ความเคลื่อนไหวและพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของอินเดียยังคงน่าติดตาม โดยล่าสุดคือการสานต่อแผนรุกอินเดียของ Apple ด้วยการเปิด Apple Store
สื่อตะวันตกรายงานอ้างข้อมูลจาก Financial Times สื่อเศรษฐกิจเก่าแก่สัญชาติอังกฤษว่า Apple ได้เปิดรับสมัครพนักงานหลายตำแหน่ง ทั้งแบบประจำและชั่วคราว สำหรับ Apple Store แห่งแรก ๆ ที่กำลังจะเปิดในปีนี้
ตามรายงานระบุว่า พนักงานกลุ่มนี้ซึ่งมีทั้งที่ Genius Bar และผู้จัดการอาวุโส จะไปทำงานที่นครมุมไบ และกรุงนิวเดลี ด้าน Renu Sevanthi หัวหน้าฝ่ายบุคคลของ Apple อินเดีย กล่าวเพียงว่า เป็นเรื่องที่ต้องยินดี แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติม
Financial Times ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หากอิงจากรายงานเมื่อกลางปี 2022 Apple Store แห่งแรกน่าจะมีขนาด 10,000 ถึง 12,000 ตารางเมตร และอยู่มุมไบ
รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังอินเดียมีแผนเปิด Apple Store มาตั้งแต่ปี 2020 โดย Tim Cook ซีอีโอ Apple ไม่ปลื้มนักที่อินเดียมีแต่ร้านที่ได้รับการรับรองต่าง ๆ เช่น ของค่ายโทรคมนาคม แต่ไม่มีร้านขาย Gadget ของตัวเองอย่างเป็นทางการ โดยปีต่อมาแม้แผนเปิด Apple Store หนาหูขึ้นแต่ก็ต้องพับแผนไปเพราะสถานการณ์โควิด
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันอินเดียทวีความสำคัญกับ Apple ในฐานะอีกหนึ่งฐานการผลิตใหญ่ของโรงงานรับจ้างผลิต (OEM) ในเอเชีย ร่วมกับเวียดนามเพื่อลดการพึ่งพาจีน แม้เป็นโรงงานของไต้หวันก็ตาม
เมื่อปลายปี 2022 โรงงานในอินเดียได้ไฟเขียวผลิต iPhone 14 ด้วย ท่ามกลางการคาดว่าเมื่อถึงปี 2025 สัดส่วนของการผลิต iPhone จากโรงงานอินเดียจะเพิ่มเป็น 25% ขยับจากเพียง 5% ในปี 2022
และเมื่อถึงปี 2027 อุตสาหกรรม OEM จะเป็นกำลังสำคัญช่วยให้เพิ่มตัวเลขการส่งออกเป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 75 ล้านล้านบาท)
เหตุผลอีกอย่างที่ทำให้การเตรียมเปิด Apple Store ในอินเดียน่าจับตามองคือ ปีนี้อินเดียแซงจีนขึ้นเป็นประเทศที่ประชากรมากสุดในโลก ด้วยจำนวนประชากร 1,400 ล้านคน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า อินเดียคือประเทศที่มีจำนวนลูกค้าของแบรนด์ต่าง ๆ อยู่มากสุดในโลก
และถ้าอุตสาหกรรม OEM อินเดียขยายตัวได้ตามเป้า อินเดียก็จะแซงจีนขึ้นเป็นโรงงานโลกแห่งใหม่ ซึ่งมีจุดขายอยู่ที่ประชากรวัยแรงงานจำนวนมหาศาลและค่าจ้างแรงงานยังถูก ต่อเนื่องจากการเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยธุรกิจรับเหมาทำงานในสำนักงาน เช่น IT และ Call center จนได้ชื่อว่าสำนักงานโลกมาช้านานอีกด้วย/theverge
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



