เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะเข้าสู่เดือนแห่งเทศกาลกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันในครอบครัวอย่าง “สงกรานต์”
เราจึงได้เห็นผู้ผลิตคอนเทนต์สร้างสรรค์หลายราย เริ่มปล่อยผลงานมุ่งหวังสร้างการรับรู้แก่คนรุ่นใหม่ พร้อมชวนสานสัมพันธ์กับคนรุ่นใหญ่ของบ้านไปในตัว สอดรับรายงานผู้สูงอายุชาวไทย ที่อยากใช้เวลากับผู้คนมากขึ้น
ยิ่งจำนวนประชากรในประเทศไทยปี 2566 อยู่ที่ 66 ล้านคน เป็นกลุ่มที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 13 ล้านคน หรือ 19.74% จากประชากรทั้งหมด ทำให้ไทยถูกนับเป็นสังคมผู้สูงวัยเต็มตัว เพราะอัตราดังกล่าวเท่ากับหรือมากกว่า 10% ขึ้นไป
กอปรกับประชากรแฝงที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในภูมิลำเนาในไทยปี 2565 อยู่ที่ 9.16 ล้านคน แบ่งเป็น ประชากรแฝงเข้ามาทำงานกลางคืน 8.18 ล้านคน
และประชากรแฝงกลางวัน 0.98 ล้านคน แบ่งเป็น เข้ามาทำงานกลางวัน 0.71 ล้านคน เข้ามาเรียนหนังสือกลางวัน 0.27 ล้านคน
กรุงเทพฯ เป็นจังหวัดที่ครองสัดส่วนประชากรแฝงมากสุดในทุกกลุ่ม เข้ามาทำงานกลางคืน 33.1% เข้ามาทำงานกลางวัน 59.1% เข้ามาเรียนหนังสือกลางวัน 54%
วันหยุดยาวในช่วงเทศกาล จึงมีความสำคัญสำหรับผู้บริโภคไทย โดยเฉพาะเมืองหลวง เพราะเป็นโอกาสสำคัญให้เหล่า “ประชากรแฝง” ได้กลับไปพบญาติผู้ใหญ่ หรือคนที่รักในบ้านตามภูมิลำเนา
ล่าสุด (27 มี.ค. 2567) จีดีเอช (GDH) ค่ายหนังที่ทรานส์ฟอร์มสู่ผู้ผลิตคอนเทนต์สร้างสรรค์ในหลากหลายแพลตฟอร์มช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ส่งกลยุทธ์การตลาดโปรโมตภาพยนตร์เรื่องแรกของปี 2567 ด้วยหนังที่จับกระแสสงกรานต์ของบ้านเราอย่าง “หลานม่า” หนังแนวแฟมิลี่ดราม่า เล่าเรื่องราวของ 2 ตัวละครหลักที่อายุห่างกัน 53 ปี
ด้วยวิธี “ประกาศวันหยุดพิเศษ” ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ของตัวเอง
“เนื่องด้วยบริษัทฯ เล็งเห็นว่า ‘เวลา’ คือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับทุกครอบครัวไม่ว่าจะในสถานะสามีกรรยา พ่อแม่ลูก ญาติพี่น้อง หรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์ของ ‘หลาน’ กับ ‘อาม่า’ / เนื้อความในย่อหน้าแรกของประกาศ
และ GDH ยังร่วมกับค่ายผู้ผลิตคอนเทนต์สร้างสรรค์ในหลากหลายแขนง ซึ่งมี Awareness สูงในกลุ่ม Gen Z จนถึงคนวัยทำงาน ปล่อยการโปรโมตผ่านกลยุทธ์ดังกล่าว มาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน วันเดียวกัน แบบนัดกันไว้ จนสร้างปรากฏการณ์ให้หลายบริษัท เลือกทำการตลาดแบบเดียวกัน และถือเป็นการได้โอกาสมอบของขวัญด้วยวันหยุดพิเศษ ให้บุคลากรในองค์กร จนกลายเป็นไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ตเวลานี้
สร้าง Earn Media ให้ผู้บริโภคซึ่งวางไว้เป็นผู้ชมกลุ่มเป้าหมาย รู้สึกอยากแชร์ จนกลายเป็นการช่วยโปรโมตให้ “หลานม่า” หนังแนวแฟมิลี่ดราม่า เล่าเรื่องราวของ 2 ตัวละครหลักที่อายุห่างกัน 53 ปี ที่จะเข้าฉายในวันที่ 4 เม.ย. 2567 (วันเดียวกับประกาศวันหยุดผ่านสาธารณะของ GDH)
หนังนำแสดงโดย เอ็ม (แสดงโดย: บิวกิ้น-พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์) คนรุ่นใหม่อายุ 23 ปี ที่ต้องกลับไปดูแล อาม่า อายุ 76 ปี (แสดงโดย: แต๋ว-อุษา แสนคำ) พัฒนาบทมาจากประสบการณ์ชีวิตจริงของผู้เขียนบทภาพยนตร์ของจีดีเอช และกำกับโดย พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับรุ่นใหม่
ตัวหนังใช้เวลาพัฒนานานกว่า 3 ปี โดยทีมผู้สร้างเผยว่า หนังมุ่งสร้างการรีเลตให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ “ไม่มีเวลาให้ผู้สูงวัยในบ้าน”
ซึ่งจะเห็นว่าสอดรับกับกลุ่มที่เป็นประชากรแฝงโดยตรงทีเดียว และมีการวางเส้นเรื่องเพิ่มอารมณ์ร่วมแก่ผู้ชมทุกคนที่ล้วนต้องเคยมีโมเมนต์ดี ๆ กับญาติผู้ใหญ่ที่บ้านแบบในหนัง ซึ่งด้วยภาระหน้าที่ก็ทำให้เราอาจจะหลงลืมมันไป
ตลอดจนการเกิดขึ้นของวิกฤตโรคระบาด เชื่อว่าตัวหนังยังจะทำให้ผู้ชมยิ่งตระหนักถึงความสำคัญของการใช้เวลากับ “คน (เคย) ข้างเคียงในบ้าน” มากขึ้น
–

