ไอคอนสยาม ทำไมจึงสามารถคว้ารางวัลโครงการที่ออกแบบดีที่สุดในโลก ?

ปัจจุบันวงการค้าปลีกทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศมีผู้ประกอบการจำนวนมากทั้งรายใหญ่และรายย่อย และมีการแข่งขันอย่างเข้มข้น  ซึ่งผู้ประกอบการล้วนแต่ต้องต่อสู้แย่งชิงความได้เปรียบทางการธุรกิจ สร้างจุดเด่นและเฟ้นหากลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และสามารถครองความเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า ผ่านการสร้างต้นแบบการทำธุรกิจแบบใหม่ๆ ไปจนถึงการสร้างและการออกแบบแลนด์มาร์กระดับโลกให้สวยงาม ยิ่งใหญ่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

หนึ่งในแลนมาร์กระดับโลกดังกล่าว คือ ไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสร้างมหาปรากฏการณ์งานเปิดเมืองไอคอนสยามจนโด่งดังไปทั่วโลกเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยมี สยามพิวรรธน์ เป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของและผู้พัฒนาโครงการร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น

ล่าสุดได้สร้างความสำเร็จอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์วงการค้าปลีกไทยบนเวทีระดับโลก ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศในฐานะโครงการที่ออกแบบดีที่สุดในโลก หรือ Best Store Design of the Year จากงานมอบรางวัล World Retail Awards ประจำปี 2019 ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ พิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีบุคคลชั้นนำในแวดวงค้าปลีกจากทั่วโลกเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และกรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด

ท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง ชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ซึ่งเดินทางไปร่วมงานมอบรางวัลดังกล่าวด้วยตัวเอง ได้ขึ้นเวทีรับรางวัล พร้อมกล่าวว่า “ความสำเร็จของไอคอนสยาม เกิดจากการรวมพลังความคิดสร้างสรรค์ครั้งยิ่งใหญ่ระดับชาติอย่างแท้จริง ซึ่งต้องขอขอบคุณหัวใจคนไทยหลายภาคส่วน ผู้มีความรู้ความสามารถจากชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ ภาคธุรกิจ ภาคราชการ ศิลปิน ผู้เชี่ยวชาญแขนงต่างๆ รวมถึงผู้คนจากนานาสาขาอาชีพจากทั่วประเทศไทย และผู้ชำนาญการในด้านต่างๆ ที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากหลากหลายประเทศที่รักเมืองไทย รวมแล้วเป็นทีมผู้ร่วมสร้างสรรค์นับพันคน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีความปรารถนาที่จะช่วยกันสร้างสัญลักษณ์ใหม่ให้เป็นตัวแทนจินตนาการแห่งยุค เสริมสร้างให้คนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทย และช่วยกันสืบทอดความงดงามของความเป็นไทยในทุกมิติสู่ชนรุ่นหลัง อีกทั้งให้คนทั่วโลกที่มาเยือนรู้สึกหลงรักและประทับใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น”

โดยคณะกรรมการซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในวงการค้าปลีกระดับโลก ได้ตัดสินให้ไอคอนสยาม ซึ่งสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมโดยร่วมกับทีมงานนักออกแบบจาก บริษัท เออร์เบิ้น อาร์คิเทค จำกัด ได้รับรางวัลชนะเลิศโดยให้เหตุผลว่า “ไอคอนสยาม คือโครงการที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ที่ได้สร้างสรรค์และนำพาการออกแบบค้าปลีกให้ก้าวไปสู่อนาคตและสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับวงการ เป็นโครงการที่ผสมผสานรูปแบบค้าปลีก ที่พักอาศัย และความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยร่วมมือกับศิลปินและช่างฝีมือจากทั่วประเทศไทยและจากทั่วโลก ตลอดจนร่วมมือทำงานกับชุมชนโดยรอบ และผู้ประกอบการร้านค้า ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการสร้างโครงการที่มิใช่มีแค่เรื่องของธุรกิจค้าปลีก หากแต่เป็นโครงการที่นำทั้งวัฒนธรรม นวัตกรรม และงานศิลป์มาไว้รวมกันอย่างเยี่ยมยอด”

รางวัล World Retail Hall of Fame

บนเวทีเดียวกันนี้ ชฎาทิพ จูตระกูล ยังได้รับเกียรติสูงสุดในฐานะผู้หญิงไทยคนแรกที่ได้รับการจารึกชื่อในหอเกียรติยศของสภาการค้าปลีกโลก (World Retail Hall of Fame 2019) ในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและมีอิทธิพลต่อการกำหนดทิศทางและการขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกในระดับโลก

โดย “ชฎาทิพ” กล่าวภายหลังขึ้นรับรางวัลว่า “ความภาคภูมิใจประการหนึ่งของสยามพิวรรธน์คือการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยบนเวทีโลก และการประกาศให้โลกรู้ว่าพวกเราคนไทยมีความคิดสร้างสรรค์ มีความรู้ความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก รางวัลอันทรงเกียรตินี้ไม่เพียงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับนับถือของนานาประเทศมากขึ้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของเกียรติยศ ความสำเร็จและความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน เสมือนเป็นการนำเอาธงชาติไทยไปโบกสะบัดบนเวทีโลกร่วมกัน”

หากเจาะเส้นทางความสำเร็จตลอดระยะเวลา 60 ปีของสยามพิวรรธน์ ซึ่งได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับโลก จะพบว่าเกิดจากกลยุทธ์สำคัญคือการใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัยและนวัตกรรมในการสร้างต้นแบบ สร้างความแตกต่างฉีกกรอบเดิมๆ ด้วยการบุกเบิกคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ และนำมาตรฐานใหม่ๆ มาพัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก ด้วยความมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ปฏิวัติวงการไม่ใช่เฉพาะแค่ในประเทศ แต่รวมถึงวงการค้าปลีกของโลกให้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า และล้วนเป็นการพลิกเกม (Game Changer) ครั้งยิ่งใหญ่

นับตั้งแต่ “สยามเซ็นเตอร์” ศูนย์การค้ามาตรฐานสากลแห่งแรกของประเทศไทยซึ่งเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2516 ทุกวันนี้ยังยืนหยัดอย่างโดดเด่นและแตกต่างในฐานะเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ พื้นที่ให้ผู้มาเยือนได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ อย่างที่รู้กันว่าที่นี่สถานที่วัยรุ่นออกมาใช้ชีวิตทุกยุคทุกสมัย เป็นศูนย์กลางแห่งแฟชั่น และเป็นจุดแจ้งเกิดของดีไซเนอร์ไทยทุกยุคทุกสมัยมาตลอดกว่า 40 ปี อีกทั้งเคยได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ด้านการออกแบบและพัฒนาโครงการ จาก ICSC’s VIVA Awards

ส่วน “สยามดิสคัฟเวอรี่” ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์แห่งแรกของประเทศ ซึ่งเปิดในปี พ.ศ. 2540 และต่อมาได้พลิกโฉมกลายเป็น สยามดิสคัฟเวอรี่ – ดิ เอ็กซ์พลอราทอเรียม ด้วยคอนเซ็ปต์ไฮบริด รีเทล สโตร์แห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาค ที่นำเสนอสินค้าตามเทรนด์และความสนใจของลูกค้าเป็นสำคัญ (Customer Centric) ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกที่ศูนย์การค้าไทยสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศจากทั้ง 2 เวทีใหญ่ของวงการศูนย์การค้าและวงการการค้าปลีกของโลกได้พร้อมกันในปีเดียว ได้แก่ รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ด้านการออกแบบและพัฒนาโครงการ จาก ICSC’s VIVA Awards และรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 โครงการที่ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ดีที่สุดในโลก จาก World Retail Awards

มาจนถึง “สยามพารากอน” ซึ่งเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2548 ได้นำเสนอปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้นทั้งการช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบที่สุด ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เข้ามาเยี่ยมเยือนประเทศไทย จนได้รับการยอมรับว่าเป็น “Global Destination” อย่างแท้จริง โดยติดอันดับ 6 ของสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเช็กอินมากที่สุดในโลกผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ในปี พ.ศ. 2558 และเป็นสถานที่ที่มีคนถ่ายรูปโพสต์ลงอินสตาแกรมมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ในปี พ.ศ. 2556

โดยปัจจุบัน สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้ผนึกกำลังร่วมกันเกิดเป็นแพลตฟอร์มใหม่ในชื่อ “วันสยาม” (OneSiam) ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายครบทุกมิติ และเป็นจุดหมายปลายทางที่สร้างสรรค์แรงบันดาลใจและมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่เหนือระดับให้กับผู้มาเยือนจากทั่วโลก

มาจนถึง ไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมือง ได้สร้าง บรรทัดฐานใหม่ (New Paradigm) ในการทำธุรกิจในรูปแบบ “Co-Creation’ หรือการร่วมกันรังสรรค์ ซึ่งเกิดขึ้นจริงแล้วอย่างเป็นรูปธรรมและในสเกลที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน เพราะมีการรวมพลังผู้มีความรู้ความสามารถจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ และรูปแบบ “Shared Value” หรือการสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นร่วมกันทุกฝ่าย แผ่กระจายผลประโยชน์ไปในวงกว้างทั้งระดับชุมชน สังคม และประเทศ

และการจับมือครั้งสำคัญกับ ‘ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป’ (Simon Property Group) อสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่เบอร์ 1 ของโลก จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เป็นเจ้าของโครงการพรีเมียมเอาต์เล็ต ที่คนไทยรู้จักกันดี Woodbury Common Premium Outlets (New York), Gotemba Premium Outlets (Tokyo) มาร่วมเปิด Siam Premium Outlets โครงการอินเตอร์เนชั่นแนลลักชัวรีเอาต์เล็ตแห่งแรกของประเทศไทย นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามอง

ชฎาทิพกล่าวทิ้งท้ายว่า “วันนี้ สยามพิวรรธน์ได้ก้าวข้ามการแข่งขันภายในประเทศ สู่การเป็น ‘ผู้นำแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์’ (Creative Economy) เพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่แปลกใหม่เป็นคนแรก และสร้างมหาปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน นำเกียรติยศและการยอมรับบนเวทีโลกมาสู่คนไทยและประเทศไทย ตามความมุ่งมั่นที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาประเทศไทยไปยิ่งใหญ่บนเวทีโลก”

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online