แต่ละธุรกิจก็มีปัญหาให้ต้องแก้ ให้ต้องรับมือต่างกันไป แต่ถ้าเจอเข้าบ่อย ๆ แถมยังขยายวงไปเรื่อย ๆ แล้วต้องมาตามแก้ไม่หยุดหย่อนก็จะฉุดรั้งความก้าวหน้า และเสียเวลาพัฒนาได้สิ่งใหม่ ๆ มาตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมไปถึงเพิ่มโอกาสทำกำไร
สำหรับธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเผชิญวิกฤตมากมาย ทั้งต้องปรับไปเน้นส่งถึงบ้านหรือเว้นระยะห่างจากสถานการณ์โควิดแบบเดียวกับร้านอาหารทั่วโลก
พอโควิดซาก็ต้องปวดหัวกับวัตถุดิบ เช่น อาหารทะเล กับไข่ ที่หายากและแพงขึ้นสืบเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในยุโรป และวิกฤตเศรษฐกิจอีก
แต่ที่หนักสุดคือเทรนด์เล่นพิเรนทร์ ก่อการร้ายชูชิของลูกค้าส่วนน้อยตัวแสบ โพสต์คลิปเลียจาน เลียช้อน หรือขวดซอส ของใช้ส่วนกลางในร้านซูชิจานหมุนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้าที่กลัวเรื่องความสะอาดหลังพ้นยุคโควิดมาได้หมาด ๆ ไม่กล้าเข้าร้าน
การก่อการร้ายซูชิ ทำให้ธุรกิจอายุหลายทศวรรษที่คนริเริ่มได้ไอเดียมาจากสายพานในโรงงานผลิตเบียร์ เปิดโอกาสให้ชูชิราคาจับต้องได้มากขึ้น และเมื่อปี 2021 มีมูลค่าตลาดสูงถึง 5,400 ล้านดอลลาร์ (ราว 183,000 ล้านบาท) สั่นสะเทือนครั้งใหญ่
นำมาสู่การหาทางป้องกันมากมาย ตั้งแต่เปลี่ยนไปเสิร์ฟตามที่สั่ง ปรับเส้นทางหรือความเร็วของสายพาน ไปจนถึงติดตั้งกล้องหรือระบบ AI เฝ้าระวังพฤติกรรมของลูกค้า
ส่วนเชนบางแห่ง เช่น Choshimaru ก็ตัดปัญหาด้วยการเลิกระบบสายพานไปเลย
ทว่าเทรนด์ป่วนดังกล่าวก็ยังคงไม่หยุด และข้ามไปถึงเชนร้านข้าวหน้าเนื้อชื่อดังแล้ว โดย Yoshinoya แจ้งความให้ตำรวจมาจับกุมหนุ่มก่อสร้างวัย 30 กลาง ๆ สองคน ที่นึกสนุกเอาตะเกียบตัวเองไปคีบกินผักดองจากถ้วยใหญ่ส่วนกลางในสาขาที่โอซากาอย่างตะกละตะกลาม
【速報】大阪市内の「吉野家」で、紅生姜(ショウガ)を直食いする迷惑行為をした建築業の嶋津龍(35)と、飲食店経営の岡敏秀(34)の両容疑者が威力業務妨害と器物損壊の疑いで逮捕されたようです。
— 激バズ2nd (@nethistorybot) April 4, 2023
แล้วโพสต์ขึ้น Twitter เพื่อให้ชาวโซเชียลได้หัวเราะกันจนกลายเป็นไวรัล มีผู้เข้ามาดูและส่งต่อกันเป็นจำนวนมาก
ทั้งคู่ก่อเหตุตั้งแต่ปลายกันยายนปี 2022 โดยมาถูกตำรวจจับกุมตัวไล่เลี่ยกันเมื่อปลายมีนาคมและเมษายนในข้อหาทำให้ทรัพย์สินเสียหายและขัดขวางการดำเนินธุรกิจ หลังกุมภาพันธ์ปีนี้ Yoshinoya เพิ่งมาแจ้งความย้อนหลัง
เพราะเห็นว่าสร้างความเสียหายต่อร้านที่เกิดเหตุ และชื่อเสียงของทั้งเชน ที่มีสาขาอยู่กว่า 2,700 สาขาทั่วโลก หลังเกิดเรื่องใกล้เคียงกันในเชนร้านชูชิและมีการจับกุมตามมาก่อนหน้านี้
Yoshinoya ยังหวังด้วยว่านี่จะเป็นเยี่ยงอย่าง เพื่อไม่ให้มีใครกล้าเล่นพิเรนทร์เพราะแค่นึกสนุกทำเล่นขำ ๆ แต่บริษัทไม่ขำด้วยขึ้นมาอีก และย้ำว่าจะจัดการกับผู้ก่อเหตุอย่างจริงจัง
การก่อการร้ายชูชิที่ลามมาถึงเชนร้านข้าวหน้าเนื้อมีที่มาจากหลายสาเหตุ ทั้งจากแค่นึกสนุกอยากทำคลิปอวดกันบนสื่อโซเชียล และการหาอะไรทำระหว่างรออาหารของคนยุคนี้ ซึ่งต่อยอดมาจากการที่ทุกคนล้วนมีสมาร์ตโฟนและสื่อโซเชียลอยู่ในมือ
หรือแม้กระทั่งการไม่สบอารมณ์ที่เชนร้านอาหารไม่มาดูแลใส่ใจ ซึ่งฝังอยู่ในใจชาวญี่ปุ่น รวมไปถึงการอยากแสดงออกให้รู้ว่า หลายอย่างในร้านนั้นถูกละเลย
ตรงข้ามกับในอดีตที่ธุรกิจร้านอาหารได้รับความใส่ใจในทุกรายละเอียด จนดังไปทั่วโลก และยิ่งตอกย้ำการหลงใหลในการเป็นเลิศของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย
ส่วนหากมองจากเลนส์ทางธุรกิจ นี่คือเหตุการณ์ที่ทำให้เชนร้านอาหารญี่ปุ่นต้องกลับมาใส่ใจรายละเอียดเหมือนในอดีต แต่ก็ต้องติดตามด้วยว่าจะทำได้แค่ไหน เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขาดแคลนแรงงาน จากวิกฤตประชากรที่อัตราเกิดต่ำแต่จำนวนผู้สูงอายุมีมาก
ทางแก้ที่น่าจะเป็นไปได้คือ การให้ผู้สูงอายุกลับมาทำงาน เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในเชนร้านอาหารมากขึ้น ใช้หุ่นยนต์ หรือระบบอัตโนมัติ
แต่ก็ต้องใส่ใจเรื่องคุณภาพอาหารและมีระบบเฝ้าระวังพฤติกรรมไม่เหมาะสมของลูกค้าด้วย
หรืออาจทำแบบร้านราเมง Debu-Chan ในกรุงโตเกียว ที่เจ้าของร้านจะไปเตือนลูกค้าด้วยตัวเองให้วางสมาร์ตโฟน แล้วกินราเมงตรงหน้าก่อนเส้นอืด
เพราะนอกจากเป็นการแนะให้ลูกค้าได้กินเมนูอร่อยขึ้นชื่อหลังทำเสร็จใหม่ ๆ แบบที่คนในบ้านเกิดเจ้าของร้านทำกันแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าคนอื่น ๆ ที่ต่อคิวยาวหน้าร้านได้เข้ามานั่งกินข้างในร้านเสียที
พร้อมตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้มีการถ่ายคลิปเล่นพิเรนทร์แล้วโพสต์เป็นไวรัลจนทางร้านเสียหายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม กรณีการก่อร้ายชูชิที่ลามมาเขย่าเชนร้านข้าวหน้าเนื้อก็ยังทำให้คนทั่วโลกที่ติดตามข่าวตกใจไม่น้อย เพราะเป็นเหตุป่วนของคนในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการปฏิบัติตามกฎ และชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย/japantoday, nikkei, straitstimes, theguardian
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



