เกินสิบปีมาแล้วที่เราใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นประตูบานแรกในการหางาน จนลืมไปเลยว่ายุคหนึ่งเคยเปิดหน้าโฆษณารับสมัครงานของหนังสือพิมพ์เพื่อหางานทำกันมาก่อน
โดยหลังจากนั้นแพลตฟอร์มรับสมัครงานก็มีการพัฒนาให้ทันเทรนด์เทคโนโลยี ด้วยการนำอัลกอริทึมและเอไอเข้ามาใช้เพื่อความรวดเร็วในการคัดกรองข้อมูล และจับคู่คนกับงาน

แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ทำไมโพสต์ของคุณบน LinkedIn แพลตฟอร์มหางานชื่อดัง ถึงไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร หรือไม่ไปเตะตาฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทที่คุณหมายตาไว้เสียที
สาเหตุที่ทำให้คุณถูกมองข้าม อาจเป็นเรื่องที่คุณคาดไม่ถึง และอาจเป็นการแสดงให้เห็นถึงอคติในแพลตฟอร์ม เพราะมันอาจมาจากการที่คุณเป็นผู้หญิง
เมื่อราวกลางพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้หญิงที่ใช้ LinkedIn ในอังกฤษหลายสิบคนได้เข้าร่วมการทดลองกลุ่ม หลังจากที่มีโพสต์หนึ่งอ้างว่า การเปลี่ยนเพศบนโปรไฟล์เป็น “ชาย” สามารถเพิ่มการมองเห็นเนื้อหาบนแพลตฟอร์มนี้ได้
กิจกรรมดังกล่าวที่กำลังเป็นเทรนด์นี้เรียกกันว่า Bro-boost โดยผู้ที่เข้าร่วมจะใช้ภาษาที่เน้นคำศัพท์ทางธุรกิจออนไลน์เชิงปฏิบัติการที่แสดงความเป็นชาย เช่น “Drive” (ขับเคลื่อน), “Transform” (เปลี่ยนแปลง), และ “Accelerate” (เร่งความเร็ว)

ต่อเนื่องไปถึงการเปลี่ยนสรรพนามต่าง ๆ หรือปลอมประวัติให้ดูเป็นชาย เช่น เปลี่ยนสรรพนามจาก Her (ของเธอ) เป็น His (ของเขา) หรือเปลี่ยนชื่อให้ดูมีความเป็นชาย ที่อาจเรียกรวม ๆ ได้ว่า เป็นการเขียนโค้ดหลอกเอไอให้เชื่อว่าตนเองเป็นผู้ชาย
ผลที่ออกมาถือว่าน่าตกใจ โดย ซีโมน บอนเน็ตต์ ที่ปรึกษาด้านโซเชียลมีเดียที่ร่วมกิจกรรมนี้เผยว่า ยอดดูโปรไฟล์ของเธอเพิ่มขึ้น 1,600% และยอดแสดงโฆษณาเมื่อโพสต์ปรากฏบนหน้าจอ (Impression) เพิ่มขึ้นรองลงมาที่ 1,300%
ขณะที่ เมแกน คอร์นิช เผยว่าเพียงสัปดาห์แรก ยอดเข้าถึงพุ่งขึ้นทันที 415% และยอดการแสดงความคิดเห็น (Reaction) ก็มีมากเกือบ 5,000 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม เธอกลับไม่พอใจกับผลที่ออกมา เพราะแม้สะท้อนว่าเป็นการเพิ่มโอกาส (Boost) การได้งาน แต่ก็ทำให้ตนเองดูมั่นใจในตัวเองมากเกินไปจนเหมือนผู้ชายผิวขาวกำลังเดินวางท่า ต่างจากตัวเองคนเดิมที่เป็นผู้หญิง นุ่มนวลและอบอุ่น
ด้าน คาส คูเปอร์ นักเขียนด้านเทคโนโลยีและอัลกอริทึมโซเชียลมีเดีย กล่าวว่า นี่แสดงให้เห็นถึงอคติในอัลกอริทึม และเอไอ พร้อมกับสะท้อนถึงอคติและการเหยียดเพศในธุรกิจแพลตฟอร์ม ที่เมื่อสืบย้อนไปอาจพบว่า คนที่เขียนอัลกอริทึม และวางระบบเอไอ อาจเป็นชาย
โดยหากข้อสันนิษฐานนี้เป็นจริง จะเป็นการสะท้อนว่า วงการนี้ยังไม่มีความเท่าเทียมทางเพศเท่าที่ควร เพราะกลุ่มผู้ชาย (ฺฺBro) ยังเป็นใหญ่อยู่นั่นเอง
การทดลอง Bro-boost นี้เกิดขึ้นหลังจากแกนนำทำกิจกรรมทั้งสามคนสังเกตว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึม LinkedIn ทำให้การมองเห็นโปรไฟล์ของผู้หญิงในแพลตฟอร์มลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ด้าน LinkedIn ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้แบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ไม่มีการเขียนโค้ดให้ผู้ชายเด่นหรือได้รับการมองเห็นมากกว่าผู้หญิง และการที่โปรไฟล์ของบางคนได้รับการมองเห็นมากกว่า อาจมาจากการอัปโหลดวิดีโอเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา
ส่วนปัญหาอคติทางเพศ และการลำเอียงของระบบนั้น มีการตรวจสอบและประเมินอยู่ตลอด เพื่อให้แพลตฟอร์มเป็นกลางและโปร่งใส

สำหรับความลำเอียงของอัลกอริทึมและเอไอนั้น เกิดจากการที่มีคนจงใจกำหนดค่าตั้งต้นเข้าข้างกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป หรือเจาะจงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป จนทำให้กลุ่มที่ถูกมองข้ามเสียโอกาสในชีวิต และถูกจับจ้องเพื่อนำไปสู่การจับกุมตามลำดับ
ซึ่งในกรณีของแพลตฟอร์มสมัครงานชื่อดังที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมานี้ คือการทำให้ผู้หญิงเสียเปรียบผู้ชายในการสมัครงาน เพราะข้อมูล และประวัติย่อต่างๆ นั้นปรากฏให้เห็นในแพลตฟอร์มน้อยกว่านั่นเอง / theguardian
