ตลาดนมพร้อมดื่ม มูลค่าเท่าไร และคนไทยดื่มนมกี่ลิตรต่อคนต่อปี (วิเคราะห์)
ตลาดนมพร้อมดื่มที่เติบโตชะลอตัวลง
มาจากหลากหลายปัจจัยทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 กำลังซื้อผู้บริโภค รวมทั้งมีเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ ในตลาดที่มีความหลากหลาย
รวมถึงทิศทางของการดื่มนมของคนไทยที่ลดน้อยลง จากความเชื่อผิด ๆ ว่า ดื่มนมทำให้อ้วน แม้เทรนด์สุขภาพจะมาแรง ผู้คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้นก็ตาม
ปัจจุบันคนไทยยังมีอัตราการดื่มนมในปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
เพราะเฉลี่ยเพียงคนละประมาณ 18 ลิตรต่อคนต่อปี หรือเพียงสัปดาห์ละ 2 แก้วเท่านั้น
ขณะที่ค่าเฉลี่ยคนทั่วโลกอยู่ที่ 113 ลิตรต่อคนต่อปี
ค่าเฉลี่ยทวีปเอเชียอยู่ที่ 66 ลิตรต่อคนต่อปี

ส่วนตลาดนมพร้อมดื่มรวมในไทยมีมูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ที่เอาเข้าจริงแล้วยังมีแนวโน้มการเติบโตอีก
แล้วการเติบโตของ ตลาดนมพร้อมดื่ม มาจากอะไร เรามองว่า
ความหลากหลายของรสชาติที่มีออกมาใหม่ ๆ แม้หลัก ๆ นมพร้อมดื่มในตลาดส่วนใหญ่คือนมจืดทั่วไป แต่เกมการตลาดที่ช่วยปลุกสีสันของตลาดนมพร้อมดื่มคือ การออกรสชาติใหม่ ๆ นั่นเอง
ลองไปสำรวจเชลฟ์ในร้านสะดวกซื้อเราจึงเห็นนมรสพีช รสกล้วย รสวนิลา รสเมลอน รสบัวลอยเผือก ฯลฯ วางขายอยู่
เทรนด์สุขภาพที่เติบโตขึ้น ทำให้ทั้งแบรนด์เล็ก แบรนด์ออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนมอัลมอนด์ ที่เป็นเทรนด์มาแรงเมื่อหลายปีก่อน
หรือนมแลคโตสฟรี สำหรับผู้ที่ร่างกายไม่ย่อยน้ำตาลแลคโตส ที่มีจำนวนไม่น้อย และยังสามารถดึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ไม่ชอบดื่มนมหันมาลองดื่มนมอีกด้วย
ทำให้เซกเมนต์นมแลคโตสฟรี เป็นอีกเซกเมนต์ที่น่าจับตาไม่น้อย

แน่นอนว่าการเลือกซื้อนมแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งนั้นนอกจากจะพิจารณาจากคุณประโยชน์ต่อกล่องแล้ว ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ก็มีไม่น้อย เพราะผู้คนส่วนใหญ่มักเลือกซื้อนมในแบรนด์ที่คุ้นชิน
เรื่องของช่องทางการจัดจำหน่ายที่ตอนนี้ไม่ได้มีวางขายแค่ในร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต แบบเดิม ๆ อีกต่อไป แบรนด์รุกเข้าไปหาผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งมีช่องทางจำหน่ายออนไลน์ผ่านอีมาร์เก็ตเพลสต่าง ๆ การทำเดลิเวอรี่ รวมทั้งการออกไปเดินสายตั้งบูธตามชุมชน
รวมถึงการทำการตลาดด้วยการทำแคมเปญโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่เรามักเห็นบ่อย ๆ ตามซูเปอร์มาร์เก็ต แบรนด์เหล่านี้เลือกทำโปรโมชั่นซื้อนมแถมสิ่งของไม่ว่าจะเป็นแก้ว จาน ชาม ฯลฯ เพื่อทำให้ผู้คนซื้อนมมากขึ้นนั่นเอง
I-
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
