เมืองหลวงของไทยยิ้มรับข่าวดีด้านการท่องเที่ยวอีกครั้ง โดย ตามการประเมินจากรายงาน Top 100 City Destination Index ของ Euromonitor บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาทางการตลาดในอังกฤษ คาดว่า ปี 2025 กรุงเทพฯ จะเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนมากสุดในโลก ด้วยจำนวนคาดการณ์ประมาณ 30.3 ล้านคน

กรุงเทพฯ เลื่อน 7 อันดับขึ้นมาครองอันดับหนึ่งของโลกมาตั้งแต่ปี 2024 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 32.4 ล้านคน โดยแม้ว่าจำนวนคาดการณ์ในปี 2025 จะลดลงประมาณ 7% แต่ก็ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน
Euromonitor วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเล็กน้อยนั้น มาจากการที่ไทยต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ความกังวลด้านความปลอดภัย และการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งในภูมิภาค

ขณะที่ ฮ่องกง ขยับขึ้น 2 อันดับจากปี 2024 มาอยู่ในอันดับ 2 ในปี 2025 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะอยู่ที่ 23.2 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 6%
ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดใช้งานอาคารผู้โดยสาร 2 ที่ขยายเพิ่มเติม ณ ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง และการเปิดตัว สนามไคตั๊ก ซึ่งเป็นสถานที่จัดแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติครั้งสำคัญหลายรายการ
สำหรับอีก 3 อันดับที่ตามมาในกลุ่ม 5 อันดับสูงสุดของปี 2025 คือ กรุงลอนดอน (อังกฤษ) มาเก๊า (เขตปกครองของจีน) และ อิสตันบูล (ตุรกี) โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะอยู่ที่ 22.7 ล้านคน, 20.4 ล้านคน และ 19.7 ล้านคน ตามลำดับ

ในกลุ่มนี้ มาเก๊า ถือเป็นเมืองที่น่าจับตามองมากที่สุด เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นถึง 14% และการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับก็มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วกว่านั้น โดยผู้มาเยือนเกือบ 90% มาจากจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง
ความสำเร็จของมาเก๊านั้นมาจากการปรับกลยุทธ์เพื่อลดการพึ่งพารายได้หลักจากธุรกิจคาสิโน และหันมาเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะจุดหมายปลายทางชั้นนำของภูมิภาค ผ่านนโยบายที่เน้นนวัตกรรม เช่น โครงการให้สิทธิ์ผู้อยู่อาศัยในเมืองจูไห่เดินทางเข้า-ออกได้แบบ “หนึ่งทริปต่อสัปดาห์” และนโยบาย “เข้าได้หลายครั้ง” สำหรับผู้มาเยือนจากเหิงฉิน ซึ่งช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้อย่างดีเยี่ยม
รายงาน Top 100 City Destination Index 2025 ได้จัดอันดับเมืองทั่วโลกทั้งหมด 100 เมือง โดยมีถึง 6 เมืองในเอเชีย ที่ติดอยู่ใน 10 อันดับสูงสุด ซึ่งนอกเหนือจากกรุงเทพฯ ฮ่องกง และมาเก๊าแล้ว ยังมี ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) มักกะฮ์ (ซาอุดีอาระเบีย) และ กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย) ติดอันดับด้วย
ทั้งนี้ Euromonitor ยังได้ประเมินความน่าดึงดูดของเมืองต่างๆ โดยพิจารณาจากเกณฑ์หลัก 6 ด้าน คือกิจกรรมทางเศรษฐกิจและธุรกิจ, ประสิทธิภาพด้านการท่องเที่ยว, โครงสร้างพื้นฐาน, นโยบายและแรงดึงดูดด้านการท่องเที่ยว, สาธารณูปโภคด้านการดูแลสุขภาพและความปลอดภัย, และความยั่งยืน /euromonitor
