จากปี 2544 ที่ภาพยนตร์ The Fast and The Furious ออกฉายครั้งแรก ซึ่งในเวลานั้นอาจไม่มีใครเชื่อว่าภาพยนตร์ The Fast and The Furious ภาพยนตร์ฟอร์มเล็กจะประสบความสำเร็จและมาได้ไกลถึง Fast and Furious 7 จนชื่อ Fast ได้กลายเป็นตำนานของภาพยนตร์แข่งรถ ที่มีภาคต่อมากที่สุดในเวลานี้ และอะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จทั้ง 7 ภาคของ The Fast and The Furious

  1. The Fast and The Furious ทั้ง 6 ภาคที่ผ่านมามีรายได้รวมกันประมาณ 2,380 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 76,160 พันล้านบาทไทย เริ่มสร้างภาคแรกเมื่อปี 2544 ในฐานะภาพยนตร์ฟอร์มเล็กในวงการภาพยนตร์อเมริกา
  2. การที่ The Fast and The Furious สามารถเดินทางได้ยาวนานถึง 7 ภาคนั้นมาจากการปรับมูดแอนด์โทนของภาพยนตร์ ด้วยการเสริมเรื่องครอบครัวเข้าไปเพิ่มเสนห์จากจุดขายเดิมคือความเร็วเท่านั้น
  3. The Fast and The Furious : Tokyo Drift ภาพยนตร์ภาคที่ 3 ของ The Fast and The Furious ภาพยนตร์ภาคแรกที่ Justin Lin เข้ามามีส่วนร่วม ได้กลายเป็นภาคที่ตัดสินให้ภาพยนตร์ตระกูล The Fast and The Furious ได้ไปต่อในภาคต่อไป ซึ่งภาพยนตร์ภาคนี้ก็สามารถสร้างรายได้กลับมาพอสมควร จากตัวละครที่ใหม่ และฉากใหม่ดำเนินเรื่องที่ญี่ปุ่นเป็นหลัก
  4. Fast & Furious 4 เป็นภาคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาจากการแข่งรถ เป็นภาพยนตร์แนวอาชญากรรมที่มีรถประกอบ ซึ่งทำให้ภาพยนตร์ตระกูล The Fast and The Furious มีสีสันที่แปลกใหม่และเร้าใจขึ้น
  5. Fast & Furious 7 เคยถูกเลื่อนฉายมาแล้วรอบหนึ่งจากกำหนดเดิม 11 ก.ค. 2014 เพราะการเสียชีวิตอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของ Paul William Walker

 

7 The Fast and The Furious

The Fast and The Furious เร็ว..แรงทะลุนรก ออกฉาย 2544

2 Fast 2 Furious เร็วคูณ 2 ดับเบิ้ลแรงท้านรก ออกฉาย 2546

The Fast and The Furious: Tokyo Drift เร็ว..แรงทะลุนรก ซิ่งแหกพิกัดโตเกียว ออกฉาย 2549

Fast & Furious เร็ว..แรงทะลุนรก 4: ยกทีมซิ่ง แรงทะลุไมล์ ออกฉาย 2552

เร็ว..แรงทะลุนรก 5 ออกฉาย 2554

Fast & Furious 6 เร็ว..แรงทะลุนรก 6 ออกฉาย 2556

เร็ว..แรงทะลุนรก 7 (Fast and Furious 7) ออกฉายเมษายน 2558

 

ทำไม Fast and Furious 7 อาจไม่ได้ฉายในไทย

จากข่าวศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามไม่ให้มีการฉายภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious 7 ที่ “จา พนม” ได้ร่วมแสดงและมีกำหนดฉายในประเทศไทยในวันที่ 1 เมษายน 2558 ด้วยเหตุผลหลัก

  1. Fast &Furious 7 ภาพยนตร์ที่มี จา พนม เป็นตัวดำเนินเรื่องที่สำคัญ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ จา พนม เป็นผู้ติดต่อกับทางฮอลลิวูดโดยตรงจากความเข้าใจว่าได้หมดสัญญากับ สหมงคลฟิล์มแล้ว
  2. ในวันที่ Fast and Furious 7 เข้าฉาย จา พนม ติดสัญญาอีก 8 ปีกับสหมงคล ฟิล์ม โดยสัญญานี้เป็นการต่อโดยอัตโนมัติ กับสหมงคลฟิล์มตั้งแต่เดือน ก.ค.2556 หมดสัญญาในปี 2566
  3. สหมงคลฟิล์ม ฟ้อง ค่าเสียหายจา พนม 1,600 ล้านบาท
  4. คาดว่าภาพยนตร์ Skin Trade หรือ “คู่ซัดอันตราย”ที่จา พนม ร่วมแสดงกับ ดอล์ฟ ลุนเกรน เข้าฉายในประเทศไทยในวันที่ 23 เมษายน 2558 อาจถูกระงับไปด้วย
  5. อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
    Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer