Trends / เมื่อสถานการณ์บีบคั้นผู้คนอาจยอมทำสิ่งที่ไม่เคยทำเพื่อความอยู่รอด แม้สิ่งนั้นผิดทั้งกฎระเบียบสังคม และกฎหมาย เช่นข้อมูลสะท้อนถึงปัญหาในประเทศที่ผู้คนมีระเบียบ วางตัวดี และกิริยามารยาทงดงาม จนได้ชื่อว่า “เมืองผู้ดี” ที่จะกล่าวถึงในบรรทัดถัดจากนี้

สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกอังกฤษ (บีอาร์ซี) ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นเมื่อปี 2024 ผ่านกลุ่มตัวอย่าง 2,000 คน ปรากฏว่า 24% ตอบว่าเห็นการลักเล็กขโมยน้อยหรือหยิบสินค้าโดยไม่จ่ายเงินตามห้างร้านต่าง ๆ และ 23% เห็นว่าพนักงานถูกคุกคามทางร่างกายหรือวาจา เมื่อไปตักเตือนหรือควบคุมตัวผู้ทำผิด

พร้อมกันนี้ยังมีข้อมูลน่าตกใจอีกว่า เมื่อปี 2024 มีเหตุลักเล็กขโมยน้อยตามห้างค้าปลีกในอังกฤษ รวมถึงกลุ่มประเทศสหราชอาณาจักร มากถึง 55,000 ครั้งต่อวัน เพิ่มขึ้นถึง 50% จากปี 2023 โดยเมืองที่เกิดบ่อยสุดคือ เซาธ์แธมตัน, ลีดส์ และ แมนเชสเตอร์

ส่วน ลิเวอร์พูล ไบรท์ตัน และเชฟ์ฟิลด์ ยังถือว่าค่อนข้างน้อย ท่ามกลางข้อมูลเพิ่มเติมว่า เกือบทั้งปี 2024 ธุรกิจค้าปลีกของอังกฤษเสียหายจากอาชญากรรมประเภทนี้เป็นเงินถึง 2,000 ล้านปอนด์ (ราว 87,000 ล้านบาท)

ขณะที่ตัวเลขจากสำนักสถิติแห่งชาติอังกฤษ (โอเอ็นเอส) ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยปี 2024 ตำรวจอังกฤษและเวลส์ได้รับรายงานการก่อเหตุขโมยของในห้างมากกว่า 492,000 ครั้ง เพิ่มจากปี 2023 ถึง 23% ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นมากสุดนับตั้งแต่มีการเก็บสถิติเมื่อปี 2003

สื่ออังกฤษวิเคราะห์ว่าที่ปัญหาแฝงนี้รุนแรงเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุแรก คือค่าครองชีพ  วิกฤตเศรษฐกิจ และราคาสินค้าแพง บีบให้คนยอมทำผิด ขโมยของตามห้างทั้งเพื่อไปใช้เองและไปขายแลกเป็นเงินในตลาดมืด

สาเหตุต่อมา มาจากเจ้าของกิจการไม่ลงทุนในระบบหรือเทคโนโลยีด้านรักษาความปลอดภัย หรือตรวจจับการขโมยเพิ่ม เพราะเห็นว่าเงินที่ลงไปในส่วนนี้มากพอสมควรอยู่แล้ว ซึ่งผลกระทบที่ตามมาไม่ใช่แค่การดูแลไม่ทั่วถึงเท่านั้น แต่ยังทำให้พนักงานเสี่ยงถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ส่วนสาเหตุสุดท้ายคือ พนักงานตามห้างค้าปลีกบางส่วนทำเป็นปล่อยผ่าน ทั้งด้วยความเห็นใจผู้ก่อเหตุ และคิดว่าเป็นการป้องกันตัวเองจากการถูกผู้ก่อเหตุทำร้าย ท่ามกลางรายงานว่า ผู้ก่อเหตุบางคนใช้ทั้งอาวุธและพฤติกรรมรุนแรงต่าง ๆ นานา  

สื่ออังกฤษสรุปทิ้งท้ายแบบสะท้อนสถานการณ์และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมหาทางแก้ไขเพื่อปกป้องธุรกิจค้าปลีกและร้านสะดวกซื้อที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของประชาชน ไว้ว่า

เจ้าของร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กบางแห่งกำลังรับมือกับการที่ต้องเจ็บตัวและขาดทุนจากการถูกขโมยที่วิกฤตเหลือเกินช่วงหนึ่งถึงสองปีมานี้ต่อไปไม่ไหว โดยหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นอาจปิดกิจการ แม้นี่คือธุรกิจที่เลี้ยงทั้งครอบครัวและอยู่คู่ชุมชนที่อาศัยอยู่มากกว่า 40 ปีก็ตาม/theguardian, bbc


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer