เบอร์ดี้ เจาะกลยุทธ์ทำไมจึงครองใจผู้บริโภคในตลาดกาแฟพร้อมดื่ม

ภายใต้การดำเนินธุรกิจที่มุ่งสู่การเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดอย่างต่อเนื่อง หนึ่งสิ่งที่ “เบอร์ดี้” ทำควบคู่กันมาตลอดคือการสร้าง sustainability เพื่อให้สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจได้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน

ที่หยิบยกเอาเรื่องนี้มาพูดนั้น เพราะภายในงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2023 เบอร์ดี้ได้บอกเล่า Business Direction การดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมได้อย่างน่าสนใจ

“ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำในการสร้างความอยู่ดีมีสุข” (Leading in creation of Well-Being) ของกลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ ทำให้แบรนด์ในเครืออย่างเบอร์ดี้เดินหน้าส่งเสริมสุขภาพดีให้กับผู้คนผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มเบอร์ดี้ที่ได้รับ ‘Healthier logo-ทางเลือกสุขภาพ’ รวมถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ การใช้พลังงานสะอาด และที่สำคัญคือการสนับสนุนเกษตรกรไทยให้มีชีวิตที่ดีขึ้น” พิมพ์สร เลิศอุตสาหกูล ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจกาแฟ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

โดยการสนับสนุนเกษตรกรไทย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไร่กาแฟให้อยู่ดีกินดียิ่งขึ้น เบอร์ดี้ทำตั้งแต่การซื้อเมล็ดกาแฟโรบัสต้าจากเกษตรกรไทยมากกว่า 1,500 ตัน/ปี เพื่อนำมาผลิตเป็นกาแฟพร้อมดื่ม “เบอร์ดี้” ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยมากกว่า 100 ล้านบาท/ปี

กระทั่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไร่กาแฟให้อยู่ดีกินดียิ่งขึ้น ผ่านโครงการ Thai Farmer better life, partner ที่ขยายผลจากเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังมาสู่เกษตรกรผู้เพาะปลูกกาแฟโรบัสต้า ในคอนเซ็ปต์ “เกษตรกรมั่งคั่ง ด้วยการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน”

โดยเบอร์ดี้ได้เข้าไปมอบองค์ความรู้ตั้งแต่การปลูกต้นกาแฟ ดูแล ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพและลดการใช้สารเคมีให้น้อยลง ผ่านโครงการ Green Coffee Bean (GCB) Farmer Sustainability Project ที่นอกจากจะแนะนำการประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนซึ่งพัฒนาจากเทคโนโลยีเฉพาะของอายิโนะโมะโต๊ะ เพื่อลดการใช้สารเคมี และเพิ่มผลผลิตแล้ว ยังแนะนำสัดส่วนในการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมในการปลูกกาแฟให้กับเกษตรกรอีกด้วย

“เบอร์ดี้มุ่งส่งเสริมความยั่งยืนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ตั้งแต่การปลูก จนกระทั่งได้เป็นผลผลิตเมล็ดกาแฟคุณภาพดี หวังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไร่กาแฟให้ดีขึ้น ไปพร้อม ๆ กับการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค ตอกย้ำเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของเรา”

ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด

คุณพิมพ์สร ยังบอกอีกว่า ในปีที่ผ่านมากาแฟพร้อมดื่มเบอร์ดี้ได้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในกระบวนการผลิตมากถึง 9,000 ตัน หรือคิดเป็น 34% เมื่อเทียบกับปี 2018 โดยเลือกใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทนให้ได้มากที่สุด

ขณะที่กล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษของ เบอร์ดี้ ก็ทำจากเยื่อไม้จากป่าปลูก โดยมีการปลูกต้นไม้ทดแทน เพื่อให้ป่าต้นน้ำและระบบนิเวศไม่ถูกทำลาย หรือบรรจุภัณฑ์แบบขวดก็เป็นพลาสติกที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้

ล่าสุดกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มัดรวมเจตนารมณ์ของเบอร์ดี้ไว้ได้ครบอย่าง Birdy Café Series กาแฟพร้อมดื่มที่ผลิตจากเมล็ดกาแฟโรบัสต้าจากเกษตรกรไทย 100% ในรูปแบบขวดที่รีไซเคิลได้ สะดวก พกพาง่าย มีให้เลือก 2 รสชาติ คือ Birdy Café Black กาแฟดำ พร้อมดื่ม ไม่มีน้ำตาล ไม่หวาน เข้ม เต็มรสชาติ หรือ Birdy Café Latte กาแฟนม พร้อมดื่ม หวาน นุ่ม กลมกล่อม อร่อยโดนใจสาย Fresh Brew และยังมี Birdy Home Café Black กาแฟดำ แบบเข้มข้น ไม่มีน้ำตาล ไม่หวาน บรรจุในกล่องใหญ่ขนาด 1 ลิตร ตอบโจทย์คนรักสุขภาพหรือคนที่ชอบครีเอตเมนูใหม่ ๆ ด้วยตัวเอง ตามคอนเซ็ปต์ ‘เข้มโดนใจสายคาเฟ่ เต็มรสชาติทุกโมเมนต์’

“เทรนด์ของผู้บริโภคมีความหลากหลายมากขึ้น แต่เรื่อง “สุขภาพ” ยังคงเป็นเทรนด์หลักที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ ไปพร้อม ๆ กับเทรนด์รักษ์โลกที่หลายคนหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและรักษ์โลกมากขึ้น ซึ่งเบอร์ดี้เองใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษเพื่อ ‘สร้างความอยู่ดีมีสุข’ ให้กับผู้บริโภค เกษตรกรไทย และสิ่งแวดล้อม ท้ายที่สุดคือการให้ทุก ๆ คนได้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน”

#BirdyCoffeeFest

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer