“เอสซีจี” ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์อีกครั้ง ด้วยการคว้ารางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2023 ถึง 2 รางวัล ทั้งในหมวด “สินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด” และหมวด “สินค้ากลุ่มกระเบื้องหลังคา”
อะไรทำให้ผู้บริโภคทั่วประเทศยังคงประทับใจและมั่นใจเลือกให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจต่อเนื่องอีกหนึ่งสมัย คุณอัญชลี ชวนะลิขิกร Head of Housing Product Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี จะมาเผยถึงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนแบบผู้นำ ที่พร้อมสร้างสรรค์โซลูชันเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น
“Customer Centric” กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ
คุณอัญชลีกล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้แบรนด์ยังคงแข็งแกร่งคือการยึดหลัก “Customer Centric” หรือ การยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าเชิงลึกและมุ่งมั่นแก้ปัญหาอย่างแท้จริง
“เอสซีจี เราอยู่คู่คนไทยมายาวนานมาก ๆ วิสัยทัศน์สำคัญของเราที่ดำเนินการมาตลอดคือ ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง เสียงจากผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เรายังคงเก็บข้อมูลมาโดยตลอด ทั้งในส่วนของความชอบ ความพึงพอใจ ตลอดจนปัญหา อุปสรรค หรือ Pain Point ต่าง ๆ ที่ทุกท่านเผชิญอยู่
วันใดที่ผู้บริโภคอยากเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้สินค้าหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบการอยู่อาศัย เอสซีจีก็พร้อมอยู่เคียงข้างในการคิดค้นสินค้านวัตกรรม ด้วยแนวคิดทั้งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการอยู่สบายด้วยเทคโนโลยี ดีไซน์ที่สวยงาม พร้อมตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งาน เพื่อตอบสนองทุกความต้องการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยด้วยสินค้าและบริการที่ดีที่สุด”
สรรสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ดีกว่า
สำหรับภาพรวมตลาดนั้น คุณอัญชลีวิเคราะห์ว่า แม้ผู้คนจะเลือกรูปแบบที่อยู่อาศัยแนวราบมากขึ้น สวนทางกับแนวตั้งที่ชะลอตัวลง แต่ในภาพรวมยังคงมีปัจจัยบวกในหลาย ๆ ส่วน อย่างไรก็ดี ปัจจัยลบหลักคือเรื่องของราคาวัสดุที่ค่อนข้างสูงขึ้น รวมถึงปัจจัยจากอัตราเงินเฟ้อก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเช่นกัน
ซึ่งสิ่งที่เอสซีจีดำเนินการคือมุ่งมั่นนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ดีกว่า โดยในปีนี้ ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้ 3 แกนหลัก คือ
1. ด้านความสวยงาม
- หลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่น EXCELLA CRESTA นวัตกรรมการสร้างลวดลายบนผืนหลังคาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วย Digital Printing Technology เอสซีจีเป็นรายแรกที่มีการนำ Digital Printing Technology มาสร้างลวดลายบนผืนหลังคา แต่ยังคงคุณสมบัติและคุณภาพที่ดีที่สุดของหลังคาเอสซีจี แล้วเผาด้วยอุณหภูมิ 1,100 องศาเซลเซียส เพื่อให้สีสวยทน ไม่ซีดจาง เปิดตัวคอลเลกชันแรกด้วยดีไซน์ลวดลายธรรมชาติเสมือนจริง 3 เฉดสี Sabana Black, Sabana White และ Clay โดยแต่ละสีจะมีลวดลาย Random สูงสุด 33 ลาย เพื่อความสวยงามสมจริง
- ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูดดี ให้ความสมจริงของลวดลายและสีสันที่เหมือนไม้จริง ด้วยเทคนิค Digital Printing สามารถทนต่อรังสี UV ได้ดีทำให้สีและลวดลายไม่ซีด จืดจางไว ด้วยการเคลือบผิวหน้าด้วย Polyurethane Coating เกรดอุตสาหกรรม สำหรับการใช้งานภายนอกโดยเฉพาะ
- ระบบรั้วตกแต่ง เอสซีจี รุ่นเฟรทเวิร์ค (Fence System) ตอบโจทย์เรื่องความสวยงามและสร้างความเป็นส่วนตัว โดยเป็นแบบจัด Set กึ่งสำเร็จรูป ที่มีทั้งแผ่นรั้วฉลุลาย โครงเหล็ก และชุดอุปกรณ์การยึด มีให้เลือกหลากหลายลาย และสี ให้เหมาะกับสไตล์บ้านทุกสไตล์
2. ด้านความอยู่สบาย และเงียบสร้างความเป็นส่วนตัว
- ตอบโจทย์การกั้นห้องทำงาน ห้องโฮมเธียเตอร์ ด้วยการพัฒนาระบบผนัง SCG Smart Wall Privazy นวัตกรรมระบบผนังกันเสียง ที่มีเทคโนโลยี Zoundless ให้ค่ากันเสียงได้สูงสุด 66STC เทียบเท่าการกันเสียงระดับโรงแรม 5 ดาว ติดตั้งง่ายด้วยระบบแห้งหรือ Board & Frame ทำให้ระบบผนังมีความแข็งแรง จึงสามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลาย
- หลังคา เมทัลรูฟ เอสซีจี นวัตกรรมหลังคาเมทัลรูฟลดเสียงดัง ที่สามารถลดเสียงฝนตกกระทบบนหลังคาได้ดีกว่าหลังคาเมทัลชีททั่วไป สูงสุดถึง 18% ด้วยเทคโนโลยี NoiseTECH (เทคโนโลยีเคลือบสีที่ช่วยลดเสียง) ตอบโจทย์ความสวยงามกับสไตล์หลังคาด้วย 2 รูปลอน ได้แก่ ลอน Snaplock และลอน SSR760 และเทคโนโลยี StoneCoat ที่นอกจากจะช่วยลดเสียงที่หลังคาแล้ว ยังโดดเด่นด้วยผิวหลังคาที่เป็นเอกลักษณ์จากการเคลือบด้วยเม็ดหินควอตซ์เคลือบสีเซรามิก ที่สวยและแข็งแรงทนทาน พร้อมการรับประกันสีไม่ซีดสูงสุด 30 ปี
3. ด้านการประหยัดพลังงาน
ระบบหลังคาโซลาร์ เอสซีจี ให้ผู้บริโภคได้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ที่ทั้งช่วยประหยัดค่าไฟอย่างคุ้มค่าในระยะยาว และเป็นมิตรต่อโลก ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง (EXPERT) ด้านโซลาร์ และด้านหลังคา ซึ่งเป็นส่วนสําคัญในการติดตั้งโซลาร์โดยมีบริการตรวจสุขภาพหลังคาก่อนการติดตั้ง พร้อมนวัตกรรม Solar FIX ที่ติดตั้งหลังคาโซลาร์โดยไม่ต้องเจาะหลังคา ทําให้หลังคาไม่เสี่ยงต่อการรั่วซึม การให้บริการแบบครบวงจร (ONE STOP SERVICE) โดยออกแบบระบบโซลาร์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้ไฟของบ้านลูกค้า รวมถึงดําเนินการขออนุญาตกับทางภาครัฐ ทําให้การติดตั้งระบบหลังคาโซลาร์กับเอสซีจี ถูกต้องตามกฎหมาย 100% และบริการหลังการขาย (AFTER SALES SERVICE) ด้วยการรับประกันตลอด 25 ปี
ทำให้ดีและดียิ่งขึ้น เพื่อให้คุณมีชีวิตที่ดียิ่งกว่า
ที่ผ่านมา เอสซีจีถือเป็นหนึ่งในแกนหลักขับเคลื่อนเรื่องของการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมตามหลัก ESG ครอบคลุมทั้งกระบวนการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มาอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม “SCG Green Choice” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกสีเขียว ซึ่งเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคได้ใช้สินค้าเพื่อร่วมกันสร้างโลกให้ดีขึ้นร่วมกัน
สุดท้ายนี้ในนามสินค้าแบรนด์เอสซีจี ทั้งในกลุ่มสมาร์ทบอร์ดและกระเบื้องหลังคา คุณอัญชลีฝากคำขอบคุณไปยังผู้บริโภคทุกท่านที่ยังคงมั่นใจเลือกให้เอสซีจีเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจ
“ขอขอบคุณทุกเสียง ทุกคะแนน รวมถึงผู้บริโภคทุก ๆ ท่าน ที่มั่นใจเลือกให้สมาร์ทบอร์ดและกระเบื้องหลังคาของเอสซีจีเป็นที่หนึ่งในใจตลอดมา ทั้งนี้ เรายังมีวัสดุก่อสร้างอีกหลากหลายกลุ่ม เช่น ไม้สังเคราะห์ วัสดุตกแต่ง วัสดุตกแต่งภูมิทัศน์ ฉนวนกันความร้อน วัสดุอะคลูสติก พร้อมด้วยอีกหลากหลายนวัตกรรม ที่จะมามอบประโยชน์และตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยให้มีความสุขสบายมากขึ้น
เรายังคงยึดมั่นพร้อมให้คำสัญญาว่า จะรักษาคุณภาพที่ดีอย่างนี้ต่อไป ภายใต้แนวคิด ‘PASSION FOR BETTER’ ทำให้ดีและดียิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์คุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างยั่งยืน และมากกว่าการอยู่เคียงข้าง คือการส่งต่อแนวคิดเพื่อสังคมที่น่าอยู่กว่าเดิม นี่คือ PASSION ของเอสซีจี”
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ