หนึ่งในการลงทุนของวงการเทคโนโลยีที่กำลังคึกคักของยุคนี้คือ การสร้างศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับความต้องการการใช้เอไอที่มีแต่ยิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งยืนยันได้จาก บรรดากลุ่มบริษัทยักษ์เทคฯ ต่างก็สร้างศูนย์ข้อมูลในประเทศต่างๆ แบบไม่มีใครยอมใคร

ท่ามกลางเทรนด์ดังกล่าวก็มีอีกโครงการจากหนึ่งในยักษ์เทคผุดขึ้น ซึ่งทุกคนที่ได้รู้ก็ต้องหันมาสนใจทันที เพราะเป็นโครงการที่ไม่ได้อยู่บนพื้นโลก

Google กำลังวางแผนที่จะนำศูนย์ข้อมูลสำหรับเอไอขึ้นไปลอยอยู่ในอวกาศภายใต้ชื่อ Project Suncatcher (โครงการนักล่าดวงอาทิตย์) โดยจะเป็นโครงการเครือข่ายดาวเทียมพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ทำงานร่วมกัน ประมาณ 80 ดวง ให้โคจรอยู่ที่ความสูงราว 400 ไมล์ (ประมาณ 640 กิโลเมตร) เหนือพื้นผิวโลก

ดาวเทียมเหล่านี้จะติดตั้งหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับความต้องการใช้งานเอไอที่กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล โดยข้อมูลที่ประมวลผลเสร็จแล้ว และการสื่อสารต่างๆ กับพื้นโลกจะส่งลงมาในลักษณะเดียวกับการยิงลำแสงเลเซอร์

Google วางแผนเดินหน้าโครงการนี้ จาก 3 เหตุผล โดยเหตุผลแรกคือ ค่าใช้จ่ายในการขนส่งทางอวกาศ ที่กำลังลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางคาดการณ์ว่าเมื่อถึงปี 2035 จะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลในอวกาศลดลงจนอาจจะใกล้เคียงกับศูนย์ข้อมูลบนภาคพื้นดิน

เหตุผลต่อมาคือเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะศูนย์ข้อมูลบนอวกาศนั้นสามารถลดการใช้ทรัพยากรที่ดินและน้ำจำนวนมหาศาล ที่จำเป็นสำหรับระบบระบายความร้อนของศูนย์ข้อมูลบนโลก จึงสามารถตัดเรื่องการใช้ทรัพยากรบนโลกอย่างมหาศาลที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ไปได้เลย

ส่วนเหตุผลสุดท้ายคือ การที่ในอวกาศนั้นมีพลังงานสะอาดใช้ได้อย่างไม่จำกัด เพราะเมื่ออยู่ในวงโคจร ศูนย์ข้อมูลเหล่านี้จะใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งสามารถผลิตพลังงานได้มีประสิทธิภาพสูงกว่าบนโลกถึง 8 เท่า โดยคาดว่าจะเริ่มส่งอุปกรณ์ทดสอบของโครงการนี้ขึ้นสู่อวกาศได้ภายในปี 2027

อย่างไรก็ตาม Google ไม่ได้เป็นบริษัทเดียวที่มีแผนเดินหน้าโครงการที่ดูเหมือนเทคโนโลยีในนิยายวิทยาศาสตร์นี้ เพราะ Starlink กับ SpaceX บริษัทในธุรกิจด้านอวกาศของ อีลอน มัสก์ และ Nvidia บริษัทชิปเบอร์ต้นๆ ของโลกก็วางแผนเริ่มโครงการแบบนี้เช่นกัน

ด้านฟิลลิป จอห์นสกัน ผู้ร่วมก่อตั้ง Starcloud ที่ Nvidia ทาบทามมาให้ร่วมพัฒนาโครงการศูนย์ข้อมูลในอวกาศ กล่าวว่า ในอวกาศ จะได้พลังงานหมุนเวียนราคาถูกและแทบไม่จำกัด ต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมจะมีเพียงแค่ตอนปล่อยจรวดเท่านั้น แต่หลังจากนั้น ตลอดอายุการใช้งาน มันจะช่วยประหยัดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่าการใช้ศูนย์ข้อมูลบนโลกถึง 10 เท่า

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็มีความท้าทายที่รออยู่ เริ่มจาก การจัดการความร้อน ของอุปกรณ์ในอวกาศ และ การสื่อสารข้อมูลปริมาณมหาศาล กลับมายังภาคพื้นดิน และความเสถียรของระบบขณะอยู่ในวงโคจร

นอกจากนี้ยังอาจเผชิญการคัดค้านจากกลุ่มนักดาราศาสตร์ ซึ่งกังวลว่าจำนวนดาวเทียมในวงโคจรต่ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะไปบดบังทัศนวิสัยขณะที่พวกเขาพยายามศึกษาเอกภพ ไม่ต่างจากแมลงที่ติดอยู่บนกระจกหน้ารถ

สำหรับความคึกคักในเรื่องการสร้างศูนย์ข้อมูลเอไอของบรรดาบริษัทเทคโนโลยี ที่กำลังผุดขึ้นแทบทุกมุมโลก ตั้งแต่เมืองในอินเดียไปถึงรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ต่อเนื่องไปถึงซาอุดิอาระเบีย มีการประเมินว่าเมื่อนำเม็ดเงินลงทุนมารวมกันอาจสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 97 ล้านล้านบาท) / theguardian 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer