Del Monte บริษัทผู้ผลิตผลไม้และผักกระป๋องสัญชาติอเมริกันอายุ 139 ปี ได้ยื่นเรื่องขอ พิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลาย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยการตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความท้าทายที่บริษัทกำลังเผชิญ เมื่อผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาหันไปเลือกสินค้าที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น หรือมีราคาถูกลง พร้อมปัจจัยภายนอกอีกมากมายที่ซ้ำเติมสถานการณ์
ในระหว่างกระบวนการขายกิจการนี้ Del Monte ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์อื่นๆ อย่าง ซอสมะเขือเทศ Contadina, น้ำซุป College Inn และ Kitchen Basics รวมถึงชานมไข่มุก Joyba ด้วย ได้รับการอนุมัติวงเงินสินเชื่อเพื่อการดำเนินงาน จำนวน 912 ล้านดอลลาร์ (ราว 29,546 ล้านบาท) เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อไป

แม้ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะสื่อถึงวิกฤตแต่ก็สะท้อนด้วยว่า Del Monte ยอมรับความจริง และพร้อมเดินหน้าต่อ จึงทำให้นักลงทุนตอบรับในทางบวก ดันราคาหุ้น Del Monte ขึ้นมาเกือบ 5%
เกร็ก ลองสตรีท ซีอีโอของ Del Monte กล่าวว่า หลังจากการประเมินทางเลือกทั้งหมดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วจึงเห็นว่าการขายกิจการภายใต้การดูแลของศาลเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเร่งฟื้นฟูบริษัทของเรา และสร้าง Del Monte ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนยิ่งขึ้น
Del Monte เผชิญกับความท้าทายหลายด้านที่ทำให้ต้องมาถึงจุดนี้ โดยปัจจัยหลักๆ คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งหันไปซื้ออาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น จึงลดการซื้ออาหารกระป๋องที่มักมีสารกันบูดลง และไปสู่ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและสดใหม่กว่า ทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องซึ่งเป็นแกนหลักของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยต่อมาคือ การที่รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งเพิ่มกำแพงภาษีต่อเหล็กที่นำเข้ามาจากต่างประเทศสูงขึ้นเป็น 50% เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศท่ามกลางสงครามการค้ารอบใหม่ ทำให้ต้นทุนกระป๋องบรรจุของ Del Monte เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีทางเลี่ยง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมดันให้ราคาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์แพงขึ้นตาม
สำหรับ Del Monte เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในเมืองวอลนัต ครีก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1886 ต่อมาในปี 1909 เคยได้ชื่อว่าเป็นผักและผลไม้กระป๋องที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หลังจากนั้นก็เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจากผลิตภัณฑ์ผลไม้และผักกระป๋อง ทำให้เครื่องกระป๋องภายใต้แบรนด์ Del Monte เป็นของจำเป็นที่ชาวอเมริกันต้องมีติดครัวไว้
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ต้องกำลังเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปและรสนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จนมีหนี้สะสมก้อนใหญ่และต้องล้มละลายในที่สุด
จากนี้ต้องติดตามต่อว่า Del Monte จะถูกบริษัทไหนเข้ามาซื้อกิจการ และต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนจึงจะฟื้นตัว ซึ่งบริษัทที่จะเข้ามาซื้อกิจการก็คงต้องคิดให้รอบคอบ และหาทางจูงใจให้ผู้บริโภคกลับมาซื้ออาหารกระป๋องหรือมองอาหารประเภทนี้ในมุมใหม่ หลังเมินไปแล้วพักใหญ่จากสาเหตุที่กล่าวไปแล้ว และยังต้องพยายามหาแหล่งเหล็กราคาถูกเพื่อไม่ให้ต้นทุนการผลิตกระป๋องแพงจนเกินไปอีกด้วย

หากแก้ไขสถานการณ์ได้ วิกฤตครั้งนี้ของแบรนด์ที่อยู่คู่ครัวชาวอเมริกันมานานและเคยเป็นแบรนด์ผัก-ผลไม้กระป๋องใหญ่ที่สุดในโลกก็จะได้เดินหน้าต่อไป / aljazeera
