J POINT ถอดรหัส Loyalty Program ที่เข้าใจไลฟ์สไตล์มากกว่าเจเนอเรชัน (กรณีศึกษา)
ข้อดีของการแบ่งกลุ่มด้วย “เจเนอเรชัน” คือเข้าใจง่ายและสะท้อนภาพรวมยุคสมัย แต่ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถอธิบาย “ตัวตนจริง” ของผู้บริโภคได้ทั้งหมด เพราะคนในเจนเดียวกันอาจมีพฤติกรรมต่างกันสิ้นเชิง ตรงกันข้ามการแบ่งด้วย “ไลฟ์สไตล์” เจาะลึกพฤติกรรม ความสนใจ และวิธีใช้ชีวิตจริง ทำให้แบรนด์สื่อสารตรงใจมากกว่า แม้ซับซ้อนและต้องใช้ข้อมูลละเอียด แต่ก็สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและยืดหยุ่นกว่า
นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายแบรนด์เปลี่ยนมุมมองจาก Gen-Based มาสู่ Lifestyle-Based เพื่อตอบโจทย์ยุคที่ผู้บริโภคอยากให้แบรนด์ “เข้าใจตัวตนและไลฟ์สไตล์” มากที่สุด และหนึ่งใน Case study ที่น่าสนใจคือ J POINT ในเครือ Jaymart

จาก Loyalty Program สู่ Loyalty Ecosystem
J POINTไม่ได้ถูกออกแบบมาเป็นเพียงระบบสะสมคะแนนธรรมดา แต่ถูกวางตัวเป็น “Loyalty Ecosystem” ที่ผู้บริโภคทุกกลุ่มสามารถเข้ามามีส่วนร่วมและได้รับคุณค่า ไม่ว่าจะใช้ชีวิตในแบบไหน สายกิน เที่ยว ช้อป เทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งบริการทางการเงินJ POINTได้สร้างระบบที่ทำให้ทุกการใช้จ่ายมีความหมาย และทุกคะแนนที่ได้มาสามารถเชื่อมโยงไปยังความคุ้มค่าที่ใช้ได้จริง
ความโดดเด่นของJ POINTอยู่ที่การเข้าใจว่าผู้บริโภควันนี้ไม่ได้มองหาเพียง “การสะสมแต้ม” แต่ต้องการสิ่งที่สอดคล้องกับสไตล์ชีวิตจริง เช่น
- สายบริการการเงิน : แม้แต่การจ่ายบิลค่าบริการ JMT Network Services หรือ Jaymart Insurance ก็กลายเป็นโอกาสในการได้คะแนน หรือสามารถใช้พอยต์แลกกองทุนรวม Point to Invest
- สายไลฟ์สไตล์–ช้อปปิ้ง Destination ในกลุ่ม Family with Kids สถานที่รวบรวมสุดยอดร้านอาหารและ Family Zone อย่าง JAS Green Village, JAS Urban, The Jas ซึ่งลูกค้าสามารถสะสมคะแนนจากทุกใบเสร็จที่ใช้บริการภายในศูนย์การค้า
- สายรวมพ้อยท์ : เพื่อรับสิทธิประโยชน์ในการซื้อสินค้าและบริการที่เหนือกว่า ผ่านการโอนคะแนนจากการพันธมิตรมาเป็นคะแนน J POINT อาทิ AirAsia points, บางจากพอยท์, BBL Thank You Rewards, K point, blueplus+ และ PT Max Card
สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าJ POINTมอง “การใช้ชีวิต” ของลูกค้าเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่กรอบเจนเนอเรชันที่ตายตัว
J POINTfor Everyday Use – แลกพอยท์สุขใจแลกได้ทุกวัน สโลแกนที่ตอกย้ำว่า J POINT ไม่ใช่แค่คะแนนสะสมทั่วไปเพราะทุกคะแนนล้วนเข้ามาอยู่ในทุกจังหวะชีวิตประจำวันของลูกค้า เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์สามารถนำไปใช้ได้ในทุกโอกาส
สิทธิพิเศษที่J POINTตั้งใจส่งตรง “เพื่อคุณ” ตั้งแต่วันนี้ ตลอดจนถึงปี 2026 มอบความคุ้มค่า และความสุขในทุกมิติ ผ่าน 3 ความพิเศษที่รังสรรค์มาอย่างลงตัว
- Ultimate Gift For You แคมเปญคัดสรรของรางวัลที่ดีที่สุด มอบให้กับสมาชิกJ POINTที่รักและชื่นชอบการสะสมคะแนนในทุกไตรมาส เพราะเราเชื่อว่าความพิเศษควรเป็นของคุณเสมอ
- Exclusive For You แคมเปญที่มอบสิทธิ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟไม่ซ้ำใคร เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 นี้ ต้อนรับสมาชิกใหม่สายกินดื่ม เลือกรับคูปองจากแบรนด์ดัง Casa Lapin, กาแฟพันธุ์ไทย, McDonald’s, Mister Donut และ Auntie Anne’s และแบรนด์พันธมิตรที่หมุนเวียนมาอย่างหลากหลาย
- Special Deal For You แคมเปญสิทธิพิเศษที่จัดขึ้นทุก 2 เดือน มอบดีลส่วนลดสุดคุ้ม เพื่อให้สมาชิกJ POINTได้สนุกและคุ้มค่าในทุกช่วงเวลา
ซึ่งสิทธิพิเศษอีกมากมายที่รอคุณอยู่ในทุกๆ เดือน สามารถติดตามและดูเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทาง LINE Official : @jpoint

การสร้างคุณค่าแบบสองทาง
สิ่งที่น่าสนใจอีกมุมคือJ POINTไม่เพียงสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค แต่ยังทำหน้าที่เป็นตัวกลางส่งมอบคุณค่าให้ร้านค้าและพาร์ตเนอร์เติบโตไปพร้อมกัน การที่ผู้บริโภคสะสมและแลกใช้ได้จากหลากหลายธุรกิจ ทำให้เกิด Traffic กลับไปยังพันธมิตร ขณะที่ผู้บริโภคก็ได้รับสิทธิประโยชน์ที่จับต้องได้
นี่คือจุดที่ทำให้J POINTแตกต่างจาก Loyalty Program อื่น เพราะไม่ใช่เพียงการ “จ่ายแล้วได้แต้ม” แต่คือการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภค แบรนด์ และพาร์ตเนอร์อย่างยั่งยืน
กรณีของ J POINT สะท้อนบทเรียนสำคัญคือ การแข่งขันในอนาคตไม่ได้อยู่ที่ใครเข้าใจเจนเนอเรชันได้มากกว่า แต่คือใครเข้าใจไลฟ์สไตล์และบริบทชีวิตจริงของผู้บริโภคได้ลึกกว่า เมื่อแบรนด์เลือกที่จะไม่หยุดอยู่กับการจัดกลุ่มแบบกว้างๆ แต่หันมาโฟกัสที่พฤติกรรมจริง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ก็จะยาวนานและมีความหมายมากขึ้น
“เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการไม่ใช่แค่การถูกนับว่าอยู่ใน Gen ไหน แต่คือการรู้สึกว่า แบรนด์เข้าใจตัวตนของฉัน และนี่คือสิ่งที่ POINTเลือกจะทำ”
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /

