กลุ่มดุสิตธานีเดินหน้าเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของแผนยุทธศาสตร์ 9 ปี ระยะ “Unlock Value” ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจหลักปีนี้เติบโต 20–25% พร้อมเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการโอนที่พักอาศัย Dusit Residences และ Dusit Parkside ที่มียอดขายแล้วกว่า 90% มูลค่ารวมราว 16,000 ล้านบาท
สรุปความคืบหน้า 3 ระยะของแผน 9 ปี
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เผยว่า แผนยุทธศาสตร์ 9 ปี (2559–2568) ประกอบด้วย 3 ระยะ ได้แก่
“สร้างฐาน” (2559–2561), “ขยายการเติบโต” หรือ Take Off (2562–2565) และ “ปลดล็อกมูลค่า” หรือ Unlock Value (2566–2568) โดยปัจจุบันเข้าสู่ปลายทางของระยะที่ 3 ซึ่งเตรียมเก็บเกี่ยวผลจากการลงทุนระยะยาว
ระยะที่ 1: สร้างฐานองค์กรให้พร้อมเติบโต
ในช่วงแรก กลุ่มดุสิตธานีเน้นพัฒนาคน วัฒนธรรมองค์กร และโครงสร้างการเงิน เพื่อวางรากฐานสู่การเติบโตในอนาคต พร้อมยกระดับแบรนด์ “ดุสิต” สู่ตลาดโลก
ระยะที่ 2: Take Off ขยายบริการหลายมิติ
กลุ่มฯ เดินหน้าขยายธุรกิจโรงแรม การศึกษา และเข้าสู่ธุรกิจอาหารผ่านการจัดตั้ง “ดุสิต ฟู้ดส์” ควบคู่กับการลงทุนโครงการมิกซ์ยูส “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” มูลค่า 46,000 ล้านบาท แม้ต้องเผชิญวิกฤตโควิด-19 แต่ยังคงคุณภาพการดำเนินงานและปรับโครงสร้างทางการเงินผ่านการขายทรัพย์สินบางส่วน
ระยะที่ 3: Unlock Value เริ่มเก็บเกี่ยวผลตอบแทน
ปัจจุบัน ดุสิตธานีบริหารโรงแรมและวิลล่ารวม 294 แห่งใน 18 ประเทศ และในปี 2568 จะเริ่มรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพแห่งใหม่ พร้อมกับโครงการเรสซิเดนซ์ที่มียอดขายแล้วเกือบ 90% เตรียมทยอยโอนในช่วงปลายปี 2568 ต่อเนื่องถึงปี 2569
รุกธุรกิจอาหาร เตรียมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
กลุ่มดุสิตธานียังขยายพอร์ตอาหารผ่านบริษัทในเครือ เช่น เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง, The Caterers ในเวียดนาม และ BONJOUR แฟรนไชส์เบเกอรี่ในไทย จีน และเวียดนาม พร้อมตั้งเป้านำธุรกิจอาหารเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อจังหวะเหมาะสม
รายได้รวมทำสถิติสูงสุด แต่ยังขาดทุนจากต้นทุนการเงิน
ปี 2567 กลุ่มมีรายได้รวม 11,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.8% และ EBITDA 1,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.4% แต่มีภาระดอกเบี้ยรวมกว่า 578 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดทุนสุทธิ 237 ล้านบาท โดยคาดว่าภาระดอกเบี้ยจะลดลงหลังเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการเรสซิเดนซ์
ครึ่งหลังปี 2568 คือจุดเริ่มของการเก็บเกี่ยวรายได้เต็มตัว
ครึ่งปีหลังจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ Dusit Residences และ Dusit Parkside มูลค่ารวมประมาณ 16,000 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจโรงแรม อาหาร และการศึกษายังเติบโตดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาฯ คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 100% จากการโอนในปีหน้า
คาดรายได้รวมปีนี้โต 20–25% จากทุกธุรกิจหลัก
บริษัทคาดการณ์รายได้รวมจากธุรกิจหลักปี 2568 จะเติบโต 20–25% แบ่งเป็น ธุรกิจโรงแรม 20–25%, อาหาร 10–15%, การศึกษา 10–12% และอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 100% (ไม่รวมรายได้ Bare Shell จากโครงการค้าปลีก)
ปัญหางบการเงินคลี่คลาย ผู้ถือหุ้นอนุมัติผู้สอบบัญชีแล้ว
จากปัญหาในการจัดส่งงบการเงินไตรมาส 1/2568 และการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีประจำปี ล่าสุดผู้ถือหุ้นได้อนุมัติเรียบร้อย ทำให้สามารถส่งงบตามกำหนด หุ้น DUSIT ไม่ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP และทริสเรทติ้งยกเลิกแนวโน้มลบ พร้อมคงอันดับเครดิตที่ BBB- แนวโน้มคงที่
เดินหน้าต่อด้วยเจตนารมย์ของผู้ก่อตั้ง สู่แบรนด์ไทยระดับโลก
ดุสิตธานีย้ำจุดยืนสานต่อเจตนารมย์ผู้ก่อตั้ง “ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย” ในการยกระดับแบรนด์ไทยสู่สากล ผ่านบริการแบบไทยอันอบอุ่น พร้อมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

