ถ้าแฟนอเมริกันเกมคงตั้งตารอชมเกม Super Bowl ครั้งที่ 59 ในวันที่ 10 ก.พ. ที่จะถึงนี้
(ถ้าตามเวลาบ้านเราก็แข่งกันแต่เช้า 06.30 น.)

ส่วนคนโฆษณาและการตลาดก็คงไม่พลาดหนังโฆษณา ที่จะเตรียมมาฉายระหว่างเกมการแข่งขัน Super Bowl ในทุก ๆ ปีเช่นกัน

Super Bowl ถือเป็นหนึ่งในอีเวนต์กีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาดึงดูดผู้ชมหลายสิบล้านคนในแต่ละปี

ช่วงเวลาพักเบรกระหว่างการแข่งขันจึงกลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาทองที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มหาศาล และนั่นทำให้ค่าซื้อโฆษณาระหว่างถ่ายทอดสดมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี

นับเวลากันที่ 30 วินาที

– Super Bowl LVI ครั้งที่ 56 ปี 2022
ราคาค่าโฆษณาอยู่ที่ประมาณ 6.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 219 ล้านบาท

– Super Bowl LVII ครั้งที่ 57  ปี 2023
ราคาค่าโฆษณาสูงขึ้นเป็น 7 ล้านดอลลาร์ หรือราว 236 ล้านบาท

– Super Bowl LVIII ครั้งที่ 58  ปี 2024
ไม่มีข้อมูลระบุ

– Super Bowl LIX ครั้งที่ 59 ปี 2025:
คาดว่าราคาค่าโฆษณาจะพุ่งขึ้นไปถึง 8 ล้านดอลลาร์ หรือราว 269 ล้านบาท

ที่ช่วงเวลาเป็นเงินเป็นทองขนาดนี้ หนังโฆษณาไหนดี โฆษณาไหนสนุก และได้ออนแอร์มักถูกแชร์และพูดถึงบนโซเชียลมีเดีย

ส่งผลให้มีมูลค่าทางการตลาดต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี อีกทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ระดับโลกไปในตัว

Marketeer เลยอยากหยิบเอาโฆษณา 3 ชิ้นที่เตรียมฉายใน Super Bowl ปีนี้ ที่มาพร้อมกับไอเดียสนุก เข้าใจง่าย มาให้ทุกคนได้ดูไปด้วยกัน พร้อมแล้วเริ่ม!

 

HÄAGEN-DAZS – “NOT SO FAST, NOT SO FURIOUS”

ทุ่มทั้งค่าโฆษณา ทุ่มทั้งค่าตัวนักแสดง! HÄAGEN-DAZS ปีนี้จับ 3 นักแสดงจากครอบครัวสายซิ่ง Fast And Furious อย่าง วินดีเซล ลูดาคริส และมิเชล โรดริเกซ มาพลิกบทบาทจากที่เราคุ้น เปลี่ยนฉากขยี้คันเร่งให้กลายเป็นหนังโรแมนติกซะอย่างนั้น เพราะเจอความละมุนลิ้นไอศกรีมแท่งวานิลลามิลค์ช็อกโกแลตอัลมอนด์เข้าไป

ความสนุกของหนังชิ้นนี้ คือ ใครดูก็เข้าใจ ยิ่งเป็นแฟนหนัง Fast And Furious
ยิ่งเก็ตถึงความละมุนของไอศกรีม HÄAGEN-DAZS รสนี้ที่เปลี่ยนให้ขาซิ่งหวานหยดย้อยได้ขนาดนี้!

 

Hellmann’s – When Sally Met Hellmann’s

โฆษณาชิ้นนี้พา เม็ก ไรอัน และ บิลลี่ คริสตัล กลับมาร่วมฉากในตำนานจากภาพยนตร์ When Harry Met Sally ที่ฉายตั้งแต่ปี 1989 อีกครั้ง แต่ครั้งนี้อร่อยถึงจุดถึงใจสุดฟินเพราะนางเอกได้กินแซนด์วิชที่ทาด้วยมายองเนสของ Hellmann’s แทนที่จะเป็นฉากเสียงสยิวแบบเดิมในร้านอาหารที่โด่งดังตามภาพยนตร์

ความสนุกของหนังชิ้นนี้ คือการใช้ท่าไม้ตายของการทำหนังโฆษณาหลาย ๆ เรื่อง ที่ชอบหยิบเอาฉากเอาโมเมนต์จากหนังดัง ๆ มาใส่ในหนังโฆษณาเพื่อให้ทุกคนจดจำได้ และเข้าใจเรื่องราวได้ทันที

When Harry Met Sally ปี 1989

Pringles The Call of The Mustaches

อยู่ในปาร์ตี้มันฝรั่งทอดกรอบพริงเกิลส์หมดก็ต้องขอพลังจาก “ชาวหนวด” ด้วยการเป่ากระป๋องพริงเกิลส์เรียก!

ซึ่งทำให้หนวดของเหล่าคนดังในอเมริกา อย่าง เจมส์ ฮาร์เดน (นักบาส NBA) แอนดี รีด (โค้ชอเมริกันฟุตบอล) นิค ออฟเฟอร์แมน (นักแสดง) รวมถึง มิสเตอร์โปเตโตเฮด จากการ์ตูนทอยสตอรี่ ต้องสละหนวดเพื่อส่งความช่วยเหลือรวบรวมพริงเกิลส์จากทั่วทุกทิศมุ่งสู่งานปาร์ตี้อีกครั้ง

ความสนุกของชิ้นนี้ไม่ใช่รวบรวมชาวหนวดคนดังที่ตรงกับโลโก้สุดเอกลักษณ์ของพริงเกิลส์มาเล่นในโฆษณาชิ้นเดียวเท่านั้น แต่พวกเขายังนำไอเดียนี้เป็นคลิปสั้น ๆ เช่นสัมภาษณ์ชาวหนวดคนดังว่าชอบพริงเกิลส์รสไหน หรือทำคลิปไวรัลส่งพริงเกิลส์ให้ชาวหนวดต่อ ๆ กันจนคนดูเป็นล้านวิวก่อนหน้า

เรียกได้ว่าใช้ทั้งเรื่องหนวดอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาเล่น รวมถึงการเป่ากระป๋องพริงเกิลส์แล้วมีเสียงก็เชื่อว่ามีใครหลายคนเคยลองทำเช่นกัน

ข้อมูล:

https://thestandard.co/why-super-bowl-ads-most-expensive/

https://marketeeronline.co/archives/399408

https://www.creativeboom.com/insight/the-8-best-super-bowl-ads-of-2025-and-why-they-work/

https://abcnews.go.com/Entertainment/meg-ryan-learned-fake-harry-met-sally/story?id=24528899


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer