ความสวยงามใต้ท้องทะเลและความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทยนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามและยากจะหาสิ่งใดมาเปรียบ นอกจากความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติจากภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบโดยตรงสู่ท้องทะเลแล้ว ปัจจัยหลักที่ทำลายธรรมชาติคงหนีไม่พ้นฝีมือของมนุษย์ ที่ยิ่งทำให้เกิดมลภาวะที่เปลี่ยนแปลงให้กับธรรมชาติ
หลายต่อหลายครั้งที่เรามักจะหลงลืม และเผลอทำร้ายธรรมชาติโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งจากชุมชนหรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยว ทำให้ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายหน่วยงานที่เดินหน้าในการทำโครงการอนุรักษ์เพื่อปลูกจิตสำนึกและคืนความสวยงามให้กับท้องทะเลอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับ Seiko ของเราที่เป็นหนึ่งในองค์กรที่ได้ก้าวออกมาจัดทำโครงการเล็ก ๆ ด้วยจุดประสงค์ที่จะฟื้นฟูท้องทะเลไทย โดยมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว ภายใต้ชื่อโครงการ Seiko “Save The Ocean” เพื่อทำกิจกรรมคืนความสวยงามสู่ท้องทะเลจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่ความจริงจังและวิธีการที่เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
ในปี 2022 นี้ Seiko “Save The Ocean” ก็นับเป็นปีที่ 5 อย่างเป็นทางการที่ได้ร่วมสนับสนุนและฟื้นฟูรวมถึงอนุรักษ์ท้องทะเลไทย โดยนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายนาฬิกา Seiko Prospex มาจัดทำโครงการดี ๆ เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ท้องทะเลไทยในทุก ๆ ปี โดยโครงการ “Save The Ocean” ได้จัดทำมาแล้วอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้แล้วถึงสี่ครั้งทั้งในแถบ หมู่เกาะราชา จังหวัดภูเก็ต, เกาะกระดาน จังหวัดตรัง และ บริเวณอ่าวท่าเลน จังหวัดกระบี่
โดยในปี 2022 นี้ ไซโก รวมถึงคณะสื่อมวลชน เหล่าคนรักนาฬิกาไซโก และ พาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ ได้กลับมาทำโครงการบ้านปลาเพื่ออนุบาลสัตว์ทะเล ให้กับชุมชนชาวแหลมตุ๊กแก ที่บริเวณอ่าวซันไรส์ ร่วมกับชาวบ้าน และยังจัดทำแนวปะการังเทียมระยะทางกว่า 10 เมตร เพื่อนำไปหย่อนลงบริเวณอ่าวเปลว ในแถบหมู่เกาะพีพี เพื่อหวังให้เกิดเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลรวมถึงเป็นที่ยึดเกาะของปะการังจริงเพื่อสร้างความสมดุลให้กับท้องทะเลในระยะยาว โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรอย่าง บริษัท SCG จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมสนับสนุนปะการังเทียมที่ผลิตจากนวัตกรรมใหม่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลเพิ่มเติมให้กับโครงการ รวมถึงยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยาน หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อีกด้วย
ชุมชนชาวแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต
ชุมชนชาวแหลมตุ๊กแก แถบหมู่เกาะสิเหร่ เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่มีอาชีพประมงเป็นหลัก โดยไซโกได้ร่วมสนับสนุนชุมชนในการสร้างบ้านปลา เพื่ออนุบาลสัตว์น้ำขนาดเล็กในบริเวณอ่าวซันไรส์ที่ชาวบ้านใช้เป็นแหล่งจับสัตว์น้ำเพื่อประกอบอาชีพ จำนวนกว่า 10 หลัง เพื่อเพิ่มจำนวนสัตว์น้ำและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนในการสร้างอาชีพ โดยมีชาวบ้านและคณะมาร่วมแสดงศิลปะพื้นเมืองของภาคใต้อย่าง “รองเง็ง” ในวันแถลงข่าวและร่วมกันทำบ้านปลาอีกด้วย
เกาะพีพี, จังหวัดภูเก็ต
จังหวัดภูเก็ตขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติทางทะเลที่สมบูรณ์ของประเทศไทย และมีเกาะมากมายที่สวยงามระดับโลก รวมถึงหมู่เกาะพีพีที่ความสวยงามของสถานที่นั้นนอกจากจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกคงหนีไม่พ้นมลพิษทางทะเลทั้งขยะและการทำลายแนวปะการังจากเรือท่องเที่ยวรวมถึงนักดำน้ำ โดยครั้งนี้ ไซโก ได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ ธารา หมู่เกาะพีพี ในการเสริมสร้างแนวปะการังเทียมเพิ่มเติม เพื่อฟื้นฟูปะการังเดิมที่ถูกทำลายไป และเพื่อเปลี่ยนแปลงธรรมชาติให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง นำทีมโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ นาฬิกาไซโก, มิสเตอร์ฮิโรยูคิ อะกาชิ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไซโก (ประเทศไทย) พร้อมด้วยเจ้าที่และผู้บริหาร คุณวิเชษฐ์ ชูเชื้อ กรรมการผู้จัดการบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ทุ่งสง) และ สื่อมวลชนหลากหลายแขนง ที่ร่วมสำรวจพื้นที่ สร้างและปล่อยปะการังเทียมลงสู่ท้องทะเล โดยปะการังเทียมทั้งหมดนี้ถูกผลิตขึ้นจากซีเมนต์พิเศษขึ้นรูปโดยการใช้เทคโนโลยี 3D Printing
ปะการังเทียม 3D Printing
ปะการังเทียมที่ใช้ในการปล่อยลงสู่ทะเลในครั้งนี้ มีแบบสวยงามเสมือนปะการังจริงกลมกลืนกับธรรมชาติ โดยวัสดุที่ใช้ผลิตจากปูนนั้นเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล โดยมี calcium carbonate (แคลเซียม คอร์บอเนต) ที่เป็นอาหารสำหรับตัวอ่อนปะการังใช้ดักจับจากน้ำทะเลในธรรมชาติเพื่อเอามาสร้างเป็นที่อยู่อาศัยของตนเองอยู่แล้ว โดยทาง SCG พัฒนาแบบพื้นผิวให้เหมาะสมกับการยึดเกาะตัวอ่อนปะการังและดีไซน์ให้โครงสร้างมีความซับซ้อนเพื่อให้เหมาะให้สิ่งมีชีวิตเข้าไปอยู่อาศัยและช่วยฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลได้อย่างยั่งยืนและยาวนานกว่า
บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ Seiko “Save The Ocean” จะเป็นโครงการเล็ก ๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์และการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนให้กับชุมชนและท้องทะเลต่อไป
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

