ในวันที่ตลาดชาบูมีแต่เดือดขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันคู่แข่งที่ช่วงชิงมื้ออาหารของผู้บริโภคก็ไม่ได้มีแค่ในวงการหม้อต้ม แต่รวมถึงร้านอาหารทุกประเภท แต่ทำไม ‘อีวาไอเมะ’ (Evaime) ชาบูไต้หวันแบรนด์ที่มาจากผู้ประกอบการ SME ไทย ถึงอยู่มาเป็น 10 ปี และที่สำคัญทุกสาขานั้นอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
คำถามนี้ทำให้ Marketeer เดินทางมาพูดคุยกับ วา-รุ่งทิวา กังวานกิจขจร หนึ่งใน Co-founder ‘อีวาไอเมะ ชาบู ชาบู’ (Evaime Shabu Shabu)

อีวาไอเมะ คือชาบูสไตล์ไต้หวันแบรนด์แรกในไทย ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจาก วา-รุ่งทิวา กังวานกิจขจร และ เมย์-รุ่งรัตน์ กังวานกิจขจร สองสาวพี่น้องจากตระกูลคนไทยเชื้อสายจีนที่ถือขนบดั้งเดิมคือ ลูกชายสืบทอดธุรกิจ ลูกสาวแต่งออก โดยทางบ้านแบ่งมรดกให้ลูกสาวเป็นเงินทุนในการสร้างครอบครัวใหม่
เมื่อเมย์และวาได้รับมรดกมาคนละล้านต้นๆ สองศรีพี่น้องจึงชวนกันลงขันหาทางต่อยอดเงินทุน ด้วยการทำธุรกิจที่มาจาก Passion ที่ชอบรับประทานอาหารของทั้งคู่ และเกิดเป็นร้านชาบูสไตล์ไต้หวัน ที่ใช้ชื่อเล่นของทั้ง 2 คนมารวมกัน คือ อีวากับไอ้เมย์ เป็น ‘อีวาไอเมะ ชาบู ชาบู’

เธอเล่าว่า ในยุคนั้นร้านชาบูยังมีไม่มาก ยิ่งเป็นชาบูสไตล์ไต้หวันด้วยแล้วถือว่าอีวาไอเมะเป็นแบรนด์แรกในไทย ทำให้ใน 4 ปีแรกเธอสามารถขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นจากคอมมูนิตี้มอลล์ก่อนแล้วรุกเข้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังต่างๆ
“สาขาแรกเราเปิดที่อเวนิวแถวย่านศรีนครินทร์ ด้วยความที่เป็นอาหารแปลกใหม่ในยุคนั้นทำให้เราขายดีตั้งแต่วันแรก แนวคิดในการทำธุรกิจของเราคือการเลือกสิ่งที่ชอบและมีคุณภาพมาเสิร์ฟให้ลูกค้า เมื่อเขาได้มาลองชิมและพบกับวัตถุดิบที่ดี รสชาติที่อร่อย จากที่มาแค่ลองชิมก็กลายเป็นลูกค้าประจำ พอเข้าปีที่ 2-4 เราก็ขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีอยู่ปีหนึ่งเปิดพร้อมกัน 3 ที่ แบบเดือนต่อเดือน คือสาขาสยาม ดิสฯ, สยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์”
อีวาไอเมะเคยเปิดมาทั้งหมด 11 สาขา แต่ด้วยเหตุผลเรื่องสัญญาเช่าพื้นต่างๆ ทำให้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมามีทั้งการเปิดใหม่และปิดในบางสาขา และปัจจุบันมีทั้งหมด 5 สาขา คือ Siam Paragon, Paradise Park, Icon Siam, The Scene@Town in Town และ Union Mall

ร้านชาบูที่สะท้อนคาแรกเตอร์ของเจ้าของ
อีวาไอเมะ เป็นร้านชาบูที่ดึงคาแรกเตอร์ของเจ้าของออกมา สะท้อนผ่านชื่อร้าน ผ่านการตกแต่งร้านสไตล์ Loft ผ่านเมนูอาหาร หรือกิจกรรมต่างๆ
“เราสองพี่น้องเป็นคนสนุกและเป็นคนชอบรับประทานอาหาร นอกจากเราเลือกสิ่งที่ชอบมาเสิร์ฟให้ลูกค้าแล้วยังนำเสนอความสนุกผ่านชื่อเมนู เช่น เมนูอีเล้ง อีหอยหลอด อีหอยตลับ น้ำบ๊วย 1 ลิตร เมนูที่ใส่ความครีเอทีฟอย่างหมูเมตร เนื้อเมตรที่มาจากอินไซด์ผู้บริโภค หรือการจัดกิจกรรมเช่น Dance For Free Shabu และอีกหลายๆ อย่างที่ดึงคาแรกเตอร์ของเจ้าของมาใส่ในอีวาไอเมะชาบูชาบู”

สไตล์ร้านที่ชัดเจน ชื่อเมนูที่ดูแปลก คงไม่เพียงพอที่จะทำให้ อีวาไอเมะ เดินทางมาถึงวันนี้ได้ วาจึงอธิบายต่อว่า สิ่งที่ทำให้อีวาไอเมะเปิดมาถึง 10 ปีได้นั้นมาจากองค์ประกอบหลายอย่าง
“อย่างแรกคือ เราไม่หยุดพัฒนาเมนู เราเปลี่ยนเมนูทุกๆ 6 เดือน คิดสูตรน้ำพริกเผากว่าร้อยสูตรเพื่อให้ได้สูตรที่กินกับชาบูอร่อยที่สุด หรือการพัฒนาน้ำซุปอย่างชาบูน้ำดำที่อีวาไอเมะเป็น Original เจ้าแรกที่คิดขึ้นมา ปกติแล้วของญี่ปุ่นจะเป็นสุกี้ยากี้ ถ้าชาบูจะเป็นน้ำซุปสาหร่ายคอมบุ เราก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้สามารถซดน้ำซุปได้ไม่เค็มเกินไปและคิดสูตรจนกลายเป็น ชาบูน้ำดำ นอกจากนี้ ยังมีเมนู A la Carte อื่นๆ ที่หลากหลาย เพราะอย่าลืมว่าเมื่อเข้าห้างฯ คู่แข่งของเราไม่ใช่แค่ชาบูหรือสุกี้ยากี้ แต่เป็นร้านอาหารทุกร้าน
ถัดมาคือ คุณภาพ เราเลือกวัตถุดิบที่ดี อะไรที่เราไม่ชอบ ไม่มีคุณภาพ เราไม่เสิร์ฟให้ลูกค้ารับประทาน เราเสิร์ฟเนื้อไทยเฟรนซ์ที่มีคุณภาพตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้านจนถึงวันนี้เราก็ไม่เปลี่ยนไปใช้เนื้ออื่น นอกจากคุณภาพและการพัฒนาแล้ว สิ่งสำคัญคือ การก้าวเดินแต่ละก้าวเราคิดอย่างรอบคอบ ศึกษาในสิ่งที่จะทำอย่างถี่ถ้วน และคิดวิธีแก้อย่างรอบด้าน แต่ถึงจะคิดแก้ปัญหาล่วงหน้าพอเอาเข้าจริงก็ยังต้องเจอปัญหาอยู่ แต่เราก็ค่อยๆ แก้และทำใหม่”
ปีที่ 10 อีวาไอเมะ เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน
ในเรื่องการบริหารวากับเมย์แบ่งหน้าที่กันชัดเจน เมย์ดูเรื่องบัญชีการเงิน ส่วนวาบริหารร้านทำการตลาด ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เธอก็เรียนรู้และบริหารในแบบของเธอมาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดเปลี่ยน ในวันที่เธอตัดสินใจเข้าร่วมโครงการอบรมระยะสั้น K SME CARE ที่เปิดโลกธุรกิจใบใหม่ให้กับเธอนั่นคือโลกออนไลน์
“จริงๆ วาใช้ระบบการเงินกับธนาคารกสิกรไทยอยู่แล้ว เราได้ยินคอร์ส K SME CARE จากเพื่อนๆ พี่ๆ หลายคนถามว่าเมื่อไหร่จะมาเรียนซะที จึงตัดสินใจเข้าเรียนในรุ่นที่ 24 และพอได้เข้าอบรมมันเหมือนเปิดโลกให้กับเรา ได้เจอพี่และเพื่อนที่ทำธุรกิจด้านต่างๆ แชร์ประสบการณ์การทำงาน ที่สำคัญเพื่อนและพี่ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนสอนวิธีการทำธุรกิจแบบไม่มีกั๊ก

วาได้เจอกับ ‘พี่หนึ่ง-ธัญญ์นิธิ อภิชัยโชติรัตน์ เจ้าของเพจสินค้าสำหรับแม่และเด็ก Small World For Kids ซึ่งพี่หนึ่งเก่งด้านออนไลน์มากๆ แนะนำให้เราทำ Communication ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเราไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย และพี่หนึ่งก็แนะนำขั้นตอน เริ่มจากตรงนี้ ยิงแอด Facebook แบบนี้ ได้ลองทำโฆษณาผ่าน Influencer ซึ่งก็เป็นเพื่อนๆ เราได้เห็นว่าการ PR แบบนี้มันดีกับร้านยังไง ได้เปิดขายชาบูแบบออนไลน์ เดลิเวอรี่ ในเดือนแรกอีวาไอเมะได้เป็นร้าน Top List ของ Grab ผลตอบรับดีมาก เราทำโปรโมชั่น สั่งครบ 2,000 บาท รับหม้อชาบูได้เลย ทำแพ็กเกจจิ้งถุงผ้าที่นำมารียูสได้ ซึ่งเมื่อมีคนนำกลับมาใช้มันก็เป็นการ PR ร้านไปในตัว
วาได้เจอกับ เบนซ์-ธรรมสร มีรัตน์ เจ้าของธุรกิจหุ่นยนต์ดูดฝุ่น AUTOBOT และ Ticwatch นาฬิกาอัจฉริยะ คนที่สอนการทำแพลตฟอร์ม CRM บน LINE Official Account ซึ่งตอบโจทย์คนในยุคนี้ที่ไม่นิยมพกบัตรสมาชิก แถมยังช่วยให้เราเก็บข้อมูลลูกค้าคนนี้ชอบรับประทานเมนูนี้ สะสมแต้มไปเรื่อยๆ และ Reward คืนในเมนูที่เขาชอบได้ วาได้ลองขาย Voucher ใน Shopee ซึ่งสามารถขายหมดภายในหนึ่งชั่วโมง
วาได้เจอ นิว-ณัฐยา ธีรานุวัฒน์ ทายาทธุรกิจฟาร์มสุกร บริษัท สามพรานฟาร์ม จำกัด ที่ปกติเป็น Supply ให้กับห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารเชนใหญ่ๆ น้องนิวช่วยซัปพอร์ตวัตถุดิบคุณภาพให้กับเราแบบง่ายๆ อย่างมีช่วงหนึ่งที่เมนูเล้งเป็นที่นิยม วัตถุดิบขาดตลาด วาโทรหาน้องนิวกริ๊งเดียว น้องนิวส่งวัตถุดิบให้ถึงที่เลย

“ไม่ใช่แค่เรา 4 คนตรงนี้ ในรุ่นมีเกือบ 300 กว่าคนที่ทุกคนช่วยกันหมด อย่างช่วงหนึ่งวาอยากได้ Contact Food Panda หายังไงก็ไม่ได้สักที แค่วาถามในกรุ๊ปแป๊บเดียว เพื่อนๆ พี่ๆ ในรุ่นก็ส่ง Contact มาให้ ขณะที่วาเองเราทำร้านชาบูแม้จะมีเมนูของหวาน แต่ยังมีโอกาสที่จะวางขายไอศกรีมได้ วาก็เอาไอศกรีม ‘ละมุน’ ของน้องใน K มาลงที่ร้าน ช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้เขา”
“จะบอกว่าโครงการ K SME CARE เป็นจุดรวมผู้เชี่ยวชาญที่เราสามารถหาคำตอบทางธุรกิจได้ฟรีๆ การที่เราได้เข้ามาอยู่ในเครือข่ายที่แข็งแรง มีการแบ่งปันทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องธุรกิจ จนในวันนี้เรามีโอกาสขยายตลาด เพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ และต่อยอดให้อีวาไอเมะได้เติบโตมากขึ้น”
แต่ก่อนจะตัดสินใจลุยออนไลน์ เธอยังคงคอนเซ็ปต์การคิดแบบรอบด้าน โดยใช้เวลา 1 ปีรวบรวมข้อมูลทุกอย่างจากเพื่อนๆ พี่ๆ ในรุ่น และตัดสินใจก้าวสู่สนาม ปัจจุบัน อีวาไอเมะ สามารถสั่งผ่าน Food Delivery Apps ทั้ง Grab, Line Man, GET และ Food Panda พร้อมทำการตลาดผ่าน Facebook อย่างต่อเนื่อง ขณะที่แพลตฟอร์มสมาชิกบน LINE Official Account ก็กำลังจะได้เห็นในเร็วๆ นี้

FYI: สำหรับผู้อ่าน
หากดูโปรไฟล์ที่ปรึกษาที่แชร์ความรู้เรื่องธุรกิจให้กับอีวาไอเมะในวันนี้จะพบว่าแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดา เริ่มต้นจาก หนึ่ง-ธัญญ์นิธิ อภิชัยโชติรัตน์ เจ้าของเพจสินค้าสำหรับแม่และเด็ก “Small World For Kids” ที่ทำยอดขายกว่า 30 ล้านบาท ด้วยการตลาดออนไลน์ 100% ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าลงมือยิงแอดออนไลน์ด้วยตัวเองทั้งหมดจนกลายเป็นพาร์ตเนอร์กับ Facebook ที่มักจะได้รับสิทธิ์ทดลองเครื่องมือหรือฟีเจอร์ใหม่ๆ ก่อนใคร ขณะที่เบนซ์-ธรรมสร มีรัตน์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่ผันตัวสู่ธุรกิจเทคโนโลยี ด้วยการเป็นเจ้าของธุรกิจหุ่นยนต์ดูดฝุ่น แบรนด์ AUTOBOT และ Ticwatch นาฬิกาอัจฉริยะ ที่เติบโตไม่หยุดจนมียอดขายเฉลี่ย 100 ล้านบาทต่อปี และสำหรับนิว-ณัฐยา ธีรานุวัฒน์ ทายาทธุรกิจฟาร์มสุกร บริษัท สามพรานฟาร์ม จำกัด ที่ใส่ใจในทุกกระบวนการผลิต จนกลายเป็นฟาร์มสุกรเจ้าแรกในไทยที่เลี้ยงหมูแบบ Free Range หรือเลี้ยงแบบปล่อยทุ่ง ซึ่งหมูที่เลี้ยงแบบนี้จะเป็นหมูสุขภาพดี ไม่เครียด แข็งแรง จึงไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีในการเร่งโตหรือรักษา
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วาจะบอกกับเราว่า K SME CARE คือแหล่งรวมผู้เชี่ยวชาญ เพราะเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการธุรกิจด้านต่างๆ มารวมกัน และไม่ได้มีแค่รุ่นนี้เท่านั้น แต่มีมาแล้วกว่า 25 รุ่น ขณะที่ทาง KBank เองก็ช่วยสร้าง Community ผู้ประกอบการหัวกะทิเหล่านี้ให้เป็น Network ที่แข็งแรง เพื่อถ่ายทอดความรู้และต่อยอดให้ผู้ประกอบการรุ่นน้องได้เติบโตไปด้วยกัน สมกับสโลแกน “พี่แคร์แชร์ให้น้องโต” ที่ไม่ใช่แค่การแบ่งปัน ช่วยเหลือกันระหว่างรุ่นต่อรุ่นหรือข้ามรุ่นเท่านั้น แต่ยังแผ่ขยายไปสู่ผู้ประกอบการ SME คนอื่นๆ ให้ได้รับประโยชน์ทั้งประสบการณ์ ความรู้ หรือแม้แต่บทเรียนธุรกิจจากผู้ประกอบการที่ผ่านการอบรมจากโครงการ K SME CARE เช่นกัน
ติดตามกิจกรรมการแบ่งปันความรู้ดีๆ จากพวกเขาทั้ง 4 คนเพิ่มเติมได้ที่ FB K SME

ในวันนี้อีวาไอเมะยังคงความ “Creativity” และ “Active” ตามแบบฉบับคาแรกเตอร์ของเจ้าของเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่ที่จะเปลี่ยนคือหลังจากติดปีกให้กับหม้อชาบูมาแล้ว จากนี้ไปเราจะได้เห็นก้าวที่แข็งแกร่งของอีวาไอเมะ พร้อมสู้ศึกธุรกิจอาหารอย่างเต็มตัว
สำหรับเจ้าของธุรกิจน่าจะเป็นเรื่องที่สนุกและท้าทาย
แต่สำหรับคอชาบูหมูเมตรอย่างผู้เขียน แฮปปี้มากๆ…กดสั่งชาบูมาปาร์ตี้ที่บ้านเรียบร้อยหนึ่งยก
–
