สยามพิวรรธน์ ถึงเวลาปรับใหญ่ ครั้งนี้ขอเติบโตอย่างยั่งยืน (วิเคราะห์)

  • ดึงบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี “อริยะ พนมยงค์” สร้างประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ผ่านช่องทางออมนิชาแนล (Omni Channel) แบบไร้รอยต่อ
  • ปรับโครงสร้างองค์กร ประกาศแต่งตั้ง 2 แม่ทัพหญิงดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ เดินหน้ากลยุทธ์ “สร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่ายสู่ความยั่งยืน”
  • ดึงคนรุ่นใหม่ สร้างทีมงานขับเคลื่อนธุรกิจอย่างรวดเร็ว ร่วมกับพันธมิตร คู่ค้า พร้อมตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลก

 

บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ “ไอคอนสยาม” และสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย ประกาศปรับโครงสร้างองค์กร ดึงบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการสร้างประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ผ่านช่องทางออมนิชาแนล (Omni Channel) แบบไร้รอยต่อ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ “สร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่ายสู่ความยั่งยืน”

แต่งตั้ง 2 แม่ทัพใหญ่ ผนึกกำลังคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมกันขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จที่มากกว่าเดิม และดึงคนรุ่นใหม่จากหลากหลายสายงานมาสร้างทีมงานย่อยที่เน้นกระบวนการคิดและทำงานรวดเร็วอย่างมีอิสรเสรี (Agile Team) พร้อมปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความคล่องตัว และเร็วต่อการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า การทำธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 คือ การบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในเรื่องความต้องการของลูกค้าของเราทั้งในประเทศและที่เคยเดินทางมาเยี่ยมเยือนโครงการของเราจากทั่วโลก (Global Citizen) บริหารความคาดหวังจากบรรดาร้านค้า และพันธมิตรทางธุรกิจที่เราจะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความสำเร็จในรูปแบบใหม่ ๆ ร่วมกัน

จึงนับเป็นโอกาสที่ทำให้เราเร่งปรับและพัฒนาองค์กรให้สำเร็จในปีนี้ เพื่อให้บรรดาบุคลากรทั้งหมดสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ  เราเชื่อว่าในที่สุดสถานการณ์โควิด-19 จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ที่ทุกคนจำเป็นต้องออกมาใช้ชีวิตตามปกติอย่างมีวินัย และผู้คนจากทั่วโลกยังต้องเชื่อมโยงเข้าหากัน  สยามพิวรรธน์จึงต้องเร่งปรับเปลี่ยนองค์กร เพื่อทำให้เกิดผลงานได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์

ท่ามกลางความท้าทายนี้ สยามพิวรรธน์ได้พัฒนาโครงสร้างสู่การเป็นองค์กรที่นำเสนอประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ผ่านช่องทางออมนิชาแนล (Omni Channel) ที่ขยายเครือข่ายบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้เข้าถึงตัวลูกค้าทั่วประเทศและทั่วโลกแล้วเชื่อมโยงกลับมาที่สินค้าและบริการในศูนย์การค้า รวมทั้งการพัฒนาระบบอัตโนมัติ (Automation)  ในการบริหารจัดการและการให้บริการ

โดยได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกแห่งหนึ่งมาจัดแผนงานเรื่องนี้โดยเฉพาะ อีกทั้งเสริมทีมงานโดยมีผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าด้านเทคโนโลยี ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย คือ นายอริยะ พนมยงค์ อดีต Head ของ Google ประเทศไทย , อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัท LINE  ประเทศไทย และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Transformational  ที่จะเข้ามาเป็นผู้นำทัพการเปลี่ยนแปลงด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital transformation) ให้กับสยามพิวรรธน์ในครั้งนี้

นางชฎาทิพ กล่าวว่า  “บริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวจะนำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลออมนิชาแนลและประสบการณ์จากการให้คำแนะนำแก่บริษัท Fortune Global 500 มากมาย มาสนับสนุนให้สยามพิวรรธน์บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้นำออมนิชาแนลที่โดดเด่นในประเทศไทย และภูมิภาคในอนาคต และในส่วนของคุณอริยะ พนมยงค์ ซึ่งเคยเป็นผู้นำในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก รวมทั้งมีประสบการณ์ที่กว้างขวาง เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและโซเชียล จะมาสนับสนุนสยามพิวรรธน์ในการขับเคลื่อน และสร้างมิติใหม่ในการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ”

นายอริยะ พนมยงค์ กล่าวว่า ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส และในเวลานี้สยามพิวรรธน์พร้อมที่จะเริ่มสร้างและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจในครั้งนี้ ยังมีโอกาสอีกมากมายสำหรับการเติบโตในตลาดการค้า และ E-Commerce ที่มีพื้นที่เพียง 6% ของอุตสาหกรรมค้าปลีก แต่ทั้งนี้เป้าหมายหลักของเรายังคงเป็นการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและไม่ซ้ำใคร

การปรับเปลี่ยนของสยามพิวรรธน์ในครั้งนี้จะนำไปสู่ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบเพื่อสร้างสุดยอดประสบการณ์ดิจิทัลแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการนำนวัตกรรม และ Data Powered Marketing เพื่อการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ลึกขึ้น มาสร้างเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่จะตอบโจทย์คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้คนจากทั่วโลก

นางอัมพร โชติรัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เสริมว่า “ใน 3 ปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์ได้ใช้เงินไปประมาณ 900 ล้านบาทในการพัฒนาระบบนวัตกรรม Digital Platform และระบบบริหารฐานข้อมูลอย่างครบวงจร โดยมีแผนที่จะลงทุนต่อเนื่องในปี 2564 เพื่อพัฒนาระบบอัตโนมัติ 30 โครงการ (Automation) เพื่อลดขั้นตอนการทำงานของพนักงานในการให้บริการเรื่องต่าง ๆ ลดขั้นตอนการอนุมัติที่ซับซ้อน ผลักดันให้ทุกคนทำงานได้สำเร็จเร็วขึ้น”

กลยุทธ์สำคัญในการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลของสยามพิวรรธน์ คือการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายรายที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลต่าง ๆ ให้เกิดธุรกิจโมเดลใหม่ ๆ อีกทั้งทำงานร่วมกับ Global Partners ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีกในประเทศต่าง ๆ ในการร่วมกันขยายเครือข่าย Omni Channel ให้ครอบคลุมทุกมิติได้ทั่วโลก อีกทั้งมุ่งสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ๆ ที่จะสร้างประสบการณ์ที่น่าสนุก แตกต่าง และประทับใจ ร่วมกับบรรดาคู่ค้าและร้านค้าที่มีอยู่ในศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์อย่างไร้พรมแดน

นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังได้ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลตามกลยุทธ์ พร้อมประกาศแต่งตั้ง นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์  รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ (President) สายส่งเสริมการตลาดและองค์กรสัมพันธ์  รับผิดชอบในการมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าทั่วโลก พร้อมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและนอกประเทศเพื่อสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะประสานประโยชน์ร่วมกันได้ในหลากหลายวิถีทาง

และได้แต่งตั้ง นางแคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ รับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ (President)   สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ รับผิดชอบในการยกระดับการขายเชื่อมโยงออฟไลน์สู่ออนไลน์ให้กับบรรดาร้านค้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยจากฐานลูกค้าของสยามพิวรรธน์ที่มีอยู่แล้วทั่วโลก ซึ่งทั้ง 2 ท่านจะเสริมทัพผู้บริหารระดับสูงที่ดูแลด้านอื่น ๆ อยู่แล้ว ได้แก่ นางอัมพร โชติรัชสกุล ซึ่งรับผิดชอบหน่วยงานสนับสนุนทั้งหมดของสยามพิวรรธน์ และทำ Digital Transformation นางกนกลดา ฤกษ์เกษม รับผิดชอบในเรื่องบริหารการเงินและการขยายการลงทุน และ นางอุสรา ยงปิยะกุล ที่รับผิดชอบในการดำเนินการและบริหารกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของบริษัทในเครือ รวมถึงการขายออนไลน์

เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปการบริหารจัดการในยุคที่ความเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สยามพิวรรธน์ได้จัด Agile Team คนรุ่นใหม่ และสร้างหน่วยงาน Think Tank เข้าทำงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูง ให้เป็นทีมงานที่จะรับผิดชอบหลากหลายโปรเจกต์ในการพัฒนาธุรกิจของบริษัท และทำงานร่วมกับบรรดาร้านค้า พันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างโมเดลในการขายใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมเป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้แสดงศักยภาพเต็มที่เพื่อช่วยขับเคลื่อนองค์กร และส่งผลให้รายได้เติบโตในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย

การจัดโครงสร้างใหม่ภายใต้การบริหารของกรรมการผู้จัดการใหญ่ทั้ง 5 ท่าน ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในวงการค้าปลีกจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจในเครือของสยามพิวรรธน์ทั้งหมดมีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน ส่วน Agile Team คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถหลากหลาย มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทีมนี้จะทำหน้าที่มองหาโอกาส และนำแนวความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ที่เกิดในโลกดิจิทัล มาช่วยพัฒนาและต่อยอดให้องค์กรสามารถมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่เหนือความคาดหมาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจากทั่วโลกได้อย่างเต็มที่ นางชฎาทิพ กล่าวปิดท้าย

สยามพิวรรธน์ ยังมีแผนที่จะปรับปรุง 3 ศูนย์การค้าในเครือ ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ในปี 2564-2565 ด้วยการปรับคอนเซ็ปต์การนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ผ่านช่องทางออมนิชาแนลทั่วทุกอาคาร เพื่อสร้างสุดยอดประสบการณ์ และทำให้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงประสบการณ์ต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา

สยามพิวรรธน์ก้าวข้ามการแข่งขันจากภายในประเทศสู่เวทีโลก จากการคว้ารางวัลชนะเลิศหลายสาขาของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกของโลกติดต่อกันหลายปี

จนได้รับการยอมรับจากพันธมิตรทางธุรกิจ องค์กรชั้นนำระดับสากล โครงการทั้งหมดของสยามพิวรรธน์สร้างความประทับใจให้แก่ผู้คนที่เดินทางมาจากทั่วโลกจนกลายเป็นจุดหมายปลายทางในสิบอันดับแรกที่มีคนมาเช็กอินบนเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมมากที่สุดแห่งหนึ่ง  

ในวันนี้สถานการณ์โควิด-19 มิใช่อุปสรรค แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนและขับเคลื่อนให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อขยายการขายและบริการครอบคลุมถึงลูกค้าปัจจุบันที่มีอยู่แล้วทั่วประเทศและทั่วโลก

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online