ณ ปัจจุบันโลกการทำงานเปลี่ยนไปมากจากอดีตในหลาย ๆ ด้าน เช่น มีพนักงานมากถึง 4 รุ่นที่ทำงานร่วมกัน การทำงานจากบ้านแล้วเข้าออฟฟิศน้อยลงหรือแบบผสมผสาน (Hybrid Workspace) เป็นเรื่องปกติ
นอกจากนี้ รูปแบบการทำงาน ค่านิยม ทัศนคติต่อสมดุลชีวิตกับการทำงาน หรือแม้กระทั่งการสังสรรค์หลังเลิกงานของแต่ละรุ่นก็ต่างกันไป
Jeff Bezos
นี่ยังส่งผลให้อะไรที่ซีอีโอดัง ๆ คิดค้นขึ้น ที่เคยใช้การได้ดีเมื่อไม่กี่ปีก่อนถึงขั้นตกยุค โดยเมื่อปี 2018 Jeff Bezos มหาเศรษฐีระดับทอปของโลกชาวอเมริกันผู้ก่อตั้ง Amazon เผยว่า ที่บริษัทใช้กฎพิซซ่า 2 ถาดในการประชุม

เพราะจำนวนพนักงานที่เข้าร่วมด้วยจำนวนเท่ากับที่สามารถแบ่งพิซซ่ากันกินจากอาหารดังสัญชาติอิตาลีขนาด 2 ถาดเท่านั้น ไม่มากไม่น้อยเกินไป จึงประหยัดทั้งเวลาและงบในการประชุม
ขณะเดียวกันยังช่วยให้การประชุมไม่เครียดจนเกินไป และกระตุ้นให้ทุกคนตื่นตัวอีกด้วย เนื่องจากผู้ที่ต้องเข้ามาประชุมจะรู้ตัว พร้อมได้รับหัวข้อการประชุมคร่าว ๆ ก่อนหน้านั้นเพียง 30 นาทีเท่านั้น
Johnny Warstrom
แต่ Johnny Warstrom ซีอีโอรุ่นใหม่และผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มการนำเสนองาน Mentinmeter เห็นว่า กฎพิซซ่า 2 ถาดถึงคราวปลดระวาง
ทุกอย่างรวนเมื่อลนลาน: ตามที่ได้บอกไปในเบื้องต้นแล้วว่า หนึ่งในลักษณะเด่นของกฎพิซซ่า 2 ถาดคือ จะให้ผู้ที่ต้องเข้าประชุมได้ทราบเพียง 30 นาทีก่อนเข้าประชุม เพื่อให้เกิดการตื่นตัว แต่ Johnny Warstrom ไม่เห็นด้วย
เขามองว่า แนวทางดังกล่าวเป็นประโยชน์แค่กลุ่มที่ชอบข้อมูลที่กระชับ ๆ พอสังเขป และหัวไวเท่านั้น แต่กลับไม่เปิดพื้นที่และเผื่อเวลาให้กับผู้ที่ทำงานละเอียดหรือสื่อสารด้วยคำพูดไม่เก่งได้เตรียมข้อมูลให้พร้อม

ขณะเดียวกันผู้ที่มีนิสัยต่างกัน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นคนเปิดเผยและชอบเข้าสังคม (Extrovert) กับ ผู้ที่เก็บตัวและช่างคิด (Introvert) ก็ใช้เวลาเตรียมข้อมูลต่างกันด้วย โดยหากกลุ่มหลังไม่ได้เตรียมตัวมาดี อาจถึงใบ้กินหรือจมหายไปในการประชุม
ดังนั้น ถ้าอยากให้การประชุมเกิดประสิทธิภาพสูงสุดก็ไม่ควรเรียกประชุมแบบปุบปับเกินไป จนสมาชิกในการประชุมไม่มีเวลาเตรียมตัว
งานอาจคลานเป็นเต่า: ข้อถัดมาที่ Johnny Warstrom เห็นตรงข้ามกับ Jeff Bezos คือ จำนวนผู้เข้าประชุมที่เน้นน้อยเข้าไว้ ขนาดแค่พอกินพิซซ่า 2 ถาด
เขามองว่านี่จะทำเกิดภาวะคอขวดที่ข้อมูลกระจุกอยู่แต่กับหัวหน้างาน จนที่สุดงานเดินหน้าไปช้ากว่าตั้งไว้ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน จึงควรเรียกประชุมผู้มีส่วนรับผิดชอบมาเข้าร่วมมากสุด

Johnny Warstrom ชี้ถึงข้อเสียของการประชุมแบบจำกัดจำนวนคนด้วยว่า เสียเวลา ข้อมูลกระจายไปได้ช้า และยังเป็นเรื่องล้าสมัย เพราะมองข้ามกลุ่มพนักงานที่ทำงานอยู่บ้าน (Work from Home) และไม่ได้ใช้ประโยชน์ของแอปประชุมออนไลน์ต่าง ๆ ที่มีให้เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย
ไม่เห็นค่าของการมีส่วนร่วม: เหตุผลข้อสุดท้ายที่ Johnny Warstrom เห็นว่าการใช้กฎพิซซ่า 2 ถาดในการประชุมนั้นล้าสมัย คือ เป็นการประชุมเฉพาะผู้บริหาร หรือจากบนลงล่าง (Top Down)

ตรงข้ามกับจากล่างขึ้นไปข้างบน (Bottom Up) แบบที่พนักงานส่วนใหญ่ต้องการ และยังห่างไกลจากการมีส่วนร่วมและเปิดกว้างให้ความหลากหลายตามค่านิยมของสังคมยุคนี้อีกด้วย
ข้อมูลจากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างวัยทำงานในสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้ ระบุว่า หากเทียบเป็นสัดส่วนแล้วมีพนักงานเพียง 3 ใน 10 เท่านั้นที่บริษัทรับฟังหรือมองเห็นค่าของความคิดเห็นของพวกตน
นี่ส่งผลทำให้พนักงานตามบริษัทต่าง ๆ ท้อห่อเหี่ยวและไม่มีกำลังใจในการทำงาน ดังนั้น ถ้าอยากให้ประชุมแล้วได้งาน บริษัทก้าวหน้าอย่างที่หวังไว้
และพนักงานรู้สึกผูกพันกับบริษัทจนพร้อมทำงานให้เต็มที่ หัวหน้า ผู้บริหารไปจนถึงเจ้าของบริษัทควรฟังเสียงของพนักงานให้มากที่สุด/entrepreneur
–
