M-150 เปิดกลยุทธ์ครองบัลลังก์ผู้นำในวันที่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังแข่งเดือด
สร้างกระแสได้เป็นอย่างดี สำหรับการเดินเกมรุกของ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP กับการคว้าสองหนุ่ม “คัลแลน–พี่จอง” ยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยวชื่อดังในโลกออนไลน์ที่มียอดผู้ติดตามกว่า 5 ล้านคน มานั่งแท่นพรีเซนเตอร์คนล่าสุด โปรโมตตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “M-150 SPARKLING” เครื่องดื่มผสมกาเฟอีนอัดก๊าซ เพื่อเจาะกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ Gen Z และกลุ่ม Millennial ที่มีความต้องการเครื่องดื่มพลังงานในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งกลยุทธ์ Idol Marketing ในครั้งนี้สามารถดันยอดขาย M-150 SPARKLING เติบโตถึง 2 เท่า ภายในเวลาแค่ 3 เดือน
การเดินกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งของเครือโอสถสภาในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำผู้นำตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังอันดับหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีหลายแง่มุมที่น่าสนใจ Marketeer พาไปเจาะลึกพร้อมกัน
ผลิตภัณฑ์หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกเซกเมนต์
กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยในไตรมาส 1/2567 กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศเติบโต 11.9% (เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว) และมีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังรวม 46.4%
ทั้งนี้ ตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในบ้านเราถือเป็นสมรภูมิที่ดุเดือดมาก อย่างไรก็ดี M-150ได้พัฒนาแบรนด์มาอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ตั้งแต่เรื่องตัวผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ พร้อมด้วยจุดแข็งด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ (Brand Portfolio) สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทุกเซกเมนต์
เสริมด้วยช่องทางกระจายสินค้า ช่องทางวางจำหน่าย และกลยุทธ์การตลาดแบบรอบด้านหลากหลายที่จะสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ เพื่อมัดใจกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ทั้งรุ่นเก๋าและรุ่นใหม่ ตลอดจนการสื่อสารที่ครบวงจรทั้งออฟไลน์และออนไลน์ จนทำให้แบรนด์สามารถครองแชมป์อันดับหนึ่งอย่างแข็งแกร่งด้วยส่วนแบ่งการตลาดถึง 32.2%

ผู้นำตลาดพรีเมียมที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
มอนิเตอร์ลงไปในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังพรีเมียม หรือกลุ่มราคา 12 บาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่ M-150 เป็นผู้นำอย่างแข็งแกร่งด้วยตัวเลขการเติบโตต่อเนื่อง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคอยู่เสมอ
กุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนให้เดินหน้า คือ “ช่องทางกระจายสินค้า” ซึ่งทราบกันดีว่า “สายส่ง” ของโอสถสภาถือเป็นระดับแถวหน้าของบ้านเรา ด้วยทีมขายกว่า 550 สายทั่วประเทศ เจาะลึกทุกพื้นที่ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกจุดแบบเจาะลึก พร้อมเสิร์ฟสินค้าถึงจุดขายอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ผนึกกำลังด้วยการส่งทีมกิจกรรมเชิงรุกกว่า 100 ทีมทั่วประเทศ ไปร่วมลงพื้นที่ ณ จุดขาย เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมผลักดันกิจกรรมเชิงรุกเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดของแบรนด์
รวมไปถึงจัดแคมเปญต่าง ๆ เพื่อคืนกำไรกลับสู่พี่น้องชาวไทยที่ชื่นชอบและสนับสนุนเครื่องดื่ม M-150 เสมอมา อาทิ แคมเปญ “ปลดหนี้ทุกวัน หมื่น แสน ล้าน” เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคที่เผชิญกับปัญหาหนี้สินในครัวเรือนจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยจับมือกับช่องเวิร์คพอยท์ 23 มาร่วมส่งพลังและกำลังใจ ช่วยผ่อนคลายภาระให้พี่น้องชาวไทยได้ปลดหนี้
นี่คือการนำเทคนิคการทำการตลาดแบบ Offline to Online มาผนึกกับกลไกการเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งกลุ่มที่เริ่มมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Adoption) และกลุ่มที่ยังคงความถนัดแบบดั้งเดิม ให้สามารถมีส่วนร่วมกับกิจกรรมได้อย่างทั่วถึง

สร้างตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง 10 บาทให้ยั่งยืน
ผ่านแคมเปญที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ถูกจุดและตรงกลุ่มเป้าหมาย
ข้ามมาที่กลุ่มเครื่องดื่มบำรุงกำลัง 10 บาทM-150มี Product Hero อย่าง “เอ็มน้ำผึ้ง 10 บาท” เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันต่อสู้ในสงครามราคาของกลุ่มนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง
นอกจากตัวผลิตภัณฑ์ที่ลงตัวและตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างตรงจุด M-150ยังติดอาวุธด้วยกลยุทธ์การตลาดต่าง ๆ พร้อมแคมเปญที่รันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแท็กทีมกับหนึ่งในพรีเซนเตอร์ตัวตึงของแบรนด์อย่าง “แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก” มาร่วมสยบทุกความร้อน ป้อนความสนุก กับแคมเปญ “#ซิ่งเกินร้อย #เอ็มร้อย10บาท” ที่ใช้กลยุทธ์ Music Marketing กับเพลงสะกิดใจวัยรุ่นอย่าง “โคตรซิ่ง” มาระเบิดความสนุกทั่วไทยจนฮิตติดลมบน
แบรนด์ยังได้เพิ่มกลยุทธ์ Omnichannel Customer Engagement สร้างการมีส่วนร่วมกับแบรนด์แบบหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมลุ้นรางวัลพิเศษกับ MV เพลง “โคตรซิ่ง” หรือการทำ TIKTOK Challenge “ดื่ม เต้น กับเอ็มร้อย 10 บาท” กับเหล่าคนดัง ไปจนถึงการทำ Offline Activation ตามจุดเล่นน้ำสำคัญทั่วประเทศตลอดเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งสร้างสีสันและการรับรู้ได้เป็นอย่างดี
การทำการตลาดที่ประสบความสำเร็จอย่างมากนี้ ทำให้กลุ่มสินค้า “เอ็มน้ำผึ้ง 10 บาท” มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ แบรนด์ยังมีแผนรุกชิงส่วนแบ่งตลาดผ่านแคมเปญ “หมอลำโคตรซิ่ง” ร่วมกับ 4 คณะหมอลำชั้นนำขวัญใจคนไทยในภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ คณะระเบียบวาทศิลป์ คณะประถมบันเทิงศิลป์ คณะหมอลำใจเกินร้อย และคณะอีสานนครศิลป์ เพื่อร่วมผลักดันหมอลำสู่การเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ของเมืองไทย พร้อมกับสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มเป้าหมายอย่างสร้างสรรค์ อีกด้วย
“มิโซซ่า” ไม้เด็ดครองใจคนรุ่นใหม่
ถูกจุด ตรงใจ ในที่ที่ใช่
อย่างที่กล่าวไปว่าM-150ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนานวัตกรรมเครื่องดื่มบำรุงกำลังในรูปแบบใหม่ ๆ มาสร้างความคึกคักให้กับตลาดอยู่เสมอ ทำให้ปลายปี 2566 ที่ผ่านมาทุกคนได้รู้จักกับ “M-150 SPARKLING” เครื่องดื่มผสมกาเฟอีนอัดก๊าซในรูปแบบกระป๋อง ที่ปักธงรบเปิดตลาดใหม่ด้วยจุดขายที่แตกต่าง มุ่งเจาะตลาดพรีเมียมกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ที่ต้องการเติมพลังความสดชื่นระหว่างวัน ด้วยจุดขายที่เน้นความซ่า ความสดชื่น จนได้รับกระแสตอบรับที่ดีในตลาดและมีแนวโน้มการขายเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว
เมื่อผนึกกำลังกับการเข้ามาของพรีเซนเตอร์อย่างสองคู่หูยูทูบเบอร์ชื่อดังจากแดนกิมจิ “พี่จอง-คัลแลน” ผู้ริเริ่มตำนาน “มิโซอับลม” มาร่วมสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ในกลยุทธ์ Idol Marketing ที่แบรนด์ช่ำชอง จนสร้างกระแสความร้อนแรงให้กับเครื่องดื่ม M-150 SPARKLING บนโซเชียลมีเดีย จนดันยอดขายให้เติบโตแบบฉุดไม่อยู่ไปแล้ว
ต้องยอมรับว่าM-150เดินกลยุทธ์ได้ “ถูกจุด ตรงใจ ในที่ที่ใช่” อย่างแท้จริง ซึ่งการตอบรับที่ยอดเยี่ยมของผู้บริโภคที่มีให้กับผลิตภัณฑ์M-150 SPARKLING คือหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุด สะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์มีการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผ่านการทำการตลาดเชิงบริบทและพื้นที่ (Contextual & Field Marketing) ผนวกกับการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่เฉียบคม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม จึงทำให้M-150สามารถครองตำแหน่งแชมป์อันดับหนึ่งในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังมาได้อย่างมั่นคงและยาวนาน
–
Website : Marketeeronline.co /
