เครือเนชั่นใช้เงินไปถึง 3,538 ล้านบาทในการประมูลช่องข่าว และช่อง SD โดยเฉพาะช่องข่าว Nation TV ใช้เงินไปถึง1,338 ล้านบาท สูงที่สุดในจำนวนทั้งหมด 7 ช่อง เป็น “The Last Vision” ของ สุทธิชัย หยุ่น ประธานเครือเนชั่นที่ประสบความสำเร็จในการเข้าไปสู่วงการฟรีทีวี ซึ่งเขามีเป้าหมายชัดเจนมานานเกือบ 20 ปี เขารู้ดีว่า “ทีวีดิจิตอล” จะเป็นการปฏิวัติ (Revolution) อุตสาหกรรมสื่อที่วันหนึ่งต้องเกิดขึ้น และเป็นลมหายใจต่อไปของสื่อสิ่งพิมพ์ที่คาดว่าอีกไม่ถึง 5 ปี บทบาทและพลังจะลดน้อยถอยลงอย่างมาก

จากนี้ไปจะกลายเป็นยุคทองของคอนเท้นท์ โปรวายเดอร์ และเป็นโอกาสครั้งใหม่ของเครือเนชั่นที่เป็นเจ้าของคอนเท้นท์รายใหญ่ มีสื่อครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์และนิตยสาร, แอพพลิเคชั่นทุกสื่อในเครือ , ยูทูป แชนแนล, ช่องทีวีดาวเทียม, ทวิตเตอร์ 2.5 ล้านผู้ติดตาม และเว็บไซต์ 36 ล้านเพจวิว

 

อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง จำกัด กล่าวว่า

“ฐานผู้ชมและผู้ติดตามผ่านนิวมีเดียดังกล่าว จะช่วยต่อยอดผู้ชมช่องทีวีดิจิตอลในเครือเนชั่นนับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มออนแอร์”

ภายใต้สโลแกน “ทุกสนามข่าว เราคือตัวจริง” ของเนชั่น แชนแนล สถานีข่าว 24 ชั่วโมง  พร้อมด้วยกองทัพนักข่าวและผู้ประกาศชั้นนำได้ออนแอร์ “เนชั่นทีวี” บนแพลตฟอร์มทีวีดิจิตอลไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม

วันนี้ข่าวทีวีไม่ใช่สินค้า Commodity ที่แต่ละช่องเอามาเล่ากันผ่านจอทีวี นอกจากเนื้อหาในการนำเสนอที่ต้องแข่งขันกันในเรื่องความ “ต่าง” และ “เร็ว” ช่องทางในการนำเสนอก็ต้องแข่งกันเข้มข้นเช่นกัน

กลยุทธ์ 5 จอ

All Day Prime Time

กลยุทธ์สำคัญการบริหารช่องทีวีดิจิตอลในเครือเนชั่น คือ 5 Screen Strategy เพื่อนำเสนอคอนเท้นท์ให้ปรากฏอยู่ใน 5 จอหลัก เกาะติดไลฟ์สไตล์ผู้ชมตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นจอแท็บเล็ตและจอสมาร์ทโฟน ที่กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการเสพข้อมูลข่าวสารในช่วงระหว่างเดินทาง จอคอมพิวเตอร์ ในช่วงเวลาทำงาน Digital Signage หรือจอเอ้าท์ดอร์ ที่สามารถพบเห็นในแหล่งชุมชน และจอทีวี สำหรับการรับชมช่องทีวีดิจิตอลของเครือเนชั่นในช่วงเช้าและเย็น

กลยุทธ์ 5 จอ จะเป็นอาวุธสำคัญ ผลักดันช่องทีวีดิจิตอลของเนชั่นทีวีให้ปรากฏสู่ผู้ชมตลอดเวลา เพื่อก้าวสู่กลยุทธ์การบริหารทุกช่วงเวลาให้เป็นไพรม์ไทม์ (All Day Prime Time) พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ชมที่สามารถเลือกชมคอนเท้นท์เนชั่นทีวีได้เองในทุกช่วงเวลาที่สะดวก

 

จุดแข็ง จับจุด  คอข่าว

บนแพลตฟอร์มทีวีดิจิตอล เนชั่นทีวี   ได้จัดทัพผังเพิ่มรายการใหม่ 30-40% เริ่มตั้งแต่ผังช่วงเช้าเวลา 05.00-11.00 น. เริ่มด้วยข่าวที่ต้องการสร้างสีสัน และสนุกสนาน  รายการปากตลาด ต่อด้วย ข่าวรับอรุณ เก็บตกจากเนชั่น (เช้า) รายการหุ้น รายการเกาะติดสถานการณ์เด่นในอาเซียน นำทัพด้วยกลุ่มผู้ประกาศ “เลือดใหม่” และผู้ประกาศชั้นนำ กนก รัตน์วงศ์สกุล, ธีระ ธัญไพบูลย์ และวีณารัตน์ เลาหภคกุล พร้อมด้วยข่าวต้นชั่วโมงและกลางชั่วโมง “ลุยข่าวร้อน” ตลอดทั้งวัน

ช่วง 11.00-13.00 น. นำเสนอวาไรตี้เชิงธุรกิจ รายการจากทีมระวังภัย รวมทั้งรายการจากช่อง “คิดโซน” ช่วงเที่ยง เกาะติดสถานการณ์เด่นผ่าน Convergent Newsroom เครือเนชั่น

ข่าวและรายการไฮไลท์อยู่ในช่วงเย็นถึงดึก เริ่มเวลา 17.00-01.00 น. เรียกว่าเป็นผังรายการสำหรับ “คอข่าว” ขนานแท้ เริ่มที่รายการ เก็บตกจากเนชั่น (เย็น) รายการ สืบสวนสอบสวนเอ็กซ์ไฟล์ รายการ คมคิด “เทพชัย หย่อง” ในเวลา 19.00-19.30 น. จันทร์-เสาร์ ซึ่งจะมาวิเคราะห์สถานการณ์สำคัญประจำวันร่วมกับกองบรรณาธิการ คอนเวอร์เจนท์

หลังจบข่าวค่ำติดตามต่อกับรายการแนวฮาร์ดทอล์ค เข้มข้น “คม ชัด ลึก” โดย
จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ นับเป็นรายการฮาร์ดทอล์กที่เหลือน้อยมากในฟรีทีวีปัจจุบัน   ตามต่อด้วยรายการ “ข่าวข้น คนเนชั่น” กับทีมผู้ประกาศมากประสบการณ์ จากเดิมที่เสนอทุกจันทร์-ศุกร์ ในผังใหม่นำเสนอเพิ่มในวันเสาร์-อาทิตย์ ปิดท้ายด้วยรายการใหม่ในช่วง 23.30 น. “เนชั่น มิตรไนท์” กับทีมผู้ประกาศรุ่นใหม่ที่เสริมขึ้นมา

 

Nation TV เป้าหมายชัดเจน พร้อมพุ่งชนข่าวช่อง 3

อดิศักดิ์กล่าวว่าเม็ดเงินโฆษณาในช่องข่าวทั้งหมดในปีที่ผ่านมาประมาณ 15,000 ล้านบาท ช่อง 3 กำเม็ดเงินไว้สูงสุด ประมาณ35%  ตามด้วยข่าวของช่อง7 ช่อง 9 และช่อง 5

“เมื่อเราจะเป็นหนึ่งคู่แข่งของเราคือช่อง  3   เราก็ต้องท้าชิงแชมป์  ดังนั้นผังของเนชั่นทีวีจะปรับให้ใกล้เคียงกับช่าวของช่อง 3 เพื่อให้ผู้ชมเกิดความเปรียบเทียบอย่างชัดเจนว่าข่ าวแต่ละช่องมีความแตกต่างกันอย่างไร”

อดิศักดิ์ กล่าวว่า ช่อง 3 มีรายการเดียวตั้งแต่ 6 โมง เช้า ถึง 9โมงครึ่ง โดยมีทีมอ่านข่าวหลัก 1-2 คน ในขณะที่เนชั่นจะมีทีมที่มั่นใจว่าจะมาสร้างสีสันได้มากกว่า  ในขณะที่ข่าวตอนกลางคืนช่อง3 ก็จะมีเวลาน้อยกว่า เนชั่นทีวีในการนำเสนอข่าว

กองทัพนักข่าวที่มีประมาณ 200 คน รวมนักข่าวทั้งเครือของเนชั่นประมาณ350- 400 คน เป็นอีกความพร้อมของเนชั่นทีวี

“ราคาเฉลี่ยทุกช่วงเวลาของช่อง 3  ประมาณ 1.8 แสนบาทต่อนาที เราขอแค่ 10% ของเขา คือ 1.8-2 หมื่นบาท ในช่วงเริ่มต้นของปีนี้ก็พอใจแล้ว”

สำหรับรายการที่เรทติ้งดีที่สุดเป็นของ กนก รัตน์วงศ์สกุล ตอน 3 ทุ่มครึ่ง  ค่าโฆษณานาทีละ 1หมื่นกว่าบาทขึ้นไป ซึ่งเมื่อเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิตอลน่าจะเพิ่มเป็น 4-5 หมื่นบาทเพราะเป็นรายการที่จองเต็มอยู่แล้ว แล้วหลังจากนั้นอีกประมาณ 3ปี ราคาน่าจะเพิ่มถึง 1 แสนบาท

 

เปิด2สตูดิโอ ดาวน์ทาวน์

นอกจากการเสริมทัพผังรายการใหม่ เนชั่นทีวีวางแผนลงทุนรวม 160 ล้านบาท สำหรับการซื้ออุปกรณ์ระบบดิจิตอล พร้อมทั้งการเปิดตัว 2 สตูดิโอ ดาวน์ทาวน์ โดยมีเป้าหมายให้เป็นสถานีข่าวที่ใกล้ชิดกับคนเมืองมากที่สุด  ซึ่งเป็นสตูดิโอแนวคิดเดียวกับสถานีข่าวชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็น NBC, ABC หรือ CNN  และได้เปิดตัว 2 สตูดิโอ ดาวน์ทาวน์ชั่วคราวพร้อมกันคือ ที่ชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี่ และอาคาร Bangkok Code สาทร โดยจะทดลองออกอากาศช่อง Nation TV ทั้ง 2 สตูดิโอในเดือนมีนาคมนี้ จากนั้นในเดือนมิถุนายน 2557 จะเปิดตัวสตูดิโอหลัก Nation Broadcasting House @ Sathorn ซึ่งจะใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการข่าวช่องทีวีดิจิตอล “เนชั่นทีวี”

อดิศักดิ์ยังให้ความเห็นว่าไม่อยากให้เอเยนซี่โฆษณาใช้เรทติ้งเป็นตัวหลักวัดความนิยมเพื่อให้โฆษณาอย่างเดียว แต่ควรให้ความสำคัญในเรื่องโปรไฟล์ของคนดูด้วย ซึ่งคนดูของช่องเนชั่นชาแนลเดิมมีความชัดเจนมาก คือเป็นคนชั้นกลางและมีกำลังซื้อ  ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ๆ

“ผมเดินสายไปพบเอเยนซี่รายใหญ่ๆ เป็น 10เจ้า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เพื่ออัพเดทความเคลื่อนไหวและความพร้อม ก่อนประมูลผมเข้าไปเป็นรอบที่ 3 พอหลังประมูลยิ่งเข้าไปถี่ ถามตลอดว่าจะซื้อยัง รีบช่วงชิง รีบสร้างแบรนด์”

อดิศักดิ์ สะท้อนภาพความพร้อมในการเข้าสู่แพลตฟอร์มของดิจิตอลทีวี

เล่นในสนามเล็กชนะอยู่แล้ว เล่นในสนามใหญ่อย่างไรก็ต้องชนะ เขายืนยัน

Marketeer เดือนเมษายน 2557

เรื่อง : อรวรรณ บัณฑิตกุล

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer