YOLK ใช้เวลาเพียง 9 เดือน ยอดขายทะลุ 100 ล้าน ผลิตแสนชิ้นต่อเดือน ไม่ใช่แค่กระแส และไม่ได้แค่ฟลุค
ระยะเวลาเพียง 9 เดือน จากพฤศจิกายนปี 2567 แบรนด์ทาร์ตไข่ YOLK ของ “อิน สาริน รณเกียรติ” โกยยอดขายผ่าน 100 ล้านบาทไปแล้ว
จากฮ่องกงสู่ไทยแลนด์ ทำแบรนด์ทาร์ตไข่อย่างไรไม่ให้เป็นเพียงกระแสชั่วข้ามคืน ยั่งยืนถึงระดับร้อยล้าน
ต้องยอมรับว่าทาร์ตไข่ไม่ใช่เมนูที่เมื่อพูดถึงประเทศไทยแล้วคนจะนึกถึงเป็นอย่างแรก ทาร์ตไข่คือขนมที่ผูกติดว่าเป็นสินค้าขึ้นชื่อของเกาะฮ่องกง แต่ต้นกำเนิดของทาร์ตไข่นั้นไม่ได้มาจากฮ่องกง แต่เป็นโปรตุเกส ดังนั้นแล้วทาร์ตไข่สไตล์ไทยแลนด์ก็สามารถให้ฟีลลิ่งที่โดดเด่นในแบบโมเดิร์นไทยได้เช่นกัน
YOLK แบรนด์ทาร์ตไข่ในอาณาจักร Holiday Pastry Group กลายเป็นไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ตช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีคนต่อคิวรอซื้อแทบทุกวัน แม้วันนี้จะผ่านไปหลายเดือนแล้วก็ตาม

คุณสาริน รณเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่ำรวยที่สุด จำกัด เปิดเผยว่า เพียง 3 ไตรมาส (พ.ย. 2024 – ส.ค. 2025) YOLK ทำยอดขายรวมทะลุ 100 ล้านบาท แม้กระแสในช่วงเวลานี้จะเบาลงเมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมา แต่กลุ่มผู้บริโภคขนมอบมีศักยภาพมากพอที่แบรนด์จะขยายตลาดนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงขนมที่เป็นกระแสชั่วคราว แบรนด์เล็งเห็นว่าตลาดทาร์ตไข่มีศักยภาพที่จะกระโดดเข้ามาเล่น หากทำแบรนด์ให้ sexy ได้ มี S-curve มีโปรเจกต์ตลอดทั้งปี อย่างไรก็เติบโตได้ สะท้อนจากระยะ 8-9 เดือนที่ผ่านมา แม้เทรนด์จะเบาบางลง แต่ยอดขาย YOLK ยังเพิ่มขึ้นตลอด
ต้องยอมรับว่าเป็นปีที่ต้องทำการบ้านหนัก เพราะผู้บริโภคเอาเงินออกจากกระเป๋ายาก จะขายสินค้าเดิมต้องมีลูกเล่นมากขึ้น แบรนด์จึงต้องเพิ่มความคุ้มค่า ความสร้างสรรค์เข้าไปยิ่งขึ้นอีกในราคาที่ยังเท่าเดิม คุณสารินกล่าว
กลุ่มลูกค้าหลักของ YOLK เป็นกลุ่มคนเมือง พนักงานออฟฟิศ วัยรุ่น คนทำงาน ตลอดจนครอบครัว ค่อนข้างกว้าง ด้วยความเป็นมิตรของราคา อิ่มได้ในราคาเพียงหนึ่งชิ้น
ขนมกึ่งคาวหวาน Life Cycle ยาวนานกว่า
เทรนด์ขนมหวาน life cycle ปี 2025 อยู่ได้เพียง 45-60 วัน ค่อนข้างสั้น และทุกปีจะสั้นลงต่อเนื่อง แบรนด์ต้องตามให้ทัน แต่สำหรับแบรนด์ที่เป็นกึ่งขนมอบและอาหารคาวจะมี life cycle ที่ต่างไป พฤติกรรมการซื้อซ้ำจะสูงกว่าขนมหวานที่คนอาจกลับมาซื้อซ้ำแค่ 10% แต่ถ้าเป็นอาหารกึ่งคาวกึ่งหวาน การซื้อซ้ำไปได้ถึง 50%
ปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขา 8-10 แห่ง ซึ่งที่เปิดตัวไปแล้ว ได้แก่ สยามพารากอน บรรทัดทอง เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เตรียมกำลังจะเปิดในครึ่งปีหลัง ได้แก่ เอ็มสเฟียร์ เซ็นทรัลพาร์ค เดลิเวอรีฮับเจริญนคร เดลิเวอรีฮับสุขุมวิท และลาดพร้าว สาขาที่ขายดีที่สุดยังคงเป็นเซ็นทรัลเวิลด์ ตามด้วยบรรทัดทอง สยามพารากอน และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
อย่างไรก็ตาม แบรนด์มองว่าการจะขยายสาขาต้องขยายฐานลูกค้าให้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน สาขาที่เพิ่มขึ้นจะได้มีลูกค้าที่เพิ่มตามด้วย จึงต้องอาศัยกลยุทธ์ collaboration เพื่อเปิดตัว YOLK กับฐานแฟนของแบรนด์อื่น ๆ ได้รวดเร็วที่สุด เป็นที่มาของการเปิดตัวโปรเจกต์ใหญ่แห่งปี “Proudly, Made in Thailand” โดยจับมือกับ 4 แบรนด์ไทยคุณภาพ ได้แก่ โอ้กะจู๋, แก้ว Boutique, Songwat Coffee Roaster และ JIANCHA รังสรรค์ทาร์ตไข่ 4 รสชาติพิเศษ ที่สะท้อนตัวตนแต่ละแบรนด์ ภายใต้แนวคิดเดียวกันคือแบรนด์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
“ในวงการแบรนด์ไทย ทุกแบรนด์ต่างกำลังต่อสู้ บางแบรนด์เติบโตกลายเป็นพี่ใหญ่ในวงการ บางแบรนด์ล้มหายไป โดนแบรนด์ต่างชาติเข้ามาบีบราคา ถ้าไม่มีใครซัพพอร์ตเราก็ต้องซัพพอร์ตกันเอง โปรเจกต์นี้จะมาจากความร่วมมือระหว่าง 5 แบรนด์ไทยที่มีแนวคิดชัดเจน มีจุดยืนเฉพาะ แต่รวมพลังกันภายใต้เป้าหมายเดียวคือการสร้างภาพจำใหม่ของคำว่า Made in Thailand ที่ทันสมัย มีคุณภาพ และส่งออกได้ในระดับโลก”
เสริมแกร่งแบรนด์ไทยคุณภาพ
โปรเจกต์นี้จึงไม่ใช่เพียงการพัฒนาเมนูใหม่ แต่คือการใช้พลังของแบรนด์ไทยรุ่นใหม่ร่วมกันยกระดับสินค้าทำมือให้กลายเป็นสินค้าส่งออกเชิงวัฒนธรรมที่มีคุณภาพระดับสากล โปรเจ็กต์ “Proudly, Made in Thailand” จะรวมเอาจุดแข็งของแต่ละแบรนด์เข้าด้วยกันผ่านผลิตภัณฑ์เดียว ทั้งในเชิงรสชาติ การออกแบบ และประสบการณ์ หน้าร้าน ใช้โมเดล collaboration marketing ชูทั้งศักยภาพของแบรนด์ไทยและแนวคิด Local Goes Global นอกจากนี้การคอลแลบจะช่วยขยายฐานลูกค้าที่หลากหลาย แลกเปลี่ยน Customer base ระหว่างแบรนด์
โดยจะเปิดตัวแบบ “4 จันทร์ 4 รสชาติ”
- จันทร์ที่ 18 สิงหาคม Truffle Honey Cheese ซุปทรัฟเฟิลชีสน้ำผึ้ง x โอ้กะจู๋
- จันทร์ที่ 25 สิงหาคม Songwat Dirty & Fresh Mochi กาแฟเดอร์ตี้โมจินมสด x Songwat Coffee Roasters
- ต่อมาจันทร์ที่ 1 กันยายน Pandan & Palm Sugar Caramel สังขยาใบเตยน้ำตาลโตนด x แก้ว Boutique
- และจันทร์ที่ 8 กันยายน Kyoho Grape Jelly & Cream Cheese เจลลี่องุ่นเคียวโฮครีมชีส x JIANCHA
โดยเมนูพิเศษนี้หาซื้อได้ที่ YOLK ทุกสาขาในกรุงเทพฯ ทั้ง 6 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิร์ล ชั้น 7 สยามพารากอนชั้น G เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น G บรรทัดทอง (ตรงข้ามจุฬาซอย 14) เจริญนคร 10 โครงการ OURS และสุขุมวิท 24 โครงการ Bambini หรือช่องทาง Grab เดลิเวอรี ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม จนถึง 31 ตุลาคม 2568 (จำนวนจำกัด)
ทุกองค์ประกอบของโปรเจกต์นี้ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ Limited Edition ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “ถุงรุ้ง” สัญลักษณ์ของความเป็นไทยแบบเรียบง่ายแต่ร่วมสมัย ไปจนถึงการตกแต่งหน้าร้านที่ตกแต่งใหม่ทั้งหมด ให้กลายเป็นพื้นที่จัดแสดงความภาคภูมิใจในแบรนด์ไทยรุ่นใหม่
“การไปเที่ยวต่างประเทศครั้งหนึ่ง เรามักจะลิสต์รายชื่อคาเฟ่หรือแบรนด์ที่ต้องไปตามรอยในประเทศนั้น ๆ ในเวลาเดียวกันนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศไทย ทำไมแบรนด์ไทยถึงจะดึงคนมาตามรอยแบรนด์ไทยบ้างไม่ได้” คุณสาริน กล่าวเสริม
เมื่อถามถึงว่าอะไรคือกุญแจความสำเร็จที่ทำให้ YOLK ไม่ใช่แค่กระแสที่มาแล้วจากไป แต่ยืนอยู่ได้ยาว คุณสารินตอบว่า การเป็น Trend setter ที่วิ่งอยู่ข้างหน้ากระแส ไม่ต่อรองกับคุณภาพ ผลิตกี่แสนชิ้นทุกชิ้นต้องเหมือนกัน รวมถึงพนักงานทุกคนมีความเชี่ยวชาญในหน้าที่ของตน ทุกคนสามารถอบเบเกอรี่ได้มีความรู้ความเข้าใจ และทีมงานหลังบ้านที่ดี
“ทำร้านให้ดัง ไม่ยากเท่าทำร้านให้ยืนระยะยาว แบรนด์ต้องสื่อสารกับผู้บริโภค มีโปรเจกต์ใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมติดตามอยู่เสมอ”
กลยุทธ์ CEO Branding
การเป็นบุคคลมีชื่อเสียงช่วยในการทำกลยุทธ์ CEO branding เป็นอย่างมาก แต่ในช่วงเริ่มต้นYOLKเคยเจอคำสบประมาทกับคำว่า ‘แค่ร้านดารา’ แต่ในวันนี้ผลการดำเนินงานได้พิสูจน์ถึงคุณภาพ รสชาติ ที่ทำให้ทาร์ตไข่YOLKยังคงไปต่อได้ในตลาดขนมหวาน
ปีหน้าเดินหน้าเต็มสูบ ตั้งเป้าโตเท่าตัว
ปีหน้าจะได้พบกับโปรเจกต์ใหญ่มากมาย ทั้งการนำทาร์ตไข่เสิร์ฟบนสายการบิน ในร้านสะดวกซื้อ(อาจจะไปในรูปแบบแคมเปญก่อน เพื่อดูผลตอบรับ) และออนทัวร์ทั่วไทย ตั้งเป้าเป็นของฝากจากกรุงเทพฯ ที่คนมักซื้อกลับไปฝากที่ต่างจังหวัด
ด้านสภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ซบเซา ด้วยความที่ลูกค้าเป็นคนไทย 50% ต่างชาติ 50% แต่ในสาขาท่องเที่ยว YOLKยังคงได้รับผลกระทบไม่มากนัก ที่ผ่านมาแบรนด์ยังทำการตลาดสื่อสารกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทย มีทีมเฟ้นหา KOLs ต่างประเทศที่มาเที่ยวในไทยแล้วเชิญมาทานที่ร้าน เพื่อโปรโมทและตอกย้ำให้คนเห็นภาพโยล์คเป็น Number one original in Thailand
Website : Marketeeronline.co /
