แม้โควิด-19 จะดึงเศรษฐกิจให้สะดุดจนหลายธุรกิจต้องรัดเข็มขัด ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะโฆษณา
ในเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมโฆษณามีการใช้เม็ดเงินลดลง 5% เมื่อเทียบกับมีนาคม 2562

รัญชิตา ศรีวรวิไล รองผู้อำนวยการ นีลเส็น มีเดีย ประเทศไทย คาดการณ์ว่าในเดือนเมษายนเม็ดเงินโฆษณาจะลดกว่าที่ผ่านมาเช่นกัน
การลดลงของเม็ดเงินโฆษณาเป็นเหมือนลางร้ายที่กำลังบอกกับเราว่าอุตสาหกรรมโฆษณาได้เผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่
แต่ถ้ามองลึกลงไปแล้วด้านลบของอุตสาหกรรมโฆษณายังมีด้านบวกที่ยังคงเติบโต สื่อออนไลน์ที่ยังคงเติบโตถึง 23% และเป็นสื่อเดียวที่มีการเติบโต
ซึ่งการลดลงของเม็ดเงินโฆษณาไทยสวนทางกับพฤติกรรมคนไทยที่ใช้เวลากับสื่อในบ้านเพิ่มขึ้น
รัญชิตา ศรีวรวิไล รองผู้อำนวยการ นีลเส็น มีเดีย ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่าแม้อุตสาหกรรมโฆษณาไทย และหลายๆ ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกมีการชะลอตัว แต่มีอีกหลายประเทศที่ยังคงใช้งบโฆษณาเพิ่มขึ้น จากการมองเห็นโอกาสทางการตลาด
อย่างเช่นประเทศเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ รวมถึงอินเดียมีการใช้เม็ดเงินโฆษณาที่เพิ่มขึ้น
โดยเบลเยียมใช้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น 4.2% เนเธอร์แลนด์ 4.5%
ส่วนอินเดียเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจคือ การเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาที่เพิ่มขึ้นถึง 13% ภายในสัปดาห์ที่ 1 ของการประกาศล็อกดาวน์ในประเทศ การเปรียบเทียบนี้ได้เปรียบเทียบกับช่วงต้นปี 2563
การเติบโตของเม็ดเงินโฆษณาในประเทศอินเดียมาจากการเพิ่มขึ้นของโฆษณาทางโซเชียลถึง 147%
โฆษณาในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 36%
และโฆษณาจากกลุ่มการลงทุนด้านการเงิน +47% เป็นหลัก

จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ในการมองตลาดของแต่ละเซกเมนต์สินค้า และแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่านักการตลาดจะ Pull Back หรือ Push Forward
รัญชิตาให้ความเห็นว่าการ Pull Back แม้จะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย แต่อาจจะทำให้เสียลูกค้าได้จากการไม่ได้ Engage กับลูกค้า ตอกย้ำ Brand Awareness ให้ลูกค้าเห็นอยู่เสมอ
ส่วนการ Push Forward แม้แบรนด์จะต้องใช้งบประมาณลงทุนโฆษณา แต่ข้อดีคือสามารถ Engage ลูกค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษา Loyalty ของลูกค้า และสร้างแบรนด์ให้อยู่ในใจลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย การสร้างรายได้กลับของแบรนด์ย่อมทำได้ดีกว่าแบรนด์ที่ลูกค้าไม่เคยเห็นเลยในช่วงโควิด-19
แต่การโฆษณาถึงลูกค้าจะต้องมีความแม่นยำ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เชิงลึก ผ่านสื่อในบ้านเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร เช่น ทีวี สื่อออนไลน์ เนื่องจากผู้บริโภคใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเป็นหลัก
รวมถึงการทำแคมเปญ CSR ช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อสร้างแบรนด์เลิฟในใจผู้บริโภค
แต่อย่างก็ดี ไม่ใช่ทุกอุตสาหกรรมเจอวิกฤตทั้งหมด แต่ยังมีอุตสาหกรรมที่สามารถเติบโตได้ ในช่วงเวลาโควิด-19 เช่น
ประกัน
Delivery Service
Household Product โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ
eCommerce, Home Shopping
Internet Communication
Streaming Service เป็นต้น
ทั้งนี้ นีลเส็นเชื่อว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย แบรนด์ต่างๆ จะกลับมาใช้เม็ดเงินอีกครั้ง โดยเริ่มจากการใช้เงินผ่านแคมเปญที่เน้นยอดจำหน่ายในระยะสั้นเป็นอันดับแรก
และในมุมของผู้บริโภคหลังจากโควิด-19 จบ มีความคิดอยากกลับมาใช้ชีวิตปกติมากที่สุด และเปิดใจมากขึ้น และเป็นโอกาสในการทดลองสินค้าใหม่ๆ และในวันนั้นเม็ดเงินโฆษณาจะกลับมา
–
