การระบาดของไวรัส Covid-19 ยังส่งผลรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่และการดำเนินธุรกิจทั่วโลก รวมไปถึงอุตสาหกรรมช็อกโกแลตในเบลเยียม โดยร้านช็อกโกแลตในเบลเยียมทุกแห่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มาตรการเคอร์ฟิวและการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัส ฉุดยอดขายช่วงนี้ลดลงไปเป็นอย่างมาก ทั้งที่ตามปกติถือเป็นช่วงทำเงินจากยอดขายของช็อกโกแลตในเทศกาลอีสเตอร์
ร้านช็อกโกแลตในเบลเยียมทุกแห่งต่างต้องปรับตัวและพยายามประคับคองธุรกิจ ด้วยการหันไปขายผ่านออนไลน์ ลดการสั่งวัตถุดิบที่จะเน่าเสียหากเก็บไว้นาน และบริจาคที่ขายไม่ได้ให้บุคลากรทางการแพทย์ เพราะร้านสามารถเปิดได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงในแต่ละวัน
และให้ลูกค้าเข้ามาได้ครั้งละเพียงหนึ่งหรือสองคนตามข้อบังคับของรัฐบาล โดยลูกค้าทั้งหมดเป็นชาวเบลเยียมด้วยกัน หลังนักท่องเที่ยวหายไปหมด ตามมาตรการปิดพรมแดนของประเทศต่างๆ ในยุโรป
วิกฤตไวรัสครั้งนี้ส่งผลอย่างรุนแรงต่อยอดขายของร้านและโรงงานช็อกโกแลตเบลเยียมช่วงเทศกาลอีสเตอร์ มากกว่าเหตุก่อการร้ายเมื่อปี 2015
ด้านธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม เช่น เบียร์ สินค้าขึ้นชื่ออีกอย่างของเบลเยียมก็ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส Covid-19 เช่นกัน
ช็อกโกแลตถือเป็นสินค้าขายดีของเบลเยียมที่ทำเงินเข้าประเทศมหาศาลในแต่ละปี โดยช่วงเทศกาลอีสเตอร์ในเดือนเมษายนคือหนึ่งในช่วงทำเงินเพราะสามารถดันยอดขายให้สูงขึ้นได้ถึง 15-30% ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มาจากประเทศในยุโรปที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และซื้อช็อกโกแลตไข่อีสเตอร์กลับไปฝากคนที่บ้านหรือใช้เป็นขนมในการเฉลิมฉลอง
สำหรับสถานการณ์ระบาดที่เบลเยียมวันนี้ ผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 26,667 คน มากเป็นอันดับ 7 ในยุโรป โดยอันดับ 1 คือสเปน มีผู้ติดเชื้อ 157,022 คน ส่วนอิตาลีตามมาในอันดับ 2 มีผู้ติดเชื้อ 143,626 และฝรั่งเศสเป็นอันดับ 3 มีผู้ติดเชื้อ 118,721 คน/france24, euronews, scmp
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

