“ทำไมเราต้องเข้าใจความรู้สึกคนอื่น ทั้งที่ไม่มีใครเคยเข้าใจเราเลย?”
คำถามนี้เจ็บแปลบ… แต่จริงมาก

ในโลกที่ดูเหมือนใจร้ายขึ้นทุกวัน บางครั้งเรารู้สึกว่า…
คนรอบตัวไม่เคยรับรู้ ไม่เคยแคร์ และไม่เคยเห็นว่าเราเจ็บปวดแค่ไหน
แล้วทำไม เราถึงยังต้องอ่อนโยนกับโลกใบนี้?

คำตอบอาจไม่ได้มาในรูปของเหตุผลที่ชัดเป๊ะ
แต่มาในรูปของการ ฮีลใจตัวเองก่อนจะฮีลใจคนอื่น

Step 1: เข้าใจว่าการมี Empathy คือการทำเพื่อตัวเราเองก่อน

หลายคนเข้าใจผิดว่า empathy = เป็นคนดี = ต้องเสียสละ
แต่จริง ๆ แล้ว empathy ไม่ใช่การยอมให้ตัวเองถูกเหยียบ
มันคือ พลังเงียบ ๆ ที่ปกป้องใจเราไม่ให้แข็งกระด้าง

เมื่อเราเข้าใจคนอื่นได้ เราจะไม่เอาความโกรธมาแบก
เราจะไม่เก็บคำพูดแย่ ๆ มาทำลายตัวเอง
และนั่นแหละ… คือการเยียวยาตัวเองทางอ้อม

Step 2: ยอมรับความรู้สึก “เหนื่อยที่ต้องเข้าใจใครอยู่ฝ่ายเดียว”

ไม่ผิดเลยถ้าจะรู้สึกว่าเราแบกความรู้สึกมากเกินไป
บางวันเราอยากแค่ตะโกนว่า
“ให้ฉันพักบ้างได้มั้ย!”

การที่คุณ “รับรู้ว่าคุณเหนื่อย” นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของการฮีล
เพราะ empathy ที่แท้จริง ไม่ได้แปลว่าเราต้อง เข้าใจทุกคนเสมอไป
แต่คือการ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเข้าใจคนอื่น และเมื่อไหร่ควรหันกลับมาเข้าใจตัวเอง

Step 3: ถามใจตัวเอง คุณอยากเป็นคนแบบไหน?

เมื่อเราเจ็บจากการไม่ถูกเข้าใจ
เรามีสองทางเลือก

  • กลายเป็นคนเย็นชาเหมือนที่เราเคยเจอ
  • หรือยังรักษาความอ่อนโยนไว้กับตัวเอง

ไม่มีคำตอบที่ผิด แต่ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้…
แสดงว่าคุณยัง อยากเป็นคนที่เข้าใจคนอื่นได้อยู่
และนั่นคือพลังที่โลกนี้ยังต้องการ

Step 4: Empathy แบบมีขอบเขต = ไม่เจ็บซ้ำ

Empathy ไม่ได้แปลว่า “ยอมให้ตัวเองโดนซ้ำ”
มันคือการเข้าใจ แต่ไม่จำเป็นต้องแบก

ลองตั้งขอบเขตดู เช่น

  • “เราเข้าใจว่าเขาเหนื่อย แต่เราก็ไม่พร้อมฟังตอนนี้”
  • “เราไม่จำเป็นต้องให้อภัยทันที แค่ไม่ปล่อยให้ความโกรธควบคุมเรา”

การเข้าใจโดยไม่ยอมเจ็บอีก = การรักตัวเองในระดับที่ลึกขึ้น

Step 5: ให้ตัวเองในสิ่งที่โลกยังไม่เคยให้

ในเมื่อโลกยังไม่เคยเข้าใจเรา
เราก็เป็น “คนแรก” ที่ให้ความเข้าใจนั้นกับตัวเอง

  • ให้กำลังใจตัวเองก่อนนอน
  • เขียนจดหมายถึงตัวเอง
  • หยุดเปรียบเทียบ
  • หยุดรู้สึกผิดที่เป็นคนอ่อนไหว

การมี empathy เริ่มที่ใจเรา
และวันหนึ่ง… มันจะกลับมาในแบบที่คุณไม่คาดคิด

สรุป: เราไม่ต้องมี empathy กับทุกคน

แต่เราควรมี empathy กับ ตัวเองก่อนเสมอ

แล้วจากตรงนั้น
เราจะเลือกเข้าใจใครก็ได้
โดยไม่ต้องแลกด้วยการทรมานใจตัวเองอีกต่อไป


เรื่อง : ดีจัง


ซีรีส์ : ฝึกจิตฮีลใจ มีด้วยกัน 10 Episodes

EP.1 : ชีวิตอยู่กับ “การเปรียบเทียบ” อดใจไม่ไหวต้อง “เปรียบ” แต่พอ “เทียบ” แล้วสะท้อนใจ

EP.2 : ทำธุรกิจก็ต้อง เปรียบเทียบ คู่แข่ง แต่เปรียบแล้ว เจ้านายก็หัวร้อน ลูกน้องก็เครียด แล้วจะเทียบกันยังไง

EP.3 : ชีวิตไม่ต้องแก้ไขทุกเรื่องหรอก ปล่อยให้เวลาเยียวยาบ้างก็ได้

EP.4 : เพราะเราไม่สามารถควบคุมชีวิตคนอื่นได้ 100% วิตกกังวลใจไปก็เท่านั้น

EP.5 : 12 วิธีฝึกจิตให้มีความสุขและสงบใจ แบบไม่ต้องบวช ไม่ต้องไปค่ายธรรมะ แต่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน

EP.6 : ในวันที่ใจเราหมองหม่นที่สุด ยัง “คิดบวก” ได้อยู่อีกหรือ?

EP.7 : ไม่ใช่มองโลกในแง่ดีแบบพร่ำเพรื่อ แต่ “คิดบวก” ให้เป็น ชีวิตจะเปลี่ยน

EP.8 : ฮีลใจตัวเอง เมื่อต้องมี Empathy ทั้งที่ไม่มีใครเข้าใจเราเลย


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer