กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ชูกลยุทธ์สู่การเป็นบริษัทเครื่องดื่มเต็มรูปแบบที่นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ผู้บริโภคต้องการในหลากหลายเซ็กเม้นต์ ตลอดระยะเวลากว่า 130 ปีที่แบรนด์โค้กถือกำเนิดขึ้นมา ผู้บริโภคส่วนใหญ่คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์โค้ก ซึ่งอันที่จริงแล้ว โคคา-โคลา มีผลิตภัณฑ์เต็มพอร์ตโฟลิโอในทุกเซ็กเม้นต์และหลากหลายแบรนด์ ส่วนในประเทศไทย โค้ก แฟนต้า สไปรท์ น้ำดื่มน้ำทิพย์ และมินิทเมด เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ที่โคคา-โคลานำเสนอให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ลิ้มลอง

นางสาวคลาวเดีย นาวาร์โร ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคลา ประจำประเทศไทยและลาว กล่าวว่า “โคคา-โคลาดำเนินธุรกิจโดยรับฟังความต้องการของผู้บริโภคเป็นสำคัญ จากการศึกษาพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มของคนไทย พบว่าผู้บริโภคเลือกดื่มเครื่องดื่มจากหลากหลายเหตุผล เช่น เติมความสุข เพิ่มความสดชื่น พลังงาน และเติมสารอาหารให้กับร่างกาย ความต้องการเหล่านี้สะท้อนออกมาเป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของโคคา-โคลาที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ในทุกๆ โอกาส”

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอของโคคา-โคลาที่มีจำหน่ายในประเทศไทย มีหลายหลายและครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ประกอบไปด้วย เครื่องดื่มอัดลม คือ โค้ก ออริจินอล โค้ก ไลท์ โค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล แฟนต้า สไปรท์ ชเวปส์ เอแอนด์ดับบลิวรูทเบียร์ และโค้ก พลัส คอฟฟี่ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ผสานระหว่างน้ำอัดลมและกาแฟ น้ำผลไม้พร้อมดื่ม คือ มินิทเมด พัลพิ, มินิทเมด สแปลช, มินิทเมด ไวตาคิดส์ รวมถึงมินิทเมด ออเรนจ์ ไฟเบอร์ และฮันนี่ เลมอน ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และเครื่องดื่มเติมเต็มความสดชื่น ได้แก่ น้ำดื่มน้ำทิพย์ อควาเรียส กลิ่นเกรปฟรุ๊ต และกลิ่นซิตรัส และซิโค่ น้ำมะพร้าว 100% โดยโคคา-โคลาจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเครื่องดื่มใหม่ๆ เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอให้สนองตอบต่อความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในประเทศไทย และสะท้อนการเป็นบริษัทเครื่องดื่มเต็มรูปแบบอย่างแท้จริง

นอกจากเครื่องดื่มอัดลม น้ำผลไม้พร้อมดื่ม และเครื่องดื่มเติมเต็มความสดชื่นแล้ว ในระดับโลก โคคา-โคลา ยังเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดกาแฟและชา กับแบรนด์มูลค่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐอย่างจอร์เจียคอฟฟี่ที่มียอดขายสูงสุดในเซ็กเม้นต์กาแฟพร้อมดื่ม ในขณะที่ชาอายาทากะ และฟิวส์ที ในเซ็กเม้นต์ชา ก็ได้รับความนิยมในระดับโลก

“โคคา-โคลาทำงานอย่างหนักเพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันไปของผู้บริโภค โดยจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อก้าวให้ทันเทรนด์ผู้บริโภคและโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว”

ในยุคที่เทรนด์สุขภาพเพิ่มความสำคัญมากขึ้น โคคา-โคลาได้ปรับสูตรลดน้ำตาลในผลิตภัณฑ์หลายชนิด และในประเทศไทยได้รับการรับรองสัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ” (Healthier Choice) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ไม่ว่าจะเป็นอควาเรียส มินิทเมด ออเรนจ์ ไฟเบอร์ และ มินิทเมด ฮันนี่ เลมอน ส่วนซิโค่ น้ำมะพร้าว 100% ก็เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ผลิตจากมะพร้าวคุณภาพชั้นเลิศของไทย ไม่เติมน้ำตาลและสารเติมแต่งอื่นๆ ทั้งหมดนี้ ยังคงให้รสชาติที่ผู้บริโภคชื่นชอบและคุณภาพสูงสุด ขณะเดียวกัน ในระดับโลกยังมีบรรจุภัณฑ์ที่เล็กลง และสะดวกมากขึ้นให้ผู้บริโภคเลือกสรร โดยผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของโค้กในขนาด 180 มิลลิลิตร และโค้ก พลัส คอฟฟี่ในขนาด 240 มิลลิลิตร ก็เริ่มมีวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วเช่นกัน

“แม้ว่าโค้กจะเป็นผลิตภัณฑ์และแบรนด์หลักที่ผู้บริโภคคุ้นเคย แต่โคคา-โคลาก็อยากให้ผู้บริโภคได้ลองผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในพอร์ตโฟลิโอที่ไม่ได้มีเพียง น้ำอัดลม แต่ยังมีน้ำผลไม้พร้อมดื่ม และเครื่องดื่มเติมเต็มความสดชื่น ทั้งที่มีน้ำตาลปริมาณปกติ น้ำตาลน้อย และไม่มีน้ำตาล ซึ่งทั้งหมดนี้คิดค้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย และเหมาะกับทุกคน ในทุกช่วงเวลาของชีวิต สะท้อนจุดยืนของโคคา-โคลาเพื่อเป็นแบรนด์ที่ทั้ง “เข้าใจ” และ “เข้าถึงใจ” ผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง” นางสาวคลาวเดีย นาวาร์โร ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคลา ประจำประเทศไทยและลาว กล่าวปิดท้าย



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online