Trends / ในยุคที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงตึงเครียด นักศึกษาจีนจำนวนมากกำลังเบี่ยงเบนเส้นทางการศึกษาต่อจากสถาบันชั้นนำในโลกตะวันตก โดย พวกเขามองหาจุดหมายปลายทางที่ให้ทั้งความปลอดภัย ความมั่นคง และความใกล้ชิดทางวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN)

เทรนด์นี้ไม่เพียงแต่กำลังเปลี่ยนแปลงในแวดวงการศึกษาของอาเซียน แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของภูมิภาคนี้ในการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาบุคลากร ส่งเสริมความเข้าใจข้ามวัฒนธรรม และแน่นอนว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ในระดับประชากรแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

การที่รัฐบาลสหรัฐฯ เข้มงวดนโยบายวีซ่ามากขึ้น ประกอบกับกระแสต่อต้านจีนที่เพิ่มขึ้น และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหัน ทำให้ครอบครัวชาวจีนมากมายและตัวนักศึกษาเองต้องทบทวนแผนการศึกษาต่อในต่างประเทศ

ข้อมูลจาก องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ระบุว่า แม้จีนเป็นประเทศที่มีนักศึกษาไปเรียนต่อต่างประเทศมากที่สุดในโลก โดยเมื่อปี 2023 มีมากถึงกว่า 1 ล้านคน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ แต่จำนวนนักศึกษาจีนในสหรัฐฯ ที่เป็นที่หมายการศึกษาต่ออันดับ 1 กลับลดลงถึง 100,000 คน คิดเป็น 25% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

เฉียน หย่าหรู วัย 30 ปี นักศึกษาปริญญาเอกจากสิงคโปร์ กล่าวว่า สิงคโปร์ปลอดภัยมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง” เธอยังชี้ถึง “ความไม่แน่นอนทางการเมือง” ในประเทศอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เธอเลือกมาที่นี่

ด้าน ฉิน ซานซาน วัย 20 ปี นักศึกษาปีสุดท้ายในสิงคโปร์ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอย่างยิ่ง โดยจากข่าวการปล้นและยิงปืนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสหรัฐฯ ทำให้แม้แต่การเดินบนถนนตอนกลางคืนก็ยังเสี่ยง จึงสะท้อนว่าประเทศตะวันตกอย่างสหรัฐฯ และแคนาดานั้นถูกมองว่าอันตราย เมื่อเทียบกับจีนที่ควบคุมอาวุธปืนอย่างเข้มงวด

นอกเหนือจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ค่าครองชีพที่ไม่สูงเกินไปนัก และโอกาสในการหลีกหนีจากความกดดันทางวิชาการและสังคมที่สูงในประเทศจีน ก็เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ดึงดูดนักศึกษาจีนมายังอาเซียน

เดวิด วีคส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Sunrise International บริษัทที่ปรึกษานักศึกษาจากปักกิ่ง เปิดเผยว่า จำนวนนักศึกษาจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยปี 2023 ไทยมีนักศึกษาชาวจีน 18,771 คน เพิ่มขึ้น 21.4% จากปี 2022 โดยมีปัจจัยสำคัญคือ ค่าเล่าเรียนที่เข้าถึงได้ และ วีซ่าที่ผ่อนปรน

ส่วนมาเลเซีย จำนวนนักศึกษาจีนพุ่งสูงขึ้นถึง 5 เท่า ในสี่ปี จาก 8,876 คนในปี 2020 เป็นเกือบ 44,000 คนในปี 2024

นอกจากนี้ การได้หลีกหนีจากความกดดันด้านการเรียนในจีนก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักศึกษาจีนเลือกอาเซียน ตง รั่วเฟย วัย 21 ปี เลือกมาเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรีในประเทศไทย เพราะต้องการ หลีกหนีจากความกดดันทางวิชาการและวัฒนธรรมการทำงานอันเข้มข้นในจีน ซึ่งมีการแข่งขันสูงและตลาดงานที่ท้าทาย เธอยังเน้นย้ำว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ใช่ทางเลือกด้อยกว่า นักศึกษาที่เรียนที่นี่ไม่ได้ด้อยไปกว่านักเรียนในยุโรปหรือสหรัฐฯ เลย

การเพิ่มขึ้นของนักศึกษาจีนในอาเซียนไม่เพียงแต่สร้างโอกาสทางการศึกษา แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้าง Soft Power ของจีนในภูมิภาคนี้อีกด้วย โดย ดร. เงียว ชอว์ บิง จาก Universiti Malaya วิเคราะห์ว่า การมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับนักศึกษาจีนช่วยให้ภาพลักษณ์จีนในสายตาชาวอาเซียนดีขึ้น และเข้าถึงได้มากขึ้น พร้อมลดการเน้นเรื่องธุรกิจ เศรษฐกิจและนโยบายการค้าลงไป

ในทางตรงข้าม นักศึกษาจีนหลายคนก็ได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายทางวัฒนธรรม ไมเคิล หยาง ซึ่งมาเรียนต่อปริญญาเอกที่มาเลเซีย ได้พบกับ สภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่แตกต่าง และได้สร้าง ความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมชั้นจากหลายเชื้อชาติ แม้จะต้องปรับตัวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การไม่ทานเนื้อหมูในมาเลเซีย และฟังเสียงละหมาดจากมัสยิดใกล้ที่พัก แต่ที่สุดก็ปรับตัวได้

สำหรับ ตง รั่วเฟย ในไทย เธอได้เรียนรู้ภาษาไทย ได้ลองมวยไทย และพบว่าการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมได้ ปรับเปลี่ยนทักษะการเรียนรู้และมุมมองของเธอเกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิธีการที่แตกต่างกัน ประสบการณ์เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่หลอมรวมความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ดังนั้น การที่นักศึกษาจีนจำนวนมากตัดสินใจเลือกมาศึกษาต่อในประเทศอาเซียนแทนสหรัฐฯ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์การศึกษาระดับโลก ปัจจัยด้านความปลอดภัย เสถียรภาพ ค่าครองชีพที่ไม่แพง และโอกาสในการหลีกเลี่ยงความกดดันในประเทศจีน ล้วนมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนกระแสนี้

การไหลเวียนของนักศึกษาเหล่านี้ไม่เพียงแต่กำลังกำหนดทิศทางการศึกษาในภูมิภาค แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้าง Soft Power ของจีนผ่านการสร้างความเข้าใจข้ามวัฒนธรรมและมิตรภาพที่แท้จริงในระดับบุคคล ซึ่งอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะยาว และตอกย้ำบทบาทของอาเซียนในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาโดยเฉพาะในกลุ่มชาวจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว / chanelnewsasia 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer