัยของก๊าซ แร่ธาตุที่สำคัญ และระบบพลังงานของยูเครน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้มี เอ็ด มิลลิแบนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของสหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพร่วม

และจะมีรัฐมนตรีจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทน้ำมันและก๊าซขนาดใหญ่ อาทิ Shell, BP, ExxonMobil, TotalEnergies, Eni และ Equinor และบริษัทพลังงานหมุนเวียน อย่างบริษัทพลังงานลม Ørsted และ Vestas รวมถึงบริษัทสาธารณูปโภค EDF, Enel, Octopus และ Iberdrola เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้จีนและรัสเซียปฏิเสธการเข้าร่วม

ความเสี่ยงด้านแหล่งพลังงานกำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากสงครามยูเครนและกาซา วิกฤตสภาพอากาศ การสูญเสียก๊าซของรัสเซียในยุโรป ต้นทุนพลังงานขายส่งพุ่งสูงขึ้น การโจมตีสายเคเบิลใต้น้ำ การโจมตีทางไซเบอร์ และการต้องเร่งหาแหล่งพลังงานทางเลือก และที่สำคัญสงครามการค้าที่เกิดจากนโยบายประกาศขึ้นภาษีโดนัลด์ ทรัมป์ มีทั้งความเสี่ยงแบบเดิม ๆ และความเสี่ยงใหม่ ล้วนเป็นสิ่งที่จะถูกนำมาถกเถียงเพื่อหาทางออกในการประชุมนี้

การขึ้นภาษีนี้ ส่งผลอย่างไรต่ออุตสาหกรรม

1. การหยุดชะงักของ Solar Supply Chains ในสหรัฐฯ

ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะ 4 ประเทศที่โดนประกาศขึ้นภาษีคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์ของสหรัฐฯ

ในปี 2023 ภาษีศุลกากรใหมไม่เคยเกิดเช่นนี้มาก่อน ถูกกำหนดขึ้นมีตั้งแต่ 34.4% ถึง 3,521% ทำให้การนำเข้าเหล่านี้ไม่คุ้มทุน

2. ต้นทุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ จะเพิ่มสูงขึ้น

คาดว่าภาษีศุลกากรดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ เพราะทำให้ราคาโซลาร์เซลล์นำเข้าที่นำมาประกอบเป็นแผงในโรงงานของสหรัฐฯ สูงขึ้น อาจทำให้โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ล่าช้าลง ขัดขวางเป้าหมายพลังงานสะอาดของประเทศ

3. ส่งเสริมการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ

ผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐฯ เช่น First Solar และ Hanwha Qcells สนับสนุนภาษีศุลกากรดังกล่าว โดยมองว่าเป็นหนทางที่จะสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันกับต่างประเทศที่ได้รับการอุดหนุนเงินจากรัฐ ภาษีศุลกากรดังกล่าวอาจกระตุ้นให้มีการผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างงานและความมั่นคงด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น

4. การเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลก

ผู้ผลิตที่ได้รับผลกระทบจากภาษีอาจมองหาฐานการผลิตใหม่ เช่น ลาว และอินโดนีเซีย ซึ่งปัจจุบันไม่ได้อยู่ภายใต้ภาษีเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อปริมาณการส่งออกจากประเทศเหล่านี้เพิ่มขึ้นก็อาจเผชิญกับมาตรการทางการค้าที่คล้ายคลึงกัน

5. ผลกระทบทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของโลกลง โดยอ้างถึงความตึงเครียดทางการค้า รวมถึงภาษีเหล่านี้เป็นปัจจัยสนับสนุน การเปลี่ยนแปลงนี้ยังถือเป็นการทวีความรุนแรงของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและพลวัตการค้าโลก

ราคาหุ้นปรับตัวสูง

หลังการประกาศขึ้นภาษี ราคาหุ้นผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในทิศทางบวก สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับประโยชน์ที่ผู้ผลิตในประเทศจะได้รับ

แต่ก็มีความเสี่ยงที่ทำให้ต้นทุนในการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้น และความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศตึงเครียดขึ้นอีก ส่งผลกระทบในระยะยาว ขึ้นอยู่กับว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะปรับตัวเข้ากับภูมิทัศน์การค้าใหม่นี้อย่างไร และสามารถสร้างห่วงโซ่อุปทานทางเลือกได้โดยไม่กระทบต่อความเร็วในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

 

อ้างอิง: The Guardian, CNN, BBC, Bloomberg


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer