หลังมีข่าวว่า Hybe ค่ายเพลง K-pop เบอร์ต้นๆ ที่ดังจากการปั้นและผลักดัน BTS ให้ดังระดับโลก ประกาศไว้เมื่อต้นปี 2025 จะขยายสาขาในต่างประเทศอีก เพื่อหาไอดอลรุ่นใหม่ๆ จากประเทศต่างๆ ล่าสุดข่าวดังกล่าวเป็นความจริงแล้ว
23 กันยายนที่ผ่านมา Hybe ได้เปิด Hybe India บริษัทลูกที่เน้นเฟ้นหาและปั้นศิลปินในอินเดียขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยตั้งอยู่ในมุมไบ เมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมบันเทิงของอินเดียหรือที่คนทั่วโลกรู้จักในชื่อบอลลีวูดนั่นเอง
นอกจากนี้ในทางธุรกิจด้วยการที่อินเดียเป็นประเทศประชากรมากสุดในโลก หากเจาะตลาดอินเดียได้ย่อมหมายถึงเม็ดเงินมหาศาล
Hybe India ถือเป็นศูนย์ปั้นไอดอลในต่างประเทศแห่งที่ 5 ของ Hybe ต่อจากญี่ปุ่น, สหรัฐฯ, ละตินอเมริกา และจีน ซึ่งตั้งขึ้นตามนโยบาย Multi-Home, Multi-Genre ของ บังชีฮยอก หัวเรือใหญ่ Hybe ที่ต้องการนำระบบการสร้างศิลปินแบบ K-pop ไปปรับใช้ในแต่ละท้องถิ่น เพื่อสร้างศิลปินระดับโลกที่ยังคงรากฐานและวัฒนธรรมของตัวเอง
แผนของ Hybe India จะเริ่มตั้งแต่การจัดออดิชันเพื่อค้นหาผู้มีความสามารถ, สร้างระบบฝึกฝนที่เหมาะกับตลาดอินเดียโดยเฉพาะ และยังจะสนับสนุนกิจกรรมของศิลปินในเครือ Hybe ที่มีอยู่แล้วในอินเดียอีกด้วย
Hybe ยืนยันว่าจะนำศักยภาพทั้งหมดของบริษัทมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาและฝึกฝนศิลปิน, การผลิตอัลบั้ม, การบริหารจัดการ, การตลาด ไปจนถึงการจัดคอนเสิร์ต เพื่อสร้างเส้นทางที่เชื่อมโยงศิลปินอินเดียเข้ากับแฟนเพลงทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ Hybe มีขึ้นหลังเห็นว่าตลาดเพลงในอินเดียกำลังโตขึ้นอย่างมาก ยืนยันได้จากเป็นตลาดเพลงสตรีมมิ่งใหญ่อันดับ 2 และอันดับ 1 ของเอเชีย ผ่านยอดบัญชีผู้ใช้ 185 ล้านคน
พร้อมกันนี้เพลง K-pop ในอินเดียก็กำลังคึกคัก โดยในปี 2023 เพิ่มขึ้นถึง 362% เมื่อเทียบกับปี 2018 ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนที่แพร่หลายมากขึ้น
นอกจากนี้ ในปี 2025 นักร้อง K-pop ก็กำลังดังและเอ็มวีเพลงสไตล์ K-pop ก็กำลังกลายเป็นไวรัล จาก ปาร์ก มิน-จุน (Aoora) นักร้อง K-pop ที่ย้ายไปอยู่อินเดีย และเพลง Kimchi-Dosa ที่เขาทำร่วมกับนักร้องดูโอหญิงชายชาวอินเดีย ตามลำดับ
ยังมีอีกประเด็นน่าสนใจจากการเปิดสาขาในอินเดียของ Hybe นั่นคือ เป็นการย้ำว่า Hybe เองจะพึ่งศิลปินเบอร์ใหญ่ๆ ในค่ายอย่าง BTS และ NewJeans ไม่ได้อีกต่อไป
เพราะวงแรกก็เพิ่งจะกลับมารวมตัวหลังปลดประจำการจากการไปเกณฑ์ทหาร ส่วนวงหลัง แม้กำลังดังแต่ก็ขัดแย้งกับค่ายจนยังไม่มีผลงานใหม่ออกมานานแล้ว
ดังนั้นการไปหาคนรุ่นใหม่จากต่างประเทศจึงอาจเป็นหนึ่งในทางออก . ขณะเดียวกันก็เป็นการสะท้อนว่า วงการเพลง K-pop กำลังสานต่อแผนส่งออกระบบไปยังต่างประเทศ เพื่อขยายฐานแฟนเพลงและการเฟ้นหาคนมีแววจากทั่วโลกมาปั้นเป็นวง K-pop รุ่นต่อๆ ไป เพราะจะใช้แค่คนเกาหลีใต้ ไม่พออีกต่อไป
ดังนั้น K-pop จึงยกระดับขึ้นเป็นแนวเพลง เป็นคำที่สามารถใช้เรียกได้ทั้งวงการ และการมีคนเกาหลีใต้อยู่ในวงหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป แม้เกาหลีใต้ยังเป็นต้นกำเนิดและสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ก็ตาม
หลักฐานยืนยันเทรนด์นี้คือ วง K-pop รุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวช่วง 3 ปีมานี้ และเริ่มดังระดับโลก อย่าง XG เป็นชาวญี่ปุ่นยกวง และ Katseye มีเพียงคนเดียวเท่านั้นจากสมาชิก 6 คนที่เป็นชาวเกาหลีใต้ / koreaherald