พิษโควิดทำให้ยักษ์ใหญ่ในวงการน้ำมันป่วยไปตาม ๆ กัน โดยในปี 2020 ExxonMobil ขาดทุนถึง 672,000 ล้านบาท และต้องพับแผนรวมกับ Chevron เพื่อเป็น Big Oil เบอร์สองของโลก
วิกฤตโรคระบาดทำให้ยักษ์อุตสาหกรรมน้ำมันสัญชาติอเมริกันต้องถอยมาตั้งหลักและพับแผนธุรกิจ โดยผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ปี 2020 ExxonMobil ขาดทุนมากถึง 22,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 672,000 ล้านบาท) และจำเป็นต้องระงับแผนควบรวมกิจการกับ Chevron ไปโดยปริยาย
ตลอดปี 2020 โลกเผชิญกับวิกฤตโควิดซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มต่อเนื่องจนน่าตกใจ ส่วนภาคธุรกิจก็ป่วยหนักเช่นกัน โดยค้าปลีก สายการบินและน้ำมัน เป็นสามธุรกิจใหญ่ที่อาการหนักสุด หลักฐานยืนยันถึงความรุนแรงของสถานการณ์คือตัวเลขขาดทุนมหาศาล การล้มละลาย และการปรับตัวครั้งใหญ่
ในส่วนของอุตสาหกรรมน้ำมันเจอกับปรากฏการณ์น้ำมันติดลบเป็นครั้งแรก เพราะคนทั่วโลกงดเดินทาง น้ำมันที่ขุดเจาะและกลั่นเรียบร้อยจึงไม่สามารถส่งออกไปได้ จนบริษัทน้ำมันเองต้องจ่ายเงินให้ลูกค้าน้ำมันออกไป ก่อนน้ำมันจะล้นคลังเก็บ
วิกฤตโควิดส่งผลต่ออุตสาหกรรมน้ำมันอย่างเป็นระบบ ท่ามกลางการประเมินว่ามูลค่าความเสียหายเฉพาะปี 2020 นั้นสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32.5 ล้านล้านบาท) บริษัทน้ำมันทุกแห่งในทุกประเทศจึงต้องปลดพนักงานจำนวนมากเพื่อความอยู่รอด
และหันไปเน้นธุรกิจนอกเหนือจากน้ำมัน (Non Oil) เช่น ร้านสะดวกซื้อในปั๊ม ไปพร้อมกับเพิ่มการลงทุนในพลังงานสะอาดหรือจุดชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า (EV)
ล่าสุด ExxonMobil ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ เผยว่าปี 2020 ขาดทุนจากวิกฤตโควิดมากถึง 22,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 672,000 ล้านบาท)
ท่ามกลางการประเมินว่าวิกฤตดังกล่าวยังทำให้ปีนี้มูลค่าแบรนด์ของ ExxonMobil ลดลงจาก 15,438 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 464,000 ล้านบาท) เมื่อปี 2020 ลงสู่ 13,434 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 403,000 ล้านบาท) ในปีนี้
ExxonMobil ใช้แนวทางเดียวกับบริษัทน้ำมันอื่น ๆ โดยประกาศปลดพนักงานไปแล้ว 14,000 คน และ 4 ปีจากนี้ทุ่มงบ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 90,000 ล้านบาท) พัฒนาในแหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำ
และ 3 ปีจากนี้ต้อง ‘รัดเข็มขัด’ ประหยัดงบให้ได้ปีละ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 180,000 ล้านบาท) จึงอาจมีพนักงานถูกเลิกจ้างเพิ่มอีก
Darren Woods – CEO ของ ExxonMobil ยอมรับว่า นี่เป็นวิกกฤตใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ช่วงแรก ๆ ของวิกฤตโควิด ExxonMobil ได้เริ่มเจรจาควบรวมกิจการกับ Chevron เพราะเชื่อว่าสถานการณ์ระบาดคงจะดีขึ้น โดยหากสำเร็จจะเกิดเป็นบริษัทน้ำมันอันดับ 2 ของโลก มูลค่าบริษัทสูงถึง 354,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10 ล้านล้านบาท) รองแค่เพียง Aramco ของซาอุดีอาระเบียเท่านั้น
ทว่าเหตุการณ์กลับตรงกันข้าม ทุกอย่างแย่ลงและเกิดปรากฏการณ์ราคาน้ำมันติดลบ ประกอบกับนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ที่นำโดยประธานาธิบดี Joe Biden หันมาให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด
ต่างจากการดำเนินนโยบายเอาใจอุตสาหกรรมน้ำมันของอดีตประธานาธิบดี Donald Trump เพราะเป็นแหล่งทุนใหญ่ แผนดังกล่าวจึงต้องระงับไปแบบไม่มีกำหนด
สำหรับ Exxon, Mobil และ Chevron เคยเป็นบริษัทในเครือ Standard Oil ของมหาเศรษฐี John D. Rockefeller ผู้ล่วงลับ แต่ปี 1911 รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งให้แยกจากกันเพื่อลดปัญหาการผูกขาด โดยปี 1999 สองบริษัทแรกกลับมารวมกัน และเกือบรวมเป็นสาม หากวิกฤตโควิดไม่ดับฝันดังกล่าวลงเสียก่อน / bbc, theguardian, wikipedia, branddirectory
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

