24 ชั่วโมงต่อวันที่ทุกคนมีเท่ากัน เตือนให้เรารู้ว่าเวลาคือทรัพยากรสำคัญ ซึ่งเราต้องรู้ถึง เทคนิคบริหารเวลา เพื่อให้ทุกนาทีเกิดประโยชน์สูงสุด โดยในบริบทของการทำงานทักษะในจัดการเวลาเป็นทั้งเกณฑ์ตัดสินผลงานและผลักดันสู่ความก้าวหน้า เพราะหากใครสามารถทำงานเสร็จไว ในเวลาไม่มาก พร้อมคุณภาพที่ไม่ลดลง โอกาสเลื่อนขั้น ขึ้นเงินเดือน หรือได้ Bonus ปลายปีก็จะมีมากกว่าผู้อื่น

นอกจากนี้คนที่สามารถเป็นนายเวลา ยังไม่ต้องเหนื่อยกาย เหนื่อยใจกับปัญหางานล้นมือ หรือเร่งทำงานให้เสร็จโดยไร้การตรวจสอบอีกด้วย บรรทัดต่อจากนี้จะทำ 8 ชั่วโมงใน Office ของคุณดำเนินไปอย่างมีคุณภาพ

 

ทยอยทำเรื่องเล็กน้อยก่อน: อย่างแรกที่ต้องทำเพื่อให้บริหารจัดการเวลางานได้ดีขึ้น คือการเริ่มงานทันทีเมื่อนั่งลงที่โต๊ะ โดยประเภทของงานที่ควรประเดิมก่อนในแต่ละวันคือ งานเล็กๆ น้อยๆ ที่ง่ายและไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากมาย เช่น Print เอกสารที่ต้องใช้ ตรวจสอบตารางนัดหมาย email และงานที่ยังค้างไว้จากเมื่อวาน

ขณะเดียวกันควรลดหรือจำกัดเวลากิจกรรมที่ไม่เป็นประโยชน์กับงาน ปัจจุบันคงไม่พ้นการเช็กความเคลื่อนไหวบน Social Media หรือเล่นเกมส์บน Mobile Device หากทำประจำจนกลายเป็นนิสัย เป็นกิจวัตร จะเตือนให้สมองและร่างกายคุณพร้อมทำงานทันทีเมื่อถึง Office โดยอัตโนมัติ ไม่ต่างจากรถแข่งที่อุ่นเครื่องพร้อมออกตัวหรือ Smart Device ที่ได้ตั้งค่าเริ่มต้น (Default) ไว้แล้ว พร้อมทำงานทุกเมื่อ

 

อย่านิ่งนอนใจในการสื่อสาร: หลังอุ่นเครื่องด้วยงานจิปาถะง่ายๆ ไปแล้ว สมาธิในการทำงานก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ เรื่องที่ควรทำอย่างถัดมาถือการโทรศัพท์ติดต่อที่จำเป็น อาทิ สอบถามความคืบหน้ากับปลายสายที่ประสานงานกันไว้ ติดต่อขอความช่วยเหลือเพื่อคลายข้อติดขัด และแจ้งลูกค้าหรือหัวหน้าให้รู้ว่างานที่คุณรับผิดชอบก้าวไปถึงจุดไหนแล้ว

ประโยชน์ของการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เหล่านี้ จะช่วยทั้งในเรื่องการจัดระเบียบความคิด การใช้คำพูดที่กระชับและไม่ต้องหยุดทำงานกลางคันทั้งที่กำลังเข้าสู่ภาวะลื่นไหลเพราะมีสายโทรเข้ามาระหว่างวัน  

 

ต่อติดเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ: ที่ควรทำอีกอย่างคือเข้าไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุยหรือสอบถามความคืบหน้ากับเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะหลังการประชุมประจำสัปดาห์ของ Office หรือทีมงาน เพื่อให้ได้รู้ว่ามีประเด็นใดบ้างที่คุณตกหล่นไป เพราะบทสนทนาที่ทางเดิน ข้างตู้กดน้ำ และระหว่างมื้อกลางวัน เหล่านี้ไม่ได้ส่งผลดีกับงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ในองค์กรอีกด้วย

 

รู้ถึงประโยชน์ของการลากเส้นต่อจุด: เพื่อไม่ให้การผัดวันประกันพรุ่งกลายเป็นนิสัยที่เสียติดตัว จนส่งผลร้ายต่องาน หลังปิด Job แต่ละวันได้แล้ว ก่อนลุกจากโต๊ะควรตรวจดูงานของพรุ่งนี้ล่วงหน้า วางแผนและเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นเอาไว้ และถ้าไม่ติดธุระสำคัญอะไร ให้เริ่มทำบางส่วนได้เลย

การล่วงหน้าไปก่อนแม้เพียงเล็กน้อย ที่ไม่ต่างจากการลากเส้นต่อจุดนี้ จะทำให้งานเป็นรูปเป็นร่างเร็วขึ้น เสร็จก่อนใคร และแน่นอนมีเวลาตรวจทาน จนงานที่ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด/ fastcompany

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online