จากร้านหนังสือออนไลน์เล็ก ๆ ยุคอินเทอร์เน็ตตั้งไข่ ปัจจุบัน Amazon ขยายใหญ่จนเป็นจนเป็นยักษ์ E-commerce พร้อมธุรกิจในเครืออีกมากมาย รวมไปถึง Amazon Prime Video แพลตฟอร์ม Video Streaming ล่าสุดส่วนธุรกิจนี้ของ Amazon กำลังจะใหญ่ขึ้นอีก ด้วยการยื่นข้อเสนอก้อนใหญ่ซื้อกิจการ MGM ค่ายหนังเก่าแก่

แม้เป็นข่าวที่ยังไม่มีฝ่ายใดออกมายืนยัน แต่ก็ถูกจับตามองพอสมควร เพราะเป็นดีลถูกที่ถูกเวลา น่าจะ Win Win กันทั้งสองฝ่าย และเกิดขึ้นไล่เลี่ยกับอีกความเคลื่อนไหวสำคัญอีกด้วย

 

007 ได้ย้ายฐาน ยักษ์ช้อปออนไลน์ได้เสริมทัพครั้งใหญ่

4000 เรื่อง MGM

ต่อให้ไม่ใช่คอหนังหรือเซียนหนังสายลึกก็คงต้องเคยผ่านตากับโลโก้ สิงโตคำรามของ MGM มาบ้าง โดย MGM เป็นค่ายหนังอเมริกันเก่าแก่ก่อตั้งเมื่อปี 1927 หลัง Marcus Loew มหาเศรษฐีอเมริกันนำค่ายหนังสามค่ายคือ Metro Goldwyn และ Mayer มารวมกัน เพื่อทำธุรกิจภาพยนตร์และโรงภาพยนตร์หลังโลกพ้นยุคหนังเงียบ เข้าสู่ยุคหนังขาวดำ

3 บริษัท 97 ปี MGM Marcus Loew

บริษัทภาพยนตร์ภายใต้การบริหารของ Marcus Loew ไปได้สวย เพียง 2 ปีแรกก็มีหนังออกมากว่า 100 เรื่อง โดยในจำนวนนี้มีหนังที่ประสบความสำเร็จอย่าง Ben-Hur (ปี 1925) รวมอยู่ด้วย

หลัง Marcus Loew เสียชีวิตผู้บริหารของ 3 ค่ายหนังที่ถูกรวมเป็นหนึ่งและผู้ช่วยของเขาก็จับมือกันพา MGM รอดพ้นปัญหาและการเข้าซื้อกิจการของมหาเศรษฐีดัง ๆ มาได้หลายปี ซึ่งช่วยให้ MGM เป็นเวทีแจ้งเกิดให้นักแสดงยุคคลาสสิกดัง ๆ หลายคน Clark Gable, Jean Harlow และ Greta Gabo

ยุค 60 MGM มาถึงจุดเปลี่ยน โดยการมีหนังดัง ๆ ทั้งที่ทำเงิน คว้ารางวัล และกลายเป็นหนัง ‘ขึ้นหิ้ง’ เช่น The Dirty Dozen, Doctor Zhivago และ 2001 : Space Odyssey ออกมาทำให้สามารถขยายธุรกิจออกไปนอกอุตสาหกรรมภาพยนตร์

ซึ่งที่ทำเงินได้ลำดับต้น ๆ คือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จนเปิดทางให้ Edgar Bronfman Sr. ที่ร่ำรวยมาจากสุรา Seagram เข้ามาซื้อหุ้นและกลายเป็นเจ้าของอยู่ 3 ปี

ทว่า การที่ Edgar Bronfman Sr. ทุ่มลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ กลับส่งผลเสีย เพราะปลายยุค 60 ธุรกิจนี้ในสหรัฐฯ ประสบปัญหา

Kirk MGM Kirk Kerkorian

จนเงินจากหนังไหลออกไปเกือบหมดและฉุดหุ้นบริษัทตกตามวิกฤตอสังหาฯ ไปด้วย เปิดทางให้ Kirk Kerkorian มหาเศรษฐีที่สร้างตัวจากกาสิโนเข้าซื้อกิจการในปี 1969 โดยเขาถือหุ้น MGM อยู่อีกหลายปี

ฐานทัพ 007 MGM

จากนั้น MGM ก็เผชิญขาขึ้น-ขาลงทางธุรกิจอีกหลายครั้ง ตกอยู่ในมือมหาเศรษฐีอีกหลายคน รวมถึง Ted Turner ผู้ก่อตั้ง CNN ด้วย ทว่าคอหนังก็ยังจดจำได้ในฐานะบ้านของหนังภาคต่อดัง ๆ หลายเรื่อง เช่น OO7, Rocky และ Mad Max

ซีรี่ยส์ธุรกิจ MGM

ปี 2010 ก็เผชิญปัญหาใหญ่ หนี้ท่วมจนล้มละลายและต้องปรับโครงสร้าง โดยในปี 2020 MGM เจอวิกฤตใหญ่ในวงการภาพยนตร์เช่นเดียวกับบริษัทอื่น ๆ หลังโรงหนังทั่วโลกปิดจากวิกฤตโควิด

ท่ามกลางรายงานว่าผู้บริหารได้ทาบทามบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งในกลุ่มเทคโนโลยีและ Streaming Media เช่น Apple และ Netflix ให้เข้ามาซื้อกิจการ แต่ดีลก็ไม่มีความคืบหน้า เพราะต่างก็เห็นว่าราคา 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 314,430 ล้านบาท) แพงเกินไปและมี Content ในมืออยู่พอสมควรแล้ว

แต่ก็มีการคาดกันว่าที่สุดแล้ว MGM คงตกเป็นของ 6 บริษัทยักษ์ใหญ่ ปัจจุบันในสหรัฐฯ (Big 6) ที่ต่างก็มีสื่ออยู่ในมือ อันประกอบไปด้วย Apple, Netflix, Disney, AT&T, Comcast และ Amazon

MGM

ล่าสุด 1 ใน 6 บริษัทใหญ่เหล่านี้ให้ความสนใจอยากได้ MGM เข้าไปอยู่ใต้ชายคา โดยมีรายงานว่า Amazon ยื่นข้อเสนอ 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 280,000 ล้านบาท) ซื้อกิจการ Amazon พร้อมปัจจัยแวดล้อมที่คาดว่าดีลนี้อาจเดินหน้า

เช่น ตั้งตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจสื่อและบันเทิงขึ้นมาใหม่โดยให้ Jeff Blackburn อดีตผู้บริหารครองตำแหน่งนี้

280000 ล้าน MGM

ตามด้วยการทุ่มไม่อั้นของ Amazon เพื่อผลักดัน Amazon Prime Video หลังจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น และรายงานก่อนหน้านี้ที่ว่า กล้าทุ่มทุนสร้าง Lord of the Rings ในรูปแบบ Series ซีซั่นแรกสูงถึง 465 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14,600 ล้านบาท) 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวชี้ว่า Amazon มั่นใจอนาคตของ Amazon Prime Video และเชื่อว่าหนังกว่า 4,000 เรื่อง รายการโทรทัศน์และ Streaming ที่กินเวลากว่า 17,000 ชั่วโมงในคลังของ MGM นั้นคุ้มค่าลงทุนในยุคที่การแข่งขันในตลาด Video Streaming รุนแรง

Streaming MGM

ขณะเดียวกันยังเป็นการต่อยอดเงินจากยอดขาย E-commerce ที่โตพรวดช่วงล็อกดาวน์ได้อีกด้วย

ในส่วนของ MGM หากได้เข้าไปอยู่ใต้ชายคา Amazon จะทำให้รอดแบบหมดห่วงในยุคที่ค่ายหนังต้องพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีหรือ Streaming

ขณะที่บริษัทสื่อก็ต้องรวมตัวกันเพื่อรุกตลาด Streaming เช่นกัน โดยพิจารณาจาก Content ที่แต่ละฝ่ายมีเป็นสำคัญ เหมือนที่ในเวลาไล่เลี่ยกับข่าว Amazon เปิดดีลซื้อกิจการ MGM มีอีกความเคลื่อนไหวสำคัญในวงการสื่อและตลาด Video Streaming เกิดขึ้น

AT&T แยก WarnerMedia ที่ซื้อมาเมื่อปี 2018 ออกเป็นบริษัทใหม่แล้วนำไปรวมกับ Discovery Inc. ช่องสารคดีดัง  เกิดเป็นบริษัทใหม่ที่มี Content หลากหลาย ตั้งแต่ข่าว (CNN) กีฬา (Turner Sport และ Euro Sport) ซีรีส์ (HBO)

Merge MGM

ภาพยนตร์ (Warner Studio) รายการวาไรตี้ (Oprah Winfrey Network) และแน่นอนสารคดีจาก Discovery ด้วย  

บริษัทสื่อเกิดใหม่แห่งนี้ยังมีชื่อ David Zaslav – CEO ของ Discovery เป็นผู้บริหาร และ AT&T ถือหุ้นส่วนใหญ่ โดยทางธุรกิจจะสามารถลดระยะห่างจาก 3 เบอร์ใหญ่ในตลาด Video Streaming อย่าง Netflix, Disney Plus 

Discovery mgm David Zaslav

และ Amazon Prime Video ได้ขณะเดียวกันยังเป็นการลดภาระการบริหารและภาระหนี้ได้อีกด้วย/cnn, theguardian, therverge, variety, wikipedia, cnbc

MGM info



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online