
องค์ประกอบหลัก ๆ ของเทศกาลส่วนใหญ่ทั่วโลกมีร่วมกัน คือ เชื่อมโยงกับตำนานความเชื่อ สามารถรวมตัวคนหมู่มากได้ มีสัญลักษณ์ให้จดจำ และมีการแต่งตัวให้รับกับธีมของเทศกาล โดยหนึ่งในเทศกาลดังที่มีองค์ประกอบเหล่านี้ครบถ้วน คือ ฮาโลวีน
แม้ที่มาเชื่อมโยงกับเรื่องน่ากลัวอย่าง วิญญาณภูตผีปีศาจ แต่การได้แต่งชุดแฟนซีจึงทำให้เป็นเทศกาลที่สนุกและได้รับความนิยมไปทั่วโลก

ส่วนหากมองผ่านเลนส์ทางธุรกิจและการตลาด นี่คือ เทศกาลเงินสะพัดมหาศาล โดยแบรนด์ส่วนใหญ่ต่างพากันออกแคมเปญและสินค้าเกาะกระแส ผับบาร์ก็ให้ลูกค้าแต่งชุดแฟนซีมาเที่ยวเพื่อเพิ่มความคึกคักและสนุกสนาน
ขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวและวัยรุ่นก็พร้อมใจแต่งชุดแฟนซีออกไปกันยามค่ำคืน จนเกิดเป็นคลื่นคนในชุดแฟนซีต่าง ๆ เหมือนที่ย่านชิบูย่าในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ต่อเนื่องมากว่า 20 ปีจนมาเงียบเหงาไปเพราะถูกสั่งช่วงไม่กี่ปีมานี้เพื่อสกัดเหตุเบียดเสียด

หนึ่งในประเทศที่จริงจังกับฮาโลวีนมากสุดคือสหรัฐฯ โดยการนำฟักทองมาแต่งบ้าน และเด็ก ๆ แต่งชุดแฟนซีรวมตัวกันไปเล่น Trick or Treat ในละแวกบ้าน คือสิ่งที่เห็นกันเมื่อถึงคืนสิ้นตุลาคมของทุกปี และปีนี้อาจคึกคักมากสุดในรอบหลายปี

สมาคมค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐฯ (NRF) ประเมินว่าปี 2023 จะมีเงินสะพัดในเทศกาลฮาโลวีนทั่วประเทศ 12,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 441,000 ล้านบาท) เพิ่มจาก 10,600 ล้านดอลลาร์ (ราว 384,000 ล้านบาท) ของปี 2022 ขณะเดียวกันยังมากสุดในรอบ 6 ปี และมากเกินกว่าปี 2018 ก่อนเกิดวิกฤตโควิดอีกด้วย
ส่วนยอดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยอยู่ที่ 108 ดอลลาร์ (ราว 3,900 บาท) ต่อคน เพิ่มจาก 100 ดอลลาร์ (ราว 3,600 บาท) ของเมื่อปี 2022

และทำให้สินค้าที่เกี่ยวกับฮาโลวีนทั้งหมดตั้งแต่ของตกแต่ง ชุดแฟนซี และขนมกับลูกอมที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องซื้อไว้เตรียมเล่น Trick or Treat กับเด็ก ๆ ทั่วสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เงินสะพัดช่วงเทศกาลฮาโลวีนในสหรัฐฯ ปีนี้น่าสนใจ เพราะเป็นความคึกคักสวนกระแสเศรษฐกิจโลกซบเซา พร้อมแสดงให้เห็นว่า นี่คือเทศกาลที่ไม่กระทบจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งของกินของใช้ราคาแพงขึ้น
หลักฐานยืนยันถึงความคึกคักของฮาโลวีนในสหรัฐฯ ปีนี้ คือ โครงกระดูกจำลองสูง 12 ฟุตที่ห้างขายของแต่งบ้านและเครื่องมือช่าง Home Depot นำมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ ขายหมดไปเรียบร้อย ทั้งที่ราคาสูงถึงตัวละ 300 ดอลลาร์ (ราว 10,800 บาท)

ขณะที่ห้างค้าปลีกก็จัดนำสินค้ารับเทศกาลฮาโลวีนมาขายกันตั้งแต่ต้นตุลาคม เพื่อเตือนให้ผู้บริโภครู้ว่าเทศกาลนี้ใกล้มาถึงแล้ว ซึ่งปรากฏว่าขายดีเสียด้วย
ด้านนักวิชาการด้านตลาดสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่า การที่ฮาโลวีนเป็นเทศกาลที่ยังคึกคักอยู่เสมอ ไม่ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร เพราะผู้คนต้องการให้ชีวิตดำเนินไปเหมือนหรือใกล้เคียงกับช่วงสถานการณ์ปกติ

ประกอบกับตัวเทศกาลเองก็มีองค์ประกอบมากมาย และมีความสนุกสนาน ดังนั้นแบรนด์สินค้าจึงพร้อมเกาะกระแสและคว้าโอกาสทางธุรกิจด้วยการดันแคมเปญและออกสินค้ามาขาย

เช่นเดียวกับ ผับบาร์ ร้านอาหาร รวมไปถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ดังนั้น ในภาพใหญ่จึงทำให้เงินสะพัดมหาศาลนั่นเอง/bbc, nrf , visualcapitalist
–
