อายุ 50 ไม่ใช่ป้า แต่คือผู้มีพลังการจับจ่ายที่นักการตลาดควรมอง
ทำไมใคร ๆ ชอบมองวัย 50 ปี ขึ้นไป คือป้า-ลุง ที่อยู่บ้านเลี้ยงหลาน แบบเหงา ๆ ไม่ก็มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่แปลก ๆ จนทำให้หลายคนต้องปวดหัว
แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะส่วนใหญ่ของผู้ใหญ่วัย 50 ปีขึ้นไป คือมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่มีแรงสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก และประเทศไทย
ในฐานะกลุ่มผู้ที่มีพลังเงินที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และมีความสุขในการใช้ชีวิตจากเงินและสิ่งที่เขาสร้างมาในอดีต และไม่มีความกังวลที่จะต้องมานั่งหางาน หาเงิน และหาเพื่อน
เพราะพวกเขามีครบหมดแล้ว
คนกลุ่ม 50 ปีขึ้นไปกลุ่มนี้ นักการตลาดบางคนเรียกว่า Silver Gen ซึ่งถือเป็น Gen แรกที่คิดต่างจาก Gen รุ่นก่อน ๆ ที่ทำงานเก็บเงินเพื่อให้ลูกหลานมีกินมีใช้ในอนาคตจนไม่กล้าใช้เงินเพื่อความสุขให้กับตัวเอง
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าประชากรไทยอายุ 50 ปีขึ้นไป มีจำนวนถึง 21 ล้านคนในปีที่ผ่านมาหรือ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ 66 ล้านคน
และจำนวนของประชากรเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี จากการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย และมีสุขภาพที่ดีและยืนยาวขึ้นจากวิทยาการทางการแพทย์ที่เปลี่ยนไป
ทำให้คนกลุ่ม อายุ 50 มีความสำคัญกับนักการตลาดยิ่งขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตามมา
เมื่อ Silver Gen 50 ขึ้นไป ที่เรากล่าวมา เป็น Gen ที่มี Potential สูง และมีอำนาจในการจับจ่าย แต่กลับกลายเป็นกลุ่มที่นักการตลาดไทยส่วนใหญ่จะ Ignore พวกเขา หรือสื่อสารถึงพวกเขาที่อาจจะไม่โดนใจคนกลุ่มนี้เท่าไรนัก ส่วนหนึ่งเพราะอาจจะไม่รู้จักพวกเขาดีพอ
วันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย ได้เผยผลวิจัย Forgotten Shopper 2021 ของประเทศไทย โดยผลวิจัยนี้ได้เผยถึงพฤติกรรม ความคิด ทัศนคติ ของชาว Silver Gen เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคชาว 50 ปีขึ้นไป ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
สื่อสารถึง Silver Gen ไม่ใช่คุณป้าเหงา ๆ คอยโทรศัพท์จากลูก
ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับ Silver Gen ให้ลงลึก เรามาดูกันสักหน่อยว่าชาว 50 ปีขึ้นไปเขามองตัวเองอย่างไร
วันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย ให้ข้อมูลจากผลวิจัย Forgotten Shopper 2021 ของประเทศไทย กับเราว่า
สำหรับชาว Silver Gen แล้ว แม้ในวันนี้จะมีอายุล่วงเลยวัยเลข 50 ปี แต่พวกเขายังคงต้องการใช้ชีวิตกับสิ่งที่สร้างมา
และหัวใจของพวกเขายังคงมีไฟที่จะลุกขึ้นทำสิ่งต่าง ๆ ตามใจต้องการ เนื่องจากพวกเขามีทั้งเวลา เงิน และอิสระที่จะเข้าสังคมได้มากกว่ารุ่น Gen ต่อจากพวกเขาที่จะต้องทำงาน หาเงิน และอื่น ๆ
สำหรับโอกาสทางการตลาดชาว Silver Gen ให้ความสนใจสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่เติมเต็มชีวิตของพวกเขา ที่ให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้
นอกจากนี้ Silver Gen ยังไม่ใช่พวกที่อยู่กับบ้านเหงา ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในโลกเดิม ๆ ของตัวเอง เพราะพวกเขายังชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น
จากทัศนคติที่ Silver Gen มองตัวเอง เป็นหนึ่งในแนวทางที่ทำให้นักการตลาดที่คิดจะเข้ามาสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ได้ว่า การสื่อสารถึงพวกเขาไม่ใช่สื่อสารผ่านภาพลักษณ์คนสูงวัยเหงา ๆ แต่ควรสื่อสารถึงการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยไม่กังวลเรื่องลูก ครอบครัวและเรื่องงาน
และนอกจากนี้ ยังสามารถพัฒนาสินค้าและบริการต่าง ๆ เพื่อเติมเต็มให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้เช่นกัน
Silver Gen คือธนาคารของครอบครัว
แม้ลูกของคนอายุวัย 50 ปีขึ้นไป กลุ่มหนึ่งจะเติบโตมีงานทำแล้ว แต่บทบาทของ Silver Gen ในครอบครัวก็ยังเป็นผู้ Support ทุกสิ่งทุกอย่างในครอบครัว ทั้งการเลี้ยงดูครอบครัว เลี้ยงหลาน และเป็นผู้ใช้จ่ายซื้อของชิ้นใหญ่ที่มีราคาสูงให้กับครอบครัว
ผลวิจัยของวันเดอร์แมน ธอมสัน พบว่า
75% ยังดูแลสมาชิกในครอบครัว และภาระค่าใช้จ่ายในบ้าน
44% ยังช่วยเหลือในเรื่องการเงิน และยังมีส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ
สำหรับรายได้ของ Silver Gen ในบทวิจัยของวันเดอร์แมน ทอมสัน พบว่า 50% ของประชากรวัย 50 ปีขึ้นไป มีรายได้เฉลี่ย 14,600 บาท
แบ่งเป็น
24% รายได้ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน
37% รายได้ 10,001 – 20,000 บาทต่อเดือน
12% รายได้ 20,001 – 25,000 บาทต่อเดือน
6% รายได้ 25,001 – 30,000 บาทต่อเดือน
6% รายได้ 30,001 – 35,000 บาทต่อเดือน
8% รายได้ 35,001 – 40,000 บาทต่อเดือน
2% รายได้ 40,001 – 45,000 บาทต่อเดือน
3% รายได้ 45,001 – 50,000 บาทต่อเดือน
2% รายได้ 50,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน
และพวกเขาไม่หวังที่จะพึ่งเงินจากลูก ๆ ที่ทำงานแล้ว
รวมถึง 33% ยังช่วยลูกออกค่าเล่าเรียนให้กับหลาน
นอกจากนี้ Silver Gen ยังเป็นธนาคารของครอบครัว เพราะสูงวัยกลุ่มนี้นอกจากจะช่วยดูแลภาระในบ้าน ซื้อของใช้ประจำวันเข้าบ้าน พวกเขายังมีส่วนร่วมในการช่วยตัดสินใจในการซื้อสินค้ามูลค่าสูง เช่น รถยนต์ บ้าน ให้กับลูกแล้ว พวกเขายังเป็นผู้ช่วยออกเงินให้กับลูก ๆ ในการดาวน์บ้าน และอื่น ๆ ที่มีมูลค่าสูงให้กับลูก ๆ เช่นกัน
และยังเป็นผู้ Support ด้านการเงินในกรณีฉุกเฉินให้กับลูกอีกด้วย
Silver Gen ผู้ที่มีโลก 2 ใบทางสังคม
เมื่อพูดถึงสังคมของชาว Silver Gen พวกเขามีสังคมอยู่ 2 โลกคือ สังคมกับครอบครัว และสังคมกับเพื่อน
ผลสำรวจพบว่า 50% ของ Silver Gen ต้องการออกไปใช้ชีวิตทางสังคมนอกบ้าน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
16% ต้องการออกไปใช้ชีวิตทางสังคมนอกบ้าน 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
17% ต้องการออกไปใช้ชีวิตทางสังคมนอกบ้าน 5 ครั้งต่อสัปดาห์
และ 17% น้อยกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์
ชีวิตด้านสังคมกับเพื่อน พวกเขายังคงต้องการเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ เช่น คาเฟ่สวย ๆ แต่ในใจลึก ๆ ก็กลัวที่จะไปรบกวนคนรุ่นใหม่
รวมถึงต้องการแต่งตัวให้ทันสมัย แต่กลับมี Pain point คือไม่มีแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าที่ทันสมัยที่ออกแบบมาสำหรับพวกเขามากนัก
สำหรับการท่องเที่ยวชาว Silver Gen นิยมซื้อแพ็กเกจทัวร์เพื่อการท่องเที่ยวเพื่อเที่ยวกับเพื่อนและครอบครัว โดยพวกเขาชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศและการเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชีย
Silver Gen วิตามินคือสุขภาพ อยากสวยสมวัย และแข็งแรง
คนอายุ 50 ปี มีความคิดว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการดูเหมือนเด็ก แต่ต้องการเป็นคนสูงวัยอย่างกระฉับกระเฉงหรือ Active Ageing เพราะการมีอายุที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้ทำให้การใช้ชีวิตลดน้อยลง
แต่การเป็นคนสูงวัยที่กระฉับกระเฉงของพวกเขา เป็นการให้ความใส่ใจกับสุขภาพร่างกายมากกว่าจิตใจ
กีฬาที่พวกเขานิยมออกกำลังกาย ไม่ใช่รำไท้เก๊ก แต่
61.9% ของ Silver Gen ชอบเดิน หรือ วิ่งจ๊อกกิ้ง มากที่สุด
9.5% ปั่นจักรยาน
9.1% เล่นโยคะ
6.7% เข้ายิม
5.2% แอโรบิก
เมื่ออายุมากขึ้นโรคที่พวกเขากลัวมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่
หัวใจ 28.8%
เบาหวาน 22.3%
มะเร็ง 18.1%
แต่เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจสำหรับครอบครัวที่มีคนอายุ 50 ปีขึ้นไปคือ มีเพียง 60% เท่านั้นที่ตรวจสุขภาพปีละครั้ง หรือรู้สึกไม่สบายเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่าคนสูงวัย 50 ปีขึ้นไปจะไม่ดูแลสุขภาพตัวเอง เพราะ 57% ของ Silver Gen นิยมรับประทานวิตามินเป็นประจำทุกวัน ด้วยเหตุผลคือ
เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน 28.8%
เพื่อสุขภาพกระดูกที่ดี 16.2%
เพื่อชะลอวัย 11.3%
เพื่อระบบสมองและประสาท 11.3%
ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ 9.9%
เพราะพวกเขามองว่าการป้องกันคือปัจจัยหลักที่สำคัญให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตในวัย Silver Gen ได้อย่างเต็มที่
Silver Gen ทำจิตใจให้สงบได้ด้วยการเข้าวัด
แม้ Silver Gen จะปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันต่อยุคสมัยแค่ไหนแต่สิ่งที่ทำให้จิตใจพวกเขาสงบคือการเข้าวัด
จากผลวิจัยพบว่า Silver Gen 27.2% มองว่าการเข้าวัดคือการทำให้จิตใจสงบ
19.2% ทำสวน จัดสวน
13.5% อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ
13.2% สวดมนต์
11.2% ทำสมาธิ
Silver Gen มองการเกษียณไม่มีอยู่จริง
ชาว Silver Gen มองการเกษียณไม่มีอยู่จริง เพราะการมีอายุจนเกษียณจากการทำงาน ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของพวกเขาหรือสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่จะเปลี่ยนแปลงไปในทันที
เพราะค่านิยม ความเชื่อ ทัศนคติ การรับรู้ และการให้ของพวกเขายังคงอยู่เหมือนเดิม
ชาว Silver Gen 71% มองว่าพวกเขายังต้องมีชีวิตอยู่เพื่อทำงานและทำงานเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป และไม่ต้องการหรือมีการวางแผนเกษียณ
ส่วนหนึ่งเพราะบางคนไม่สามารถเกษียณได้เนื่องจากมีพันธะทางการเงินและยังจำเป็นต้องจุนเจือครอบครัว
นอกจากนี้ Silver Gen ยังรู้สึกค่อนข้างมั่นใจกับอนาคตของตนเองแม้ว่าจะไม่มีแผนการลงทุน เพราะพวกเขาเชื่อว่าตนเองยังมีเวลาทำงานต่อไปอีกมากเพื่อเดินหน้าสร้างสิ่งที่ได้เริ่มเอาไว้แล้วและสร้างรายได้ต่อไปในอนาคต
เมื่อพูดถึงการลงทุนแล้ว ชาว Silver Gen มากถึง 62% ไม่มีการลงทุนในสินทรัพย์ด้านต่าง ๆ
แต่ก็มีมากถึง 15% ที่ลงทุนสินทรัพย์ 1 อย่าง
16% ลงทุนสินทรัพย์ 2 อย่าง
7% ลงทุนสินทรัพย์ 2 อย่างขึ้นไป
สำหรับสินทรัพย์ที่ Silver Gen วางแผนการลงทุน คือ ทอง 18%
อสังหาฯ 13%
ตราสารหนี้ 9%
กองทุนบำเหน็จบำนาญ 6%
คริปโต 3%
หุ้น 2%
Silver Gen ออนไลน์มีไว้สื่อสาร
แม้ Silver Gen จะอยู่ในโลกของเทคโนโลยีและออนไลน์มากแค่ไหนก็ตาม แต่พวกเขายังมองว่าสื่อออนไลน์และโซเชียลเป็นเพียงเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร แต่ยังคงหาความบันเทิงจากการดูทีวีเป็นหลัก
จากผลสำรวจพบว่า คนที่ อายุ 50 ปีขึ้นไป ใช้เทคโนโลยีและอยู่บนโลกออนไลน์ เพื่อการติดต่อสื่อสารกับเพื่อน 31%
ติดตามข่าวสาร 25%
อัปเดตข้อมูลในเรื่องที่สนใจ 15%
อ่านคอนเทนต์ออนไลน์ 9%
ช้อปปิ้งออนไลน์ 8%
สั่งสินค้าหรือบริการผ่านออนไลน์ 3%
กำหนดเวลาในการทำงานต่างๆ 3%
เล่นเกม 2%
จ่ายบิล ใบแจ้งค่าใช้บริการต่าง ๆ 2%
อย่างไรก็ดี แม้ Silver Gen จะเริ่มเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ช้ากว่าคนรุ่นอื่น ๆ แต่การใช้งานด้านเทคโนโลยีกำลังเพิ่มมากขึ้น และกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่คนกลุ่ม Silver Gen ไม่หวังพึ่งพาสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียอย่างคนรุ่นอายุน้อยกว่า พวกเขาเห็นโซเชียลมีเดียเป็นแหล่งความบันเทิง ไม่ใช่พื้นที่ในการไต่เต้าสถานะทางสังคม
ยิ่งอายุมากขึ้น ชาว Silver Gen วัย 50 ปีขึ้นไปก็จะยิ่งใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียน้อยลง การศึกษาครั้งนี้ยังพบว่าผู้บริโภคอายุ 45 – 60 ปีมีการเปิดรับและผสมผสานการใช้งานโซเชียลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์มเป็นอย่างมาก แต่ผู้บริโภคอายุ 61 ปีขึ้นไปจะใช้Facebook เป็นแพลตฟอร์มหลัก
ส่วน KOL ในโซเชียลมีเดียคน Silver Gen จะไม่ได้เชื่อ KOL ที่มีอายุเท่ากัน แต่เชื่อใน KOL ที่มีปัญหาเหมือนกับพวกเขา
การที่แบรนด์จะนำเทคโนโลยีเข้าถึงกลุ่ม Silver Gen แบรนด์ควรให้ความสำคัญกับ UX ที่เหมาะสมกับพวกเขา ที่ง่ายในการใช้งานมากที่สุด เพราะพวกเขาไม่มีความอดทนที่มากพอในการลองใช้
และเมื่อพัฒนาฟังก์ชันบางอย่างที่เจาะกลุ่ม Silver Gen อาจจะให้พวกเขาเหล่านี้ทดลองใช้เวอร์ชั่นก่อนให้บริการจริงเพราะถ้าเปิดให้ใช้จริงพวกเขาใช้แล้วไม่ชอบหรือไม่เหมาะสมกับการใช้งาน โอกาสที่จะใช้ต่อไปจะมีไม่มากนัก
I-
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



