เปลี่ยน Mindset เพื่อความสำเร็จและความสุข (เทคนิคการพัฒนาตนเอง)
หาวิธีเพิ่มพลังในตัวเรา เพื่อปัดเป่าความคิดร้าย ๆ ในวันที่พื้นที่การทำงาน และ ชีวิตส่วนตัวปนกันไปหมด การมองโลกในแง่บวกช่วยให้เราไปถึงเป้าหมาย และจัดเส้นแบ่งระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัวที่ดีขึ้น Mental Health Awareness Month ให้ข้อคิดดี ๆ ดังนี้
หาวิธีไปสู่เป้าหมายในแบบใหม่ ๆ
จากงานวิจัยพบว่าเราต้องใช้เวลากว่า 2 เดือนในการสร้างนิสัยใหม่ ๆ 2 เดือนฟังแล้วอาจจะดูยาวนาน แต่เรามีกลเม็ดเล็ก ๆ ที่จะช่วยให้คุณทำได้
ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ วันละนิด ดีกว่าตั้งเป้าหมายใหญ่ ๆ แล้วทำไม่ได้ จากงานวิจัยพบว่าคนเรามักตั้งเป้าหมายใหญ่เกินตัว แน่นอนว่าเป้าหมายใหญ่ ๆ ต้องใช้พลัง และเวลามากกว่าที่จะไปถึงจุดหมาย
พอเราทำไม่ได้ก็เลิกล้มความตั้งใจไปก่อน ผ่อน ๆ ให้ตัวเองบ้างก็ได้ (อย่าลืมว่าเรากลับมาลองพยายามใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ หากเราทำตามเป้าไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก็แค่ลองใหม่อีกครั้ง) และวางแผนตามจริงแบบที่เราน่าจะทำได้
เราต้องหาแรงบันดาลใจว่าทำไมเราถึงอยากไปถึงเป้าหมายนั้น ๆ แล้วเราจะไม่ล้มเลิกง่าย ๆ ยกตัวอย่างเช่น “เราต้องการเลื่อนตำแหน่งเพราะว่า…” “เราอยากทำ Project นี้ให้สำเร็จเพราะว่า…”
ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน และวัดผลได้ เพื่อที่เราจะได้รู้ตัวว่าเราใกล้ถึงเป้าหมายหรือยัง หรือหาเพื่อน หรือคนในครอบครัวมาเป็น Buddy ที่มาคอยเช็กว่าเราเดินไปถึงไหนแล้ว เพื่อช่วยกระตุ้นให้เราไปถึงเป้าหมาย และไม่เลิกล้มระหว่างทาง
เปลี่ยน Mindset ให้คิดแง่บวก
อาจจะเคยได้ยินคำพูดนี้มาหลายรอบ แต่เชื่อเถอะ คิดแง่บวกมีผลให้ชีวิต หน้าที่การงาน และความสัมพันธ์เราดีขึ้นจริง ไม่ว่าเราจะรู้สึกดี หรือแย่กับสถานการณ์ไหน ๆ จำไว้เสมอว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” การที่เราจมอยู่กับความคิดแย่ ๆ ก็มีแต่จะเพิ่มพลังลบให้กับตัวเอง
วิธีเพิ่มพลังบวกง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกวันคือ “นึกขอบคุณสิ่งดี ๆ ในชีวิตในทุก ๆ วัน” นึกถึงสิ่งดี ๆ ความสัมพันธ์ดี ๆ ในชีวิต จดลงในไดอารี่ในทุกเช้า ช่วยให้เราเพิ่มพลังในการใช้ชีวิต และเริ่มต้นทำงานอย่างสดใส
หาเวลาให้ตัวเองบ้าง
เราเชื่อว่าทุกคนคงมีช่วงเวลาที่รู้สึกเครียด อึดอัด ชีวิตวุ่นวายกันอยู่บ่อย ๆ ทั้งงานออฟฟิศเยอะ ชีวิตส่วนตัวแยะ จนรู้สึกว่าอยากมีสัก 20 มือ ทำหลาย ๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน แต่เราควรปรานีกับตัวเองบ้าง เราควรพักเบรก และฝึกรู้เนื้อรู้ตัวในแต่ละวัน อาจจะหาเวลาหลังรับประทานข้าวกลางวันให้ตัวเองได้พัก หรือ หาเวลาสัก 5 นาทีระหว่างวันทำสมาธิ เป็นต้น
ในช่วงที่งานยุ่ง ๆ แน่นอนเราหาเวลาพักยาว ๆ ไม่ได้ ดังนั้นเราควรหาเวลาพักทีละ 5-10 นาทีเพื่อให้เรากลับมาทำงานอย่างมีสติ และจดจ่อได้ดีขึ้น
จำไว้เสมอว่าความเครียดก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนั่นแหละ ความเครียดก็ไม่ใช่ไม่ดีเสมอไป การมีความเครียดทำให้เราตั้งใจ ใส่ใจ และจดจ่อได้ดีขึ้น
การมองโลกในแง่ดี ไม่ได้หมายความว่ามองโลกสวยเกินไปเสมอไป เวลาเราเจอเรื่องยาก ๆ เราก็แค่กลับมามองสิ่งรอบตัวที่เป็นพลังขับเคลื่อนให้เราเดินไปในแต่ละวัน
ที่มา : fastcompany.com
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



