บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครอบคลุมใน 8 ประเทศ ไทย จีน สหรัฐฯ ออสเตรเลีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ลาว เเละญี่ปุ่น ยังคงเดินหน้าเร่งทรานส์ฟอร์มองค์กรตามกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน  ตามแนวทาง “Triple E” สู่เป้าหมายในการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า 5,300 เมกะวัตต์ จากทั้งพลังงานความร้อนเเละพลังงานหมุนเวียน ภายในปี 2568

ดร.พัชณิตา ธรรมยงค์กิจ ประธานคณะกรรมการสิ่งเเวดล้อม สังคม เเละการกำกับดูเเลกิจการ (ESG) บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การผลิตไฟฟ้าจากในอดีตอาศัยถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง อีกทั้งบ้านปูคือผู้บุกเบิกในสมัยนั้น  เเต่เมื่อเวลาผ่านไปพลังงานฟอสซิลเเบบเดิม ส่งผลกระทบต่อสิ่งเเวดล้อม  บริษัทฯ หาเเนวทางในการเปลี่ยนผ่านการผลิตไฟฟ้าเเบบเดิม นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าให้เป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อมมากที่สุด

ตามแนวทาง “Triple E” ประกอบด้วย 1. Ecosystem บาลานซ์พอร์ตธุรกิจจากพลังงานความร้อน และพลังงานหมุนเวียน 2. Excellence ความสามารถในการปรับตัวท่ามกลางความท้าทายของสถานการณ์พลังงานโลกที่มีความผันผวน 3. ESG ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environmental, Social and Governance: ESG)

โดยจัดตั้งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environmental, Social and Governance: ESG) ของ BPP เพื่อการปรับตัวของธุรกิจให้ทันต่อปัญหาความผันผวนของปัจจัยภายนอก ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากร เเละความปลอดภัยทางไซเบอร์

คณะกรรมการ ESG มีหน้าที่ส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตในทิศทางที่สอดคล้องกับการพัฒนาองค์ประกอบในห่วงโซ่คุณค่าของกิจการ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต

ประกอบด้วยรายชื่อคณะกรรมการ ศาสตราจารย์ ดร.พัชณิตา ธรรมยงค์กิจ ประธานคณะกรรมการ  นายหยกพร ตันติเศวตรัตน์ เเละนายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการ  เป็นผู้ร่วมกำหนดทิศทาง นโยบาย  ติดตาม และตรวจสอบการบริหารความเสี่ยงและผลการดำเนินงานด้าน ESG สร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน

บริษัทฯ มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีการผลิตประสิทธิภาพสูง (high efficiency, low emissions หรือ HELE) ช่วยลดคาร์บอนในกระบวนการผลิตไฟฟ้า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตมากขึ้น

ภาพรวมการดำเนินงานด้าน ESG

  • ด้านสิ่งแวดล้อม

บริษัทฯ เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ โดยมีเป้าหมายลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการขยายพอร์ตธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และการใช้เทคโนโลยีในการผลิตขั้นสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการขยายกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานที่สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด

กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน มีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่เปิดดำเนินการเชิง พาณิชย์ พร้อมกับเทคโนโลยี HELE ในโรงไฟฟ้าต่างๆ

-โรงไฟฟ้านาโกโซ (Nakoso IGCC) ในจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ใช้เทคโนโลยี Integrated Gasificatio Combined Cycle หรือ IGCC ที่ใช้เทคโนโลยีผสมผสานในการแปลงสถานะถ่านหินให้กลายเป็นก๊าซเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า  ลดปริมาณการใช้ถ่านหินลง

-โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้เทคโนโลยี Combined Cycled Gas Turbines หรือ CCGT ที่ผสมผสานกระบวนการทำงานของ Gas Turbine (กังหันก๊าซ) กับ Steam Turbine (กังหันไอน้ำ) ไว้ด้วยกัน

-โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (CHP) ทั้ง 3 แห่งที่จีน ออกแบบกระบวนการผลิตไฟฟ้าให้ไม่มีน้ำเสียไหลออกจากระบบเพื่อลดการใช้ทรัพยากรน้ำในพื้นที และการนำน้ำมาผ่านกระบวนการรีไซเคิลเพื่อนำกลับไปใช้ใหม่ รวมถึงการปรับปรุงคุณภาพอากาศก่อนปล่อยออกจากปล่อง โดยคุณภาพอากาศที่ปล่อยออกมาดีกว่าค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

-โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี (BLCP) ประเทศไทย ลงนามความร่วมมือร่วมกับ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด JERA Co., Inc.  Mitsubishi Corporation และ Mitsubishi Heavy Industries, Ltd. เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการนำแอมโมเนีย  มาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในงานปฏิบัติการที่โรงไฟฟ้าฯ ซึ่งช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน  ขยายกลุ่มธุรกิจนี้ผ่านการลงทุนของ บ้านปู เน็กซ์ (Banpu NEXT) โดยการให้บริการโซลูชันพลังงานฉลาดเพื่อความยั่งยืนแบบครบวงจร (Total Smart Energy Solutions) ที่ตอบโจทย์ความต้องการและทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ  สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และการจัดการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ  ดำเนินธุรกิจใน 5 กลุ่มคือ  1)ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและทุ่นลอยน้ำ 2) ธุรกิจแบตเตอรี่ 3) ธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า 4)ธุรกิจอี-โมบิลิตี้  5)ธุรกิจพัฒนาเมืองอัจฉริยะและจัดการพลังงาน

ที่ผ่านมาบริษัทฯเข้าไปเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ดูราเพาเวอร์ โฮลดิ้งส์ จํากัด (Durapower) จากร้อยละ 47.68 เป็น ร้อยละ 65.10 ด้วยเงินลงทุน 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจแบตเตอรี่ให้แข็งแกร่งมากขึ้น

ขยายธุรกิจระบบกักเก็บพลังงานในโครงการฟาร์มแบตเตอรีขนาดใหญ่ กำลังการผลิต 58 เมกะวัตต์ ที่เมืองโตโนะ (Tono) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ในประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2568

ลงทุนภายใต้ธุรกิจ e-Mobility ในโอยิกะ (Oyika) ผู้ให้บริการโซลูชันสลับแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า  ซึ่งมีบริการครอบคลุมหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้านสังคม

  • ภายในองค์กร พัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะในการทำงาน เพื่อให้บุคลากรมีการเติบโตและพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ จึงมีการอบรมและพัฒนาพนักงาน (Training and Development Policy) ในหลากหลายรูปแบบ เนื่องจากบุคลากรของ BPP มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและต่างวัฒนธรรม จึงมีวัฒนธรรมองค์กรบ้านปู ฮาร์ท (Banpu Heart) ที่แข็งแกร่ง  ซึ่งเชื่อมโยงและหลอมรวมพนักงานเข้าด้วยกัน
  • ภายนอกองค์กร ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่ พัฒนาอาชีพ และสนับสนุนการจ้างงานเพื่อทำงานในโรงไฟฟ้า เป็นต้น

 

ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา บริษัทฯกำไรเพิ่มขึ้นสามเท่าตัว สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อานิสงส์ส่วนหนึ่งจากราคาพลังงานโลก ซึ่งในปีนี้ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะยังคงมีเเนวโน้มที่ดีเช่นเดียวกัน


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer