Carlos Ghosn คือชื่อที่อุตสาหกรรมยานยนต์รู้จักและให้การยอมรับมาเกือบ 20 ปี ในฐานะนักบริหารมือทอง ผู้พา Nissan พ้นวิกฤต และประธานกลุ่มบริษัทรถยนต์ใหญ่สุดในโลก แต่น่าเสียดายว่าตำนานดังกล่าวมีอันต้องจบไม่สวย เพราะเจ้าของฉายา Le Cost Killer เสี่ยงถูกปลดจากตำแหน่งทั้งหมด หลังต้องสงสัยว่าพัวพันกรณีทุจริตทางการเงิน

แม้เป็นวิกฤตที่เริ่มจากค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นแห่งเมืองโยโกฮามา แต่ผลกระทบที่ตามมาไม่ต่างจากสึนามิลูกใหญ่ เพราะ Ghosn ยังนั่งเก้าอี้ประธานของ Renault และ Mitsubishi ด้วย  

 

Nissan ตั้งโต๊ะแถลงข่าวดังที่ผลกระทบรุนแรง  

ฮิโรฮิโตะ ไซคาวะ ประธานบริหาร (CEO) ของ Nissan เผยระหว่างการแถลงข่าวว่า Ghosn ถูกควบคุมตัวไปทันทีที่เดินทางถึงญี่ปุ่น เพื่อนำไปสอบสวนในข้อหาแจ้งบัญชีรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริง นำเงินลงทุนของบริษัทไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว และนำเงินบริษัทไปใช้ทางมิชอบ โดยอีกคนที่พัวพันในเหตุอื้อฉาวครั้งนี้ด้วยคือ Greg Kelly ประธานกรรมการบริษัท ก็ถูกควบตัวมาสอบสวนเช่นกัน

Carlos Ghosn Japan

ฮิโรฮิโตะ ไซคาวะ ประธานบริหาร-CEO Nissan (นั่งเก้าอี้น้ำเงินเข้าหานักข่าว) 

CEO ของ Nissan ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อปีก่อน ต่อจาก Ghosn กล่าวว่าเป็นความผิดขั้นร้ายแรงที่ไม่สามารถยอบรับได้ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกอึดอัดมากที่ต้องมาแถลงเรื่องนี้ แต่ต่อจากนี้ให้คำมั่นว่าบริษัทจะปรับปรุงการตรวจสอบภายในให้เข้มงวดขึ้น เพื่อไม่ให้ปัญหาที่เกิดจากการให้อำนาจอยู่ในมือใครคนหนึ่งมากเกินไปเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนอนาคตการทำงานของ Ghosn ทาง Nissan จะมีการตัดสินระหว่างการประชุมในสัปดาห์นี้ 

ด้านสื่อดังในญี่ปุ่นทั้งสถานีโทรทัศน์ NHK และสำนักข่าว Kyodo รายงานตรงกันว่า กว่า 5 ปีที่ผ่านมา ผู้บริหารมือดีวัย 64 ปีที่ต้องเสื่อมเสียจากการกระทำของตัวเอง ได้รับค่าตอบแทนทั้งหมดจาก Nissan มากถึง 10 ล้านล้านเยน (ราว 2,937 ล้านบาท) ซึ่งสูงเกินมาตรฐานผู้บริหารญี่ปุ่น แต่เจ้าตัวกลับแจ้งต่อทางการญี่ปุ่นเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น   

Carlos Ghosn Car

สำหรับทัศนะจากพนักงาน Nissan ทั้งที่สำนักงานใหญ่ในเมืองโยโกฮามาและโรงงานที่เมืองโทชิกิ เป็นไปทิศทางเดียวกันว่า ตกใจมากกับการทุจริตของผู้บริหารชาวบราซิลเชื้อสายเลบานอน ไม่ต่างจากชาวญี่ปุ่นทั่วไป โดยในจำนวนนี้มีบางคนถึงขนาดเล็งเปลี่ยนไปใช้รถแบรนด์อื่น เพราะรับไม่ได้กับเหตุอื้อฉาวครั้งนี้

 

กรณีทุจริตที่จะบานปลายเป็นวิกฤตใหญ่

การพลิกฟื้น Nissan ที่เกือบล้มละลายให้กลับมาทำกำไร ทำให้ Ghosn เป็นผู้บริหารต่างชาติเพียงไม่กี่คนที่ได้รับการยกย่องจากชาวญี่ปุ่น ถึงขนาดว่ามีการทำข้าวกล้องรูปหน้าเขาออกมาขาย และตีพิมพ์หนังสือการ์ตูนออกมาจำหน่าย โดยผลจากการปรับลดพนักงานนับหมื่นคนและปิดโรงงานหลายแห่งเพื่อลดค่าใช้จ่ายตามแผนพลิกฟื้นบริษัท เขาจึงได้ฉายาว่า Le Cost Cutter และถูกคนเรือนหมื่นที่ต้องตกงานเกลียด

Ghosn รู้ดีว่าการถูกผู้รับผลกระทบจากนโยบายฟื้นฟูองค์กรเกลียดเป็นเรื่องเลี่ยงไม่ได้ “ถ้าคุณไม่เคยเป็นวายร้ายมาก่อน คุณก็ไม่มีทางได้เป็นวีรบุรุษ คนที่เคยได้รับการยกย่องวันนี้ อาจถูกมองในทางเสียหายในวันข้างหน้าก็ได้” โชคร้ายที่เขากำลังถูกมองว่าเป็นวายร้ายจากเหตุอื้อฉาวที่เพิ่งถูกเปิดเผย

Carlos Ghosn Renault

นอกจากหุ้นของ Nissan Renault และ Mitsubishi ที่ตกถ้วนหน้าแล้ว ยังมีความเป็นไปได้ว่า ผลกระทบจากเหตุอื้อฉาว อาจทำให้การควบรวมกิจการของทั้ง 3 บริษัทที่ Ghosn วางไว้ไม่เกิดขึ้น หรือแย่กว่านั้นอาจทำให้ค่ายยานยนต์ทั้ง 3 ต้องแยกออกจากกันเพราะขาดผู้บริหารมากความสามารถ  

ขณะเดียวกัน Nissan เองก็จะถูกมองว่าเกิดเหตุอื้อฉาวไม่หยุดหย่อน เนื่องจากปีที่แล้วต้องเรียกเก็บรถมากกว่า 1.2 ล้านคัน หลังทางการญี่ปุ่นตรวจพบว่าเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบไม่มีใบอนุญาตมาตรวจรับรองคุณภาพรถ

 

2018: ปีที่โลกยานยนต์ประสบวิกฤตผู้บริหารมือดี

ก่อนมาเสื่อมเสียชื่อเสียงจากการกระทำของตัวเอง Ghosn ได้รับการยกย่องจากคนในวงการยานยนต์และแวดวงนักบริหารมาโดยตลอด หลักฐานสำคัญคือปี 2005 เป็นผู้บริหารคนแรกในกลุ่มบริษัทชั้นนำ 500 บริษัทของนิตยสาร Fortune (Fortune Global 500) ที่ดูแล 2 บริษัท (Nissan และ Renault) ไปพร้อมกัน

ตามด้วยปี 2017 ที่ผลักดันให้กลุ่ม Nissan Renault และ Mitsubishi ประสบความสำเร็จ มียอดขายทั่วโลก 10,610,000 คัน ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ของปีนั้น เหนือกว่า Toyota และเป็นรองแค่เพียง Volkswagen Group เท่านั้น  

Carlos Ghosn Fiat CEO

Sergio Marchionne

การเดินทางบ่อย ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นหน้าเป็นตาของบริษัทหลายแห่งในเครือ และคลี่คลายวิกฤตของหลายบริษัทได้ในเวลาเดียวกัน Ghosn จึงถูกนำไปเปรียบเทียบกับ Sergio Marchionne อดีต CEO ของ Fiat-Chrysler ที่มีรูปแบบการทำงานและความสำเร็จในลักษณะที่ใกล้เคียงกันแล้ว 

นอกจากนี้ อีกอย่างที่ทั้งคู่เหมือนกันคือพ้นตำแหน่งในปีนี้อย่างไม่มีใครคาดคิด โดย Ghosn กำลังจะหลุดจากตำแหน่งจากเหตุอื้อฉาว ส่วน Marchionne ลาตำแหน่งไปแล้วจากการเสียชีวิตเพราะผลข้างเคียงจากการผ่าตัด 

Carlos Ghosn Musk

Elon Musk

วิกฤตผู้บริหารอีกกรณีที่อุตสาหกรรมยานยนต์ประสบในปีนี้ คือการที่ Elon Musk–CEO และประธาน Tesla ค่ายรถไฟฟ้าดัง ถูกบีบให้ลงจากตำแหน่ง พร้อมถูกปรับเป็นเงิน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (660 ล้านบาท) จากการ Twit ข้อความว่า เตรียมซื้อหุ้นคืน และจะนำหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐฯ ถือว่าเป็นการปั่นหุ้น/cnn, cnbc, bloomberg, fortune, japantoday, wikipedia

 



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน