ถือเป็นปีที่ซบเซาเลยทีเดียวสำหรับตลาดทีวีในบ้านเรา โดยมีการคาดการณ์ไว้ว่าปี 2558 ตลาดทีวีโดยรวมจะหดตัวลงในแง่ของมูลค่า 6% และในแง่ของจำนวนเครื่องหดตัวลง 7% ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ผู้บริโภคจึงชะลดตัวที่จะจับจ่ายใช้สอย แม้จะมีปัจจัยเสริมจาก “Digital TV” แต่ก็เสริมได้เพียงครึ่งปีแรกเท่านั้น ดังนั้นในปี 2559 จึงกลายมาเป็นความหวังอีกครั้งหนึ่งของตลาดทีวีจากการมาถึงของ “ฟุตบอลยูโร”


มีการประเมินไว้ว่าในปี 2559 ตลาดทีวีในแง่ของมูลค่าจะเติบโตขึ้น 5% แต่ในแง่ของจำนวนเครื่องคงเดิม ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยหลัก 2 ข้อ คือ
1. การมาถึงของ “ฟุตบอลยูโร” ในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง เดือนกรกฎาคม ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดทีวีมีการเติบโตขึ้น 10% เฉพาะในช่วงเดือนเมษายน – เดือนกรกฎาคม โดยแบรนด์ต่างๆจะต้องทุ่มโปรโมชั่นในช่วงนี้กันอย่างแน่นอน
2. การลงทุนของภาครัฐ ที่ส่งผลดีต่อตลาดทีวี ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 4 ปี 2558 ไปถึงช่วงไตรมาส 2 ปี 2559 โดยเฉพาะทีวีไซส์เล็ก ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังจะต้องมีการประเมินอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีปัจจัยใดส่งผลต่อตลาดทีวีอีกหรือไม่

Segment Premium หรือ ทีวีที่มีราคาตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปถือเป็น Segment ที่มีอัตราเติบโต 10% ในปีนี้ เนื่องจาก ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีกำลังซื้ออยู่แล้ว ดังนั้นปัจจัยด้านราคาหรือเศรษฐกิจไม่มีผลกับกลุ่มนี้ อีกอย่างทุกแบรนด์ต่างมีโปรดักส์ใน Segment Premium จึงทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการซื้อสินค้า แต่ Segment ที่มีราคาต่ำกว่า 50,000 บาทกลับหดตัวลงถึง 8-9% ในปีนี้ ซึ่งปัจจัยหลักยังคงมาจากสภาพเศรษฐกิจและราคาพืชผลในต่างจังหวัดที่ตกต่ำลง กำลังซื้อจึงหายไป
สำหรับปัจจัยการแข่งขันในปีหน้า Segment ที่มีราคาต่ำกว่า 50,000 บาท หลักๆยังคงแข่งขันที่ราคา ส่วน Segment Premium ยังคงแข่งขันในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆที่เกิดขึ้น
โดยปัจจุบันคนไทยมีอัตราเฉลี่ยในการเปลี่ยนเครื่องของทีวีอยู่ที่ 4-5 ปี



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน