บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer) บริษัทร่วมทุนระหว่าง ธนาคารไทยพาณิชย์ ถือหุ้นสัดส่วน 60% และจูเลียส แบร์ 40% เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2562 ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 2,650,000,000 บาท (สองพันหกร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) โดยความร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นการผสานเอาจุดแข็งของทั้งสององค์กรชั้นนำจากสองมุมโลกมาไว้ด้วยกัน ในการนำความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การวางแผนและบริหารความมั่งคั่ง ตลอดจนประสบการณ์ในการดูแลลูกค้าผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงจากทั่วโลกกว่า 130 ปี ของจูเลียส แบร์ มาผสานเข้ากับจุดแข็งของธนาคารไทยพาณิชย์ที่มีความเข้าใจกลุ่มลูกค้าผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงในประเทศไทยอย่างลึกซึ้ง เพื่อดูแลและเพิ่มคุณค่าตลอดจนขยายโอกาสในการลงทุนทั่วโลกแบบไร้พรมแดนให้กับลูกค้าของ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์

นางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2566 ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ นำเอากลยุทธ์ The New Wave of Wealth” มาใช้เป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจ ตอกย้ำจุดยืนของการเป็นผู้นำด้านบริหารความมั่งคั่ง ซึ่งครอบคลุมและครบวงจรที่สุด เพื่อเจาะกลุ่มทายาทคนรุ่นใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 3 แกนสำคัญได้แก่

  1. Onshore & Offshore Investment: ลูกค้าไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ สามารถลงทุนทั้งในประเทศ (Onshore) และต่างประเทศ (Offshore) กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนแบบ holistic view อาทิ บริการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX Hedging), สินเชื่อเพื่อการลงทุนอย่างLombard Loan หรือ Property Backed Loan ซึ่งถือเป็น House แรกและที่เดียวในประเทศไทยที่สามารถดูแลและให้บริการได้แบบครบวงจร นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเข้าถึงทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพระดับสากลจากจูเลียส แบร์ รวมถึงทีม Estate Planning & Family Office ของธนาคารไทยพาณิชย์ได้อีกด้วย
  2. Human Touch: บริการที่เข้าใจกลุ่มลูกค้าคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือ Relationship Manager (RM) คนไทยที่มีความรู้ ความเข้าใจตลาดเมืองไทย เข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งในเชิงวัฒนธรรม วิถีชีวิตและแนวคิดของคนไทยด้วยกัน พร้อมให้บริการได้ทันทีเนื่องจากประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในประเทศไทย ด้วยการให้บริการแบบ Human Touch โดยมีเทคโนโลยีมาสนับสนุน (Human Touch with Digital Support) เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด และตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
  3. Seamless Access: การให้บริการผ่าน Open Product Platform ด้วยผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย และการวางแผนการส่งต่อความมั่งคั่ง (Wealth Planning) รวมทั้งบริการที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนได้อย่างอิสระ ทำให้สามารถกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด ตรงกับความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล (Tailored made) และเข้าถึงการลงทุนทั่วโลกได้อย่างแท้จริง

 

และในปีนี้ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ ได้เปิดหลักสูตรสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “The 45 Academia” เป็นปีแรก ภายใต้แนวคิด “Leader of Tomorrow” มุ่งปั้นผู้นำแห่งอนาคตที่มีพลังและสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมในทุกมิติ ผ่านการปูพื้นฐานด้านการลงทุนและเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation) ให้เข้าใจถึงการบริหารความมั่งคั่งอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยโปรแกรมพัฒนาศักยภาพตนเองอย่างเข้มข้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างยั่งยืน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นขององค์กร “Your Legacy. Our Promise.” ที่ลูกค้าสามารถเชื่อมั่นและไว้วางใจได้อย่างแท้จริง พร้อมตั้งเป้าภายในปี 2568 จะสามารถขึ้นแท่นผู้นำ International Private Banking ที่มีความเป็นเลิศด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร ให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (UHNWIs และ HNWIs) ของเมืองไทย

 

ผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนระดับเวิลด์คลาสเพื่อสร้างความมั่งคั่งสำหรับทุกคน

เพื่อให้สอดรับกับยุทธศาสตร์หลักของธนาคารไทยพาณิชย์ในการตั้งเป้าเป็นเจ้าตลาดทางด้านบริหารความมั่งคั่ง โดยการขยายกลุ่มความมั่งคั่งด้วยโมเดล Digital Wealth เปิดตลาด Emerging Wealth เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพและมีความต้องการที่จะสร้างความมั่งคั่งระยะแรกเริ่ม ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จึงได้นำเสนอโอกาสการลงทุนในกองทุนระดับเวิลด์คลาส ที่บริหารโดยผู้เชี่ยวชาญการบริหารการลงทุนระดับโลก โดยมี ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เป็นผู้รับมอบหมายงานด้านการจัดการลงทุนของกองทุน (Outsourced Fund Manager) ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งให้เป็นไปได้สำหรับทุกคน ทำให้กองทุนได้มีโอกาสเข้าถึงความเป็นเลิศในการบริหารเงินลงทุนของจูเลียส แบร์ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารจัดการความมั่งคั่ง และการลงทุนระดับพรีเมียมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือที่ Aa3 (Moody’s rating)  อีกทั้งยังเป็น 1 ใน Top 5 ของผู้ให้บริการด้าน Wealth Management ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียด้านสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (Asset under management)

 

กองทุนที่น่าสนใจที่ขอแนะนำมี 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Experts (ชนิดสะสมมูลค่า) SCBGEX(A) และ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Allocation (ชนิดสะสมมูลค่า) SCBGA(A)

 

  1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Experts (ชนิดสะสมมูลค่า) SCBGEX(A) : กองทุนหุ้นที่มีความเสี่ยงระดับ 6 เหมาะสำหรับผู้รับความเสี่ยงสูงได้ โดยกองทุนหลักได้คัดเลือก Julius Baer Global Excellence Equity fund ซึ่งกองทุนเรือธง (flagship) ประเภทกองทุนหุ้นของ Julius Baer ที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมาอย่างยาวนานด้วยสไตล์การลงทุนหุ้นคุณภาพดีทั่วโลกจากบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง มีงบดุลที่มั่นคง มีเงินสดแข็งแกร่ง รวมทั้งมีความสามารถในการทำกำไรที่เติบโตได้ดีในระยะยาวและสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ทำให้ SCBGEX(A) เป็นกองทุนแนะนำสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงหุ้นได้ โดยคาดหวังโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากหุ้นคุณภาพชั้นนำทั่วโลกที่ทางผู้จัดการกองทุนหลักของ Julius Baer คัดเลือกให้

 

  1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Allocation (ชนิดสะสมมูลค่า) SCBGA(A): กองทุนผสมที่มีความเสี่ยงระดับ 5 เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง สำหรับกองทุน SCBGA(A) นี้ ได้คัดเลือก Julius Baer Dynamic Asset Allocation fund ซึ่งเป็นกองทุนเรือธง (Flagship) ประเภทกองทุนผสมของ Julius Baer มาเป็นกองทุนหลัก โดยกองทุนหลักจะสะท้อนมุมมองและคำแนะนำในการจัดสรรสินทรัพย์ตาม Julius Baer House Views และบริหารอย่างใกล้ชิดโดย Julius Baer Global CIO ลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลายทั่วโลก ทั้งตราสารหนี้ หุ้นและสินทรัพย์ทางเลือก และมีการปรับพอร์ตให้เหมาะสมตามสถานการณ์ตลาด

ส่วนกองทุนเสริม (Satellite Funds) ที่ลงทุนใน SCBGEX(A) และ SCBGA(A) มุ่งหวังในการช่วยเสริมทัพเพิ่มเติมจากกองทุนหลักที่เป็นกองทุนชั้นนำบริหารโดย Julius Baer ผู้เชี่ยวชาญในการบริหารความมั่งคั่งในระดับโลก โดยกองทุนเสริมจะคัดเลือกมาจากกองทุนที่บริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมชั้นนำทั่วโลก เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างความสมดุลให้พอร์ต พร้อมลดโอกาสการขาดทุนในช่วงที่ตลาดผันผวนระยะสั้น และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว

 

#############



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online