Lanvin ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์แฟชั่นหรูจากฝรั่งเศสที่มีประวัติอย่างยาวนานมากว่า 136 ปี ที่สามารถสร้างรายได้ 82.72 ล้านยูโร หรือ 3,119 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา

แต่กว่าจะมาเป็นแบรนด์แฟชั่นหรูที่มีประวัติอย่างยาวนานในวันนี้ จุดเริ่มต้นของLanvinเป็นเพียงร้านทำหมวกเล็กๆ กลางกรุงปารีสที่ Jeanne Lanvin สาววัย 22 ปี เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นในปี 1889

ด้วยความโดดเด่นด้านฝีมือประณีตและดีไซน์ หมวกของ Jeanne Lanvinได้กลายเป็นที่ยอมรับของชาวปารีส เธอใช้เวลาเพียง 4 ปี ในการขยายธุรกิจจากร้านหมวกเล็กๆ สู่ร้านในย่านหรู Rue du Faubourg Saint-Honoré และก่อตั้งแบรนด์แฟชั่น Jeanne Lanvinเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

แม้ธุรกิจหมวกของจะประสบความสำเร็จต่อเนื่อง แต่ความรักที่มีต่อลูกสาวเพียงคนเดียวชื่อ Marguerite ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่พาแบรนด์ Jeanne Lanvinก้าวเข้าสู่ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นเป็นครั้งแรก

ในปี 1908 Jeanne Lanvinออกแบบและตัดเย็บชุดเด็กดีไซน์หรูให้ Marguerite สวมใส่ ด้วยเนื้อผ้าคุณภาพสูง ความประณีตในการตัดเย็บ และดีไซน์ที่โดดเด่น ทำให้ชุดของ Marguerite ได้รับความสนใจจากกลุ่มแม่ที่เป็นชนชั้นสูง จนเข้ามาสั่งซื้อชุดจากร้านของเธอให้กับลูกสาวของตัวเองจำนวนมาก และผลักดันให้ธุรกิจเสื้อผ้าของ Jeanne Lanvinเติบโตอย่างรวดเร็ว แซงหน้าหมวกซึ่งเป็นธุรกิจเดิม

หนึ่งปีต่อมา เมื่อโอกาสมาถึง Jeanne Lanvinตัดสินใจเปลี่ยนสถานะจากช่างทำหมวกเป็นดีไซเนอร์ พร้อมก้าวเข้าสู่ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นอย่างเต็มตัว โดยขยายไลน์จากเสื้อผ้าเด็กสู่เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงและเด็ก พร้อมปรับโฉมร้านให้เป็นพื้นที่ที่แม่และลูกสามารถใช้เวลาเลือกชุดสวมใส่ร่วมกันได้อย่างเพลิดเพลิน

ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นได้พา Jeanne Lanvinก้าวสู่ความสำเร็จจนกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นเฮาส์ที่ได้รับการยกย่องสูงสุดของกรุงปารีส ก่อนที่จะสร้างชื่อเสียงในระดับโลกในเวลาอันรวดเร็ว

นอกจากนี้ Jeanne Lanvinยังมองเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 1924 เธอได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจน้ำหอมเป็นครั้งแรก จากความเชื่อว่าน้ำหอมคือสิ่งสำคัญที่ควรมีบนโต๊ะเครื่องแป้งของผู้หญิงทุกคน และเพียงสองปีต่อมา เธอยังได้ขยายธุรกิจเสื้อผ้าสั่งตัดสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ เพื่อเข้ามาเติมเต็มทุกความต้องการของลูกค้าในกลุ่มชนชั้นสูงทั้งผู้หญิงและผู้ชายภายใต้แบรนด์เดียวกัน

ธุรกิจของ Jeanne Lanvinประสบความสำเร็จในทุกด้าน และเมื่อเธอเสียชีวิตในปี 1946 ธุรกิจทั้งหมดได้ส่งต่อให้ Marguerite ลูกสาวของเธอ ซึ่งในเวลานั้น Marguerite ได้รับสมญานามว่า Countess Marie-Blanche de Polignac

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Marguerite ไม่มีทายาทสืบทอดกิจการ หลังจากเธอเสียชีวิต ธุรกิจจึงตกไปอยู่ในมือของลูกพี่ลูกน้อง และต่อมาถูกขายและเปลี่ยนเจ้าของหลายครั้ง จนกระทั่งปี 2018 Fosun International บริษัทโฮลดิ้งจากประเทศจีน ได้เข้ามาถือหุ้น 75% พร้อมพาแบรนด์Lanvinเดินทางมาถึงปัจจุบัน

แต่ความท้าทายของ Lanvin ในวันนี้คือรายได้ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ใน ปี 2022 มีรายได้ 119.85 ล้านยูโร (ประมาณ 4,519 ล้านบาท)

ปี 2023 รายได้ 111.74 ล้านยูโร (ประมาณ 4,213 ล้านบาท)

ปี 2024 รายได้ 82.72 ล้านยูโร (ประมาณ 3,119 ล้านบาท)

การลดลงนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และการแข่งขันของแบรนด์แฟชั่นหรูต่างที่ต้องการดึงดูดเม็ดเงินในกระเป๋าผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น


ส่วนอนาคตLanvinจะพาความรักที่แม่มีให้กับลูกสาวเดินทางได้อีกไกลแค่ไหน คงต้องดูกันต่อไป

 

อ้างอิง 1  2 3

 

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer