เอ.เบสท์ อินเตอร์ โปรดักส์ พัฒนาบรรจุภัณฑ์ ภายใต้กรอบความยั่งยืน
Marketeer มีโอกาสร่วมงานประกาศผล “Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 19” ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ Sasin จัดขึ้น ด้วยเล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริม SME ไทยให้แข็งแกร่ง สามารถพัฒนาคุณภาพและสร้างความแตกต่างที่โดดเด่น โดยมอบรางวัลให้กับธุรกิจ SME ที่สามารถสร้างความแตกต่างทางธุรกิจได้อย่างโดดเด่น และพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้อยู่รอดในทุกสถานการณ์ ด้วยพลังผู้ประกอบการควบคู่ไปกับการมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืน
สำหรับการตัดสินในปีนี้ได้คัดเลือก 5 ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพนำพาธุรกิจฝ่าฟันจนประสบความสำเร็จในมิติที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ บริษัท กราน-มอนเต้ จำกัด, บริษัท โกไฟว์ จำกัด, บริษัท ชู โกลบอล จำกัด, บริษัท ลายวิจิตร จำกัด
และอีกหนึ่งผู้ประกอบการคือ บริษัท เอ.เบสท์ อินเตอร์ โปรดักส์ จำกัด ได้รับรางวัล 3 มิติประกอบด้วย การบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer-Focused Product and Service) การบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการ (Operational Best Practice) และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) ซึ่ง คุณรุ่งโรจน์ บุนฑารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.เบสท์ อินเตอร์ โปรดักส์ จำกัด ให้เกียรติมาร่วมพูดคุยกับ Marketeer ถึงกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จในครั้งนี้

ปรับตัวรับทุกการเปลี่ยนแปลง
ด้วยจุดแข็งด้านคุณภาพ การจัดการ และบริการ
จากจุดเริ่มต้นธุรกิจโรงกลึงของรุ่นพ่อที่มีประสบการณ์ด้านงานเหล็กมายาวนาน ต่อมาลูกค้ามีความต้องการงานปั๊มเหล็กและโลหะ จึงพัฒนามารับงานปั๊มควบคู่ไปกับการขายเครื่องจักร คุณรุ่งโรจน์มุ่งมั่นที่จะพัฒนาต่อยอดธุรกิจด้วยการรับฟังความต้องการของลูกค้าเสมอ เมื่อมีลูกค้าจ้างให้ทำฝาน้ำหอมโลหะ แต่พบปัญหาความไม่พอดีเมื่อต้องนำฝาไปประกอบกับขวดของอีกบริษัทหนึ่ง จึงทำให้ทายาทอย่างคุณรุ่งโรจน์มองเห็นโอกาสจากความต้องการและ Pain Point ที่ลูกค้าเจอ นำมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจด้วยการผลิตบรรจุภัณฑ์ควบคู่ไปด้วย จนกระทั่งถึงช่วงที่เทรนด์ความนิยมบรรจุภัณฑ์เปลี่ยนไปเป็นพลาสติกมากขึ้น จึงขยายไลน์ธุรกิจมาผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกควบคู่ไปกับโลหะด้วย
“เราต้องปรับตัวอยู่เสมอ โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ เดิมทีเราเป็นบริษัทครอบครัวทํางานโลหะมาก่อน ต่อมาเริ่มมองว่าโลหะจะถูกแทนที่โดยพลาสติก จึงเริ่มปรับตัวมองหาช่องทางใหม่ ๆ เลยขยายไลน์เกี่ยวกับพลาสติกเพิ่มขึ้นมา รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตต่าง ๆ เรื่อยมา จากความถนัดแค่งานฝาจนกลายมาเป็นการสร้าง Product ขึ้นมาเอง เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม”
เมื่อยอดขายสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง คุณรุ่งโรจน์จึงก่อตั้ง บริษัท เอ.เบสท์ อินเตอร์ โปรดักส์ จำกัด ขึ้นมา เพื่อแยกธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางออกมาและพัฒนาธุรกิจสู่การออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางแบบครบวงจร โดยได้มาตรฐานระดับสากล ทั้ง ISO 9001 IATF รวมถึงอยู่ในระหว่างการดำเนินการขอ British Retail Consortium (BRCGS Packaging) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยนำเทคโนโลยีมาพัฒนากระบวนการผลิต ช่วยลดกำลังคน เพิ่มปริมาณผลผลิต และยังลดปริมาณการสูญเสียจากการผลิต
“เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาต่อยอดธุรกิจผ่านการรับฟังความต้องการของลูกค้า จากจุดเริ่มต้นธุรกิจโรงกลึงจึงขยายไลน์ธุรกิจมาผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกควบคู่ไปกับโลหะ โดยเป็นผู้ออกแบบและผลิตบรรจุภัณฑ์อะลูมิเนียม และพลาสติกสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ
เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญซึ่งสะสมประสบการณ์ด้านการผลิตและบริการมาเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบการจัดการที่ยอดเยี่ยมการันตีคุณภาพด้วยมาตรฐานระดับสากล ทั้ง ISO 9001 และ IATF โดยพัฒนากระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย”
ปัจจุบัน เอ.เบสท์ฯ ประกอบธุรกิจด้านการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางทั้งประเภทพลาสติก และอะลูมิเนียม เช่น ขวด กระปุก ฝา หลอดโฟม ตลับแป้ง จานแป้ง ชุดกระปุกอะลูมิเนียม และสินค้าพรีเมียมประเภทงานอะลูมิเนียม รวมไปถึงชิ้นส่วนยานยนต์
อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทต่าง ๆ มากมายในหลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจความงาม และสุขภาพ อาทิ สปา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ และเวชภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังรวมถึงบริการงานตกแต่งบรรจุภัณฑ์ เช่น งานพ่นด้าน และพ่นสีต่าง ๆ (Frosting) งานพิมพ์ซิลค์สกรีน งานปั๊มเงิน/ทอง (Hot Stamp) งานเคลือบด้วยระบบยูวี งานอโนไดซ์ และงานปั๊มตีตรา ด้วยจุดแข็งในเรื่องคุณภาพและการจัดการด้านสินค้า พร้อมด้วยบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเสมอมา
ขับเคลื่อนด้วยระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ตอบโจทย์คนใช้ ใส่ใจโลก
ในปัจจุบันพลาสติกถูกผลักให้กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของใครหลายคน ซึ่งคุณรุ่งโรจน์ให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ดี ในฐานะของผู้ประกอบการได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้พลาสติกเข้าสู่วงจรแห่งความยั่งยืน โดยนำแนวคิดระบบ “เศรษฐกิจหมุนเวียน” หรือ Circular Economy มาเป็นแกนหลักในการดำเนินการ และทำอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 8 ปี พร้อมจัดทำ ‘Zero Bin’ อันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ Zero Waste รวมถึงมีผลิตภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลเป็นทางเลือกให้ลูกค้า เพื่อ “ตอบโจทย์คนใช้ ใส่ใจโลก”
“แม้ว่าพลาสติกจะสามารถผลิตขึ้นรูปได้ตามความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค แต่ในอีกด้านหนึ่งก็เริ่มถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายโดยมีส่วนสำคัญกับการก่อมลพิษ เราจึงพยายามหาวิธีต่าง ๆ ภายใต้โจทย์ที่ว่า จะทำอย่างไรเพื่อให้พลาสติกกลับมายั่งยืนได้บ้าง จนตกผลึกมาสู่การใช้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนมาช่วย โดยการพยายามให้เกิดการหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ให้ได้มากที่สุด
ซึ่ง เอ.เบสท์ฯ เราทําเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 8 ปี แล้ว โดยเราไม่ได้มองว่าขยะที่ถูกทุกคนทิ้งจะกลายเป็นส่วนเกินหรือของเสียไปทั้งหมด แต่หากเราคัดแยกอย่างถูกวิธีเราจะสามารถนํากลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด
เพราะพอเริ่มคัดแยกให้เป็นสัดส่วน เราจะไม่เรียกว่าขยะแล้ว แต่จะเรียกว่าเป็น ‘วัสดุ’ อาจจะเป็นพลาสติก กระดาษ แก้ว ผ้า หรือเป็นอะไรต่าง ๆ เราก็จะใช้ความชำนาญของเรามาดูว่าสามารถทําอะไรกับวัสดุนั้น ๆ ได้บ้าง
อย่างกลุ่มพลาสติก ก็มาฉีดเป็นข้าวของต่าง ๆ ให้กลายเป็น Product ที่ใช้ในชีวิตประจําวันได้หลากหลาย อย่างไรก็ดี เราไม่ได้ใช้ในกลุ่มเครื่องสําอาง เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า ทั้งนี้ เรายังมีการ Creative อยู่ตลอดเวลา โดยนำจุดเด่นจาก Know How เดิมที่ทั้งงานโลหะและพลาสติกเข้ามาประยุกต์ใช้ ผสมผสานกับความรู้ใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ากันเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับ Product ได้มากมาย
ซึ่งผมมีแนวคิดอยู่ว่า ‘ขยะไม่มีอยู่จริง’ เพราะทุกอย่างมีค่า เพียงแต่เราไม่เห็นเองเท่านั้น ดังนั้น เราจึงจัดทำ ‘Zero Bin’ อันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ Zero Waste คือ เราเก็บถังขยะออกหมดเลย ซึ่งก็จะเกิดคำถามว่า ‘แล้วจะทิ้งที่ไหน’ คำตอบคือ ‘เราจะแยกให้’ กระดาษ ขวด หลอดล้างแล้ว หรืออื่น ๆ จะทิ้งในที่ของตัวเองเป็นการบังคับกันในตัว ซึ่งถ้าเราทําตรงนี้เป็นวงกว้าง ขยะกว่า 90% ของทั้งหมดจะหายไป”

ส่งเสริมผลักดัน สร้างจิตสำนึกรักษ์โลกร่วมกัน
คุณรุ่งโรจน์ เสริมว่า เทรนด์รักษ์โลกถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของผู้ประกอบการด้านพลาสติก ซึ่งสิ่งสำคัญที่องค์กรควรดำเนินการ นอกจากลงมือทำ ยังต้องส่งเสริมและผลักดันให้ทุก ๆ คนเข้ามาอยู่ในวงจรอนุรักษ์เพื่อรักษาโลกของเราให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
“เราชูเรื่องการรักษ์โลกให้เป็นเรื่องหลักขององค์กร โดยได้ตั้งหมวดหมู่ใหม่ขึ้นมา เรียกว่า ‘อุตสาหกรรมรักษ์โลก’ ซึ่งจะดำเนินการภายใต้กรอบของเศรษฐกิจหมุนเวียน คือ เรามองออกแล้วว่า ความรู้ด้านวัสดุศาสตร์ของเราสามารถนำขยะต่าง ๆ กลับมาแปรรูปได้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่การที่จะให้คนนำกลับมาให้เรานั้นเป็นความท้าทายอย่างมาก คือ ทุกคนร่วมกันสร้างขยะ แต่จะทําอย่างไรให้เขาส่งกลับมาให้เราได้ ซึ่งเราต้องดีไซน์ขั้นตอนและสื่อสารให้ชัดเจน
เรามองว่าทุกคนควรมีส่วนร่วม บางคนเข้าใจเป็นอย่างดีในเรื่องการคัดแยกขยะและส่งกลับอย่างถูกต้อง ขณะที่หลาย ๆ คนยังมองว่า ทำไปทำไมหรือไม่รู้ว่าจะแยกไปทําไม สิ่งสำคัญที่เราต้องทำคือ สื่อสารให้กลุ่มนี้รู้ว่า เราทําได้ และแปรรูปให้เขาเห็นภาพ หรือแม้กระทั่งเขาบอกต้องล้างก่อนทิ้งแล้วเปลืองน้ำยา เราก็ทำแจกเลย หรือตรงไหนที่ติดขัดเราก็พยายามแก้ให้เขาให้อย่างเต็มกำลัง
บางทีผมขับรถไปไกลมาก เพื่อไปเอาขยะนิดเดียว แต่ผมก็ทํา เพราะเรามองว่า ทําไปก่อน ทำให้เขาเห็นและค่อย ๆ ซึมซับกันไป แล้วค่อยหาโซลูชั่นใหม่ ๆ เพื่อให้เขาทิ้งและเราเก็บได้อย่างสะดวก ซึ่งตอนนี้ทำเป็นโครงการอย่างชัดเจน เริ่มเกิดโซลูชั่นขึ้นมาเรื่อย ๆ และตั้งเป้าจะขยายให้ครอบคลุมต่อไป”

เอ.เบสท์ อินเตอร์ โปรดักส์
ตั้งเป้าผู้นำธุรกิจ สู่ Top 3 ในระดับภูมิภาค
พร้อมสานต่ออุตสาหกรรมรักษ์โลกอย่างยั่งยืน
สำหรับเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจนั้น คุณรุ่งโรจน์ตั้งเป้าว่า จะขับเคลื่อน “เอ. เบสท์ฯ” สู่ Top 3 ของอาเซียนอุตสาหกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสําอาง ไปพร้อมกับผลักดันธุรกิจใหม่อย่าง “อุตสาหกรรมรักษ์โลก” ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
“ในไลน์ธุรกิจเดิมของ ‘เอ. เบสท์ฯ’ เราอยากเป็นหนึ่งในสามของอาเซียนในสายบรรจุภัณฑ์เครื่องสําอาง ส่วนธุรกิจใหม่อย่าง ‘อุตสาหกรรมรักษ์โลก’ เบื้องต้นไม่ได้มองเรื่องผลกําไร แค่เราอยากมีส่วนร่วมในการที่จะช่วยโลกให้มากที่สุด เพราะในฐานะที่เราเป็นโรงงานผลิตพลาสติก ถ้าเรายิ่งทำตรงนี้ได้ดีเท่าไรก็จะยิ่งเป็นผลดีกับโลกของเรามากเท่านั้น
ตอนนี้เราจึงเดินหน้าเต็มกำลังที่จะนำพลาสติกในโรงงานมารีไซเคิลใหม่ บางส่วนนำไปทําเป็น Product ได้ก็ทำ หรือบางส่วนไม่ได้ก็จะใช้ไปทําเป็นวัสดุอื่น ๆ ซึ่งมีแนวทางอีกมากมาย มองภาพไว้ว่า อนาคตอีกสัก 20 ปีข้างหน้า คงมีการแตกสาขาในส่วนของอุตสาหกรรมรักษ์โลกไปอย่างกว้างไกล
ถึงวันนั้นอาจจะไม่ต้องพึ่งโลหะหรือพลาสติกอีกแล้ว เป็นอุตสาหกรรมรักษ์โลกอย่างเต็มตัวก็เป็นไปได้ ซึ่งเราก็พร้อมที่จะปรับตัวไปกับทุก ๆ การเปลี่ยนแปลง และเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค”
ไทยพาณิชย์และศศินทร์พร้อมผลักดันให้ SME ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์ดำเนินนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจ SME มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านบริการทางการเงิน การให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพผ่านโครงการอบรม สัมมนาต่าง ๆ พร้อมกับเพิ่มโอกาสในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจเพื่อให้ SME เติบโตไปด้วยกัน
และร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดมอบรางวัล “Bai Po Business Awards by Sasin” เพื่อยกย่อง SME ไทยที่สามารถสร้างความแตกต่างและโดดเด่นในมิติต่าง ๆ
รวมถึงมีพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้อยู่รอดได้ทุกสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการมุ่งสร้างความยั่งยืน ซึ่งนอกจากมอบรางวัลแล้ว ยังติดตามพัฒนาการของผู้ได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องในระยะยาว พร้อมแนะนำส่งเสริมทุกธุรกิจให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพื่อผลักดันให้ SME ไทยได้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
